ไม่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่ว่า นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ว่า นาย ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ถือเป็นสีสันอันเพริศแพร้ว พรรณรายยิ่งในทางการเมือง

ยิ่งนำไปวางเรียงอยู่เคียงข้างกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยิ่งเห็นจุดต่าง

โดยเฉพาะกระบวนการพูด การปราศรัย

อย่าได้แปลกใจหาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะเอ่ยขอบคุณต่อมติพรรคพลังประชารัฐ แต่งตั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คุมภาคอีสาน

เชื่อได้เลยว่า นายวัฒนา เมืองสุข และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก็ขอบคุณ

 

ความจริง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายวัฒนา เมืองสุข นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ น่าจะเอ่ยขอบคุณตั้งแต่การประชุมใหญ่ที่โรงแรมแชงกรีลาของพรรคพลังประชารัฐแล้ว

เมื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกมาประกาศ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”

นั่นคือ การสรุปอย่างชนิดที่เรียกว่า “รวบยอด”

มิใช่เพราะความเชื่อที่ดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐเช่นนี้หรอกหรือที่นำไปสู่คำประกาศจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิร วงศ์ ที่ว่า

“พรรคพลังประชารัฐจะกวาด 350 ส.ส.”

คำประกาศไม่ว่าจะมาจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไม่ว่าจะมาจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จำเป็นต้องได้รับคำขอบคุณ

เพราะเท่ากับ “เปลือย” ตัวตนแห่ง”พลังประชารัฐ”ออกมาอย่างล่อนจ้อน

 

ไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ จะต้องกล่าวขอบคุณต่อหลายคำพูดที่ทะยอยออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ

หากยิ่งต้องส่งเสริมให้พูดมากกว่านี้

ขณะเดียวกัน ก็ต้องจับตาการประกบคู่ทางการเมืองระหว่าง พลังประชารัฐ เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ

คำต่อคำ หมัดต่อหมัด ประดาบก็เลือดเดือด

เพียงแต่เมื่อปะเข้ากับนักชกจากเพื่อไทย ไทยรักษาชาติ ทางด้านพลังประชารัฐจะยืนระยะได้แค่ไหนเท่านั้น