เนื้อหาใจกลางของ “การเลือกตั้ง” ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 24 มีนาคมสะท้อนให้เป็น”การต่อสู้”อย่างเด่นชัด

คล้ายเป็นการต่อสู้ระหว่าง “พลังประชารัฐ” กับ “เพื่อไทย”

โดยที่พลังประชารัฐแวดล้อมด้วยรวมประชาชาติไทยประสานเข้ากับประชาชนปฏิรูป ประสานเข้ากับพลังชาติไทย พลังธรรมใหม่

โดยที่เพื่อไทยแวดล้อมด้วยประชาชาติ ไทยรักษาชาติ เพื่อชาติ และรวมถึงพันธมิตรที่อยู่ในแนวเดียวกันอย่างอนาคตใหม่

ในที่สุด ก็อยู่ที่”การต่อสู้”ของ 2 แนวทาง 2 ความคิด

ความคิด 1 ต้องการต่ออำนาจคสช. ความคิด 1 ต้องการยุติอำนาจคสช.

 

มีความเด่นชัดยิ่งว่า พรรคพลังประชารัฐ คือ กองหน้าในการต่อท่ออำนาจให้กับคสช.

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ตัวแทน

มีความเด่นชัดยิ่งว่า พรรคเพื่อไทย คือ กองหน้าในการพยา ยามยุติอำนาจของคสช.

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเป้าหมายโจมตี

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐชูความสำเร็จ ชูความรุ่งโรจน์ของบ้านเมืองที่อยู่ภายใต้การบริหารของคสช.นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา

มีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะชี้ให้เห็นความล้มเหลวว่าเป็นอย่างไร

การเดินสายของพรรคพลังประชารัฐคือชูด้านที่งดงาม

การเดินสายของพรรคเพื่อไทยคือชูด้านที่อัปลักษณ์

อาจกล่าวได้ว่าคสช.และพรรคพลังประชารัฐคือฝ่ายที่ตั้งโจทย์ โดยมีพรรคเพื่อไทยและพันธมิตรชี้จุดอ่อนของโจทย์

นี่คือ 2 แนวทาง 2 พรรคการเมืองที่ต่อสู้กัน

 

ยิ่งใกล้ “วันเลือกตั้ง” มากเท่าใด การแยกขั้ว แตกกลุ่มในทางการ เมืองก็จะได้รับการจัดระเบียบ สร้างความแจ่มชัด

แจ่มชัดว่าจะเลือกไปอยู่แนวทางใด กลุ่มใด

ท่ามกลางการเคลื่อนไหวก็จะมีพรรคการเมืองอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งยังไม่ตัดสินใจ

นั่นก็คือ ตัดสินใจ”เลือก” ระหว่าง 2 แนว 2 กลุ่ม