เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรครวมพลัง ประชาชาติไทย ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ
ล้วนชูภาพของ “คนรุ่นใหม่”
เป็นคนรุ่นใหม่ในภาคธุรกิจ เป็นคนรุ่นใหม่ในสถาบันการศึก ษา เป็นคนรุ่นใหม่ในแวดวงบันเทิง
พลันความคึกคักก็บังเกิด ปรากฏ
เริ่มมีการพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ เริ่มมีการพูดถึงกระบวนการหาเสียงผ่านโลกออนไลน์ เริ่มมีบทเพลงพูดถึงสีสันใหม่ๆในทางการเมือง
เกิดความคาดหมายว่าจะมีปรากฏการณ์ใหม่ที่แตกต่างออกไปในการเลือกตั้งครั้งนี้
ปัจจัยใหม่ๆเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ต้องยอมรับว่าการปรากฏขึ้นของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อม กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผ่าน”พรรคอนาคตใหม่” คือ หวอดแรกของการสร้างผลสะเทือน
เห็นได้จากได้มีการเปิดเวที “คนรุ่นใหม่”
นำเอา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปประกบกับ นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ จากพรรคประชาธิปัตย์
เท่านั้นไม่พอ ยังดึง เอาน้องไอติม เข้ามาอีก
การเปิดตัวพรรคการเมืองเริ่มมีความสำคัญไม่เพียงแต่จาก พรรคอนาคตใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม หากลามไปยังพรรครวมพลังประชาชาติไทยในเดือนมิถุนายน
และเมื่อถึงคิวของพรรคพลังประชารัฐในเดือนกันยายน ถึงกับจองห้องของอิมแพค อารีนา เมืองทองธานี
จุดเน้นอย่างสำคัญ คือ คนรุ่นใหม่
ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคพลังประชารัฐ
“คนรุ่นใหม่” คือ “จุดขาย”ในตลาดการเมือง
ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่บางพรรคการเมืองมีคนรุ่นใหม่ แต่การขับเคลื่อนอยู่ในมือของคนรุ่นเก่า
บางพรรคหนีไม่ออกจากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
จุดเปรียบเทียบอย่างแหลมคมจึงอยู่ที่ว่า พรรคไหนเป็นของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง พรรคไหนมิได้เป็นเช่นนั้น
ตรงนี้”คนรุ่นใหม่”สามารถให้”คำตอบ”ได้