เผยแพร่ |
---|
มีความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะจากพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ
เป็นความคึกคักของการเปิดรับ “สมาชิก”
ไม่เพียงแต่เห็นการปรากฏตัวของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ไม่เพียงแต่เห็นการปรากฏตัวของ นายสุพล ฟองงาม ยังเห็นการปรา กฏตัวของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์
ทั้งหมดนี้ล้วนเคยสัมพันธ์กับ ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย
เช่นเดียวกับการปรากฏตัวของ นายสุธรรม แสงประทุม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายพิชัย นริพทะพันธุ์ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล
3 คนนี้ล้วนสัมพันธ์ ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย
การปรากฏตัวของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายสุพล ฟองงาม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ สร้างความคึกคักให้กับพรรคพลังประชารัฐอย่างเด่นชัด
บั่นทอนความแข็งแกร่งของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน
หากกลุ่มสามมิตรที่นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ตบเท้าเข้าไปในอีก 2-3 วันข้างหน้า ยิ่งสร้างความคึกคักให้กับพรรคพลังประชารัฐ
เช่นเดียวกับ หากบิกเนมเดินพาเหรดเข้าไปยังพรรคไทยรักษาชาติ ก็ยิ่งจะสร้างความคึกคักให้กับพรรคไทยรักษาชาติเช่นเดียวกับที่เห็นจากพรรคพลังประชารัฐขณะนี้
เท่ากับสะท้อนให้เห็นถึงการเดินทาง 2 สายในทางการเมืองโดยมีจุดเริ่มต้นจาก ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย
1 ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ
ขณะเดียวกัน 1 ไปร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ กับพรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ
นี่ย่อมอยู่ตรงกันข้ามกับพรรคพลังประชารัฐอย่างเด่นชัด
เส้นตายอันเหมือนกับเส้นแบ่งทางการเมืองไม่เพียงแต่จะอยู่ที่วันที่ 26 พฤศจิกายน หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังอยู่ที่วันที่ 11 ธันวาคม
เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งประกาศออกมา
นั่นเท่ากับเกิด 2 ขั้วทางการเมืองยืนประจันหน้ากันโดยมีวันเลือกตั้งเป็นเกณฑ์ชี้ขาด
ชัยชนะจะเป็นของ”พลังประชารัฐ”หรือ”เพื่อไทย”