ไม่ว่าการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ไม่ว่าการเลือกตั้งเมื่อ เดือนกรกฎาคม 2554 สะท้อนความแค้นอันล้ำลึกออกมาให้จับ

ต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม

​เพราะว่า 1 เป็นการเลือกตั้งภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกัน ยายน 2549

​เพราะว่า 1 เป็นการเลือกตั้งภายหลังการยุบพรรคพลังประ

ชาชน และการแยกตัวออกไปของกลุ่ม นายเนวิน ชิดชอบ กลายมาเป็นพรรคภูมิใจไทย

​จึงเกิดปรากฏการณ์อันนำไปสู่สโลแกนที่ว่า “รับเงินหมา กา เพื่อไทย”

​แล้วการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 แค้นจะอยู่ที่ไหน

 

ความแค้นต่อพรรคภูมิใจไทยอาจเจือจางลงไปเพราะได้เกิดพรรค พลังประชารัฐ ประกาศภาระหน้าที่ในการสืบทอดอำนาจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

​เป็นบทบาทเดียวกันกับพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิป ไตยในการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550

​เพียงแต่คราวนี้ฝังตัวยาวนานมากยิ่งกว่า

​นั่นก็คือ บางส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย เข้าไปมีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลคสช.และมีบทบาทอย่างสำคัญในการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐขึ้น

​สัมผัสได้จากการปล่อยของในเรื่อง”พลังดูด”อันมาจากการขับเคลื่อนของ “กลุ่มสามมิตร”

​แค้นต่อ “คสช.” นั่นเป็นเป้าหมายใหญ่อย่างแน่นอน

​ขณะเดียวกัน แค้นต่อคนที่แยกตัวออกไปกับกระแส”พลังดูด” ก็ดำรงอยู่ แต่การที่ปรากฏเงาร่างของ นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมกับผู้สมัคร 10 เขตขอนแก่นนับว่าแจ่มชัด

​เป้าหมายย่อมเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

 

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับมอบหมายให้ รับผิดชอบการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานของพรรคพลังประชารัฐ

​โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

​นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศอย่างฮึกห้าวเหิมหาญว่า ถ้าหากไม่ได้ ส.ส.ยกจังหวัดจะเลิกเล่นการเมือง

​นี่ย่อมเป็น“เดิมพัน“ด้วยชีวิตทางการเมืองทั้งชีวิต