ข้อเสนอให้ตัด “ชื่อ“และ”โลโก้พรรค”ออกจาก”บัตรเลือกตั้ง”ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ท้าทายต่อ “ภูมิปัญญา”ที่มีอยู่ในสังคมไทยเป็นอย่างสูง

เพราะลำพังเหตุผลอันมาจาก”กกต.”ว่าเกี่ยวกับการขนส่งน่าจะยังไม่เพียงพอ

ไม่เพียงพอว่า”ชื่อ”และ”โลโกพรรค”จะเป็นอุปสรรค

เพราะชื่อว่าด้วย”ชื่อ”และ”โลโก”ก็สามารถพิมพ์ลงโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มหรือขยายพื้นที่ของ”บัตรเลือกตั้ง”แต่อย่างใด

นี่เป็นเรื่องของ”การพิมพ์”มิได้เป็นเรื่องของ”น้ำหนัก”

มีความจำเป็นที่ไม่ว่า “เนติบริกร” ไม่ว่า”คุณห้อยคุณโหน” จักต้องจัดแถวหน้าระดานเรียงหนึ่งออกมาเป็น”ตัวช่วย”

ตัวช่วยให้กับ”กกต.” ตัวช่วยให้กับ”คสช.”

 

ความจริงเรื่องนี้มิได้เป็นความลี้ลับอะไร ใครก็ตามซึ่งอยู่ในที่ประชุมร่วมระหว่าง 80 กว่าพรรคการเมืองกับคสช.และแม่น้ำ 5 สายล้วนรับรู้กันทั้งสิ้น

รับรู้ว่ามาจาก”สมองก้อนโต”ของท่านใด

สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็คือ เหตุผลที่จะมารองรับว่าเหตุใดจึงไม่ควรพิมพ์”ชื่อ”และ”โลโก้พรรค”ลงไปใน”บัตรเลือกตั้ง” แม้ว่าในกาล อดีตจะเคยมี

แม้ว่า”บัตรเลือกตั้ง”ในต่างประเทศ ไม่ว่าอัฟริกาหรือเอเชียล้วนมีด้วยกันทั้งสิ้น

บรรดา “นักกฎหมาย”ที่อยู่ในคสช. บรรดา “นักกฎหมาย”ที่อยู่ในกรธ. บรรดา”นักกฎหมาย”ที่อยู่ในสนช. บรรดา “นักกฎหมาย”ที่อยู่ในพรรคคสช.

ไม่ควรสงบนิ่งอยู่ใต้ร่มไม้ ตรงกันข้าม จักต้องไสช้างออกมาสำแดงเหตุผลกันให้ถ้วนหน้า

จะปล่อยให้คนของพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ พรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคประชาธิปัตย์ แสดงบทบาทแต่เพียงฝ่ายเดียวได้อย่างไร

 

เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้หลายคนมักนึกถึง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นึกถึง นายวิษณุ เครืองาม และนึกถึง นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ว่าจะมีความเห็นอย่างไร

แปลกที่ไม่มีใครนึกถึง นายบรรเจิด คงคะจันทร์ ไม่มีใครนึกถึง นายแก้วสรร อติโพธิ

ทั้งๆทีท่านเหล่านี้รอบรู้เป็นอย่างสูง