เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการได้สมาชิกพรรค 14 คนจากปฏิบัติการ”เดินคารวะแผ่น ดิน”ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่จังหวัดตราด
ไม่ว่าการได้สมาชิก 500 คนของพรรคพลังท้องถิ่นไทย
ไม่ว่าการยืนยันว่าพรรคพลังธรรมใหม่ได้สมาชิกแล้วกว่า 10,
000 คน
ล้วนทรงความหมายเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
มิได้ทรงความหมายเพราะว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำ หรือพรรคพลังท้องถิ่นไทยมี ชัช เตาปูน เป็นผู้นำ หรือพรรคพลังธรรมใหม่มี นพ.ระวี มาศฉมาดล เป็นผู้นำ
ที่สำคัญยังหมายถึงการได้รับพลังหนุนมาจากประชาชน
ในระยะแห่งการขยับขับเคลื่อน พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีความมั่นใจว่าจะได้ร่วมรัฐบาลแน่ๆ
มั่นใจพอๆกับ”รองนายกรัฐมนตรี”บางคน
ยืนยันต่อหน้า 400 ซีอีโอทั้งที่เป็นคนไทยและชาวต่างประเทศว่า
“สังวรณ์ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นคนหน้าเดิม”
ในเมื่อคนพูดเป็น “รองนายกรัฐมนตรี”ในรัฐบาลปัจจุบันคำว่า “คนหน้าเดิม”จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก “นายกรัฐมนตรี” คนปัจจุบัน
นั่นก็คือ เป็น”นาย”ของรองนายกรัฐมนตรีคนนั้น
การได้ร่วมกับรัฐบาลจากความมั่นใจของพรรครวมพลังประ ชาชาติไทยก็หมายถึงการได้ร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง
กระนั้น คำตอบโดยพื้นฐานหนึ่งของทุกพรรคการเมืองก็คือ จะต้องส่งคนลงสมัครได้ครบ 350 เขตและ 150 ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ตรงนี้ต่างหากคือคำตอบสุดท้าย
คำตอบสุดท้ายของทุกพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรครวมพลัง ประชาชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังธรรมใหม่ หรือพรรคพลังท้องถิ่นไท
จึงมิได้อยู่ที่มีคำว่า”พลัง”อย่างเดียว หากแต่อยู่ที่ฐานสมาชิกและฐานของเงินทุน
350 เขตสำคัญยิ่งแล้ว การได้รับเลือกยิ่งสำคัญมากกว่า
จำนวน ส.ส.ที่ได้ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ จึงทรงความหมาย