ไม่ว่าปัญหาอันปรากฏที่บ้าน นายถาวร เสนเนียม ที่สงขลา ไม่ว่า ปัญหาอันปรากฏที่บ้าน นายวิทยา แก้วภราดัย ที่นครศรีธรรมราช เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นเรื่องของ “กรรมเก่า”

ถามว่าเหตุใด นายถาวร เสนเนียม ต้องเปิดบ้านต้อนรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

เพราะความผูกพัน “เก่า”

ถามว่าเหตุใด นายวิทยา แก้วภราดัย ต้องเปิดบ้านต้อนรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

เพราะความผูกพัน “เก่า”

เป็นความผูกพันตั้งแต่อยู่ร่วมกันในพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ความผูกพันตั้งแต่ร่วมเคลื่อนไหวด้วยกันในกปปส.

ความผูกพันนี้แนบแน่น ลึกซึ้ง

 

ถามว่าแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีความผูกพันกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรอกหรือจึงต้องมีคำสั่งให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของ นายถาวร เสนเนียม

และสำทับเตือนไปยัง นายวิทยา แก้วภราดัย ให้ระมัดระวัง

คำตอบของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พิจารณาจาก 2 พฤติการณ์ที่มีความล่อแหลมอย่างยิ่งของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระหว่างเข้าประตูบ้าน นายถาวร เสนเนียม

1 มีการตั้งโต๊ะเปิดรับสมาชิกเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย มิใช่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

1 มีการกล่าวพาดพิงถึงการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค

เป็นการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มิใช่ตำแหน่ง หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย

เท่ากับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีเส้นแบ่งแจ่มชัดว่าบทบาทของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเรื่องของ พรรครวมพลังประชาชาติไทย มิใช่พรรคประชาธิปัตย์

เป็น นายถาวร เสนเนียม ต่างหากที่ไขว้เขว

 

ไม่ว่าบทบาทของ นายถาวร เสนเนียม ไม่ว่าบทบาทของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าบทบาทของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ล้วนเป็นเรื่องเนื่องแต่ “กรรมเก่า”

เป็นกรรมเก่าแต่ครั้งร่วมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นกรรม เก่าอันคนของพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกิจกรรมการเมืองบนท้องถนนร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

“กรรมเก่า”นั้นเองที่ย้อนกลับมายัง”ประชาธิปัตย์”