ปรากฏการณ์ “ประเทศกูมี” เป็นปรากฏการณ์อันถือได้ว่าเป็นเงาสะท้อนที่มีลักษณะ “แปลกแยก” เป็นอย่างสูงในสังคมไทย

เพียงเพราะว่าเป็น “แร็พ” ก็ประหลาดอย่างยิ่ง

หากมองจากความเป็นของ”ต่างประเทศ” ต้องยอมรับว่าการ ดำรงอยู่ของ”แร็พ”เป็นการดำรงอยู่อย่าง “แปลกหน้า”

ไม่เพราะความเป็น “ต่างด้าว” หากแต่ในความเป็นต่างด้าวของ “แร็พ” ยังได้รับความนิยมน้อยกว่าเพลงจากต่างประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเรียกว่า “คลาสสิค” หรือ”แจ๊ซ” หรือ”ร็อค”

นั่นก็คือ ไม่มีลักษณะที่เรียกได้ว่า “ป๊อบ”

ปรากฏการณ์ “ประเทศกูมี” จึงยากที่จะตีความ ยากที่จะเข้าใจได้โดยง่าย

แม้กระทั่งกลุ่ม RAD เองก็ยังงุนงง สงกา

 

นอกเหนือจากการเป็นวัฒนธรรม”ย่อย”ในวัฒนธรรมกระแสหลักไม่ว่าจะมองไปยังการดำรงอยู่ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะมองไปยังการดำรงอยู่ในสังคมไทย

จุดล่อแหลมอีกจุดหนึ่งของ “ประเทศกูมี” คือมีเนื้อหาในทางสังคม และแตะประเด็นในทาง “การเมือง”

จึงก่อให้เกิด “ปฏิกิริยา” อย่างกว้างขวาง

มิได้เป็นเรื่องแปลกที่บรรดา”โฆษก”ทั้งหลายไม่ว่าจะมาจากทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะมาจากสำนักเลขาธิการคสช. ไม่ว่าจะมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จะออกมากล่าวโทษ”ประเทศกูมี” ด้วยความหงุดหงิด รำคาญและต้องการสกัดขัดขวางโดยประกาศคำสั่งของคสช.และกฎหมายคอมพิวเตอร์

เพราะว่าท่านเหล่านี้ไม่เพียงแต่แปลกแยกต่อ”แร็พ” หากยังแปลกแยกต่อ “เนื้อหา”อันปรากฏผ่าน “ประเทศกูมี”

เพราะว่า RAD คือ กลุ่มแร็พต่อต้าน “เผด็จการ”

 

การที่ “ประเทศกูมี”ทะยานจากหลักหมื่นในเบื้องต้นผ่านหลักแสนและเข้าสู่หลักล้าน กระทั่งทะลุ 21 ล้าน

อย่าว่าแต่คสช.และรัฐบาลจะยังงง-งง

หากแม้กระทั่งกลุ่มแร็พต่อต้านเผด็จการหรือ RAD เองก็ยังต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างรอบด้านว่าอะไรคือ”เนื้อดิน”ก่อให้เกิด “ปรากฏการณ์”

“ประเทศกูมี”จึงเป็นปรากฏการณ์สะท้อน”อุณภูมิ”อันละเอียดอ่อนยิ่งในทางสังคม