เผยแพร่ |
---|
การที่ 4 รัฐมนตรีได้รับการชูให้เข้ารับบทบาท “นำ” ภายในพรรคพลังประชารัฐสะท้อนให้เห็นความมั่นใจของคสช.และของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นอย่างไร
1 ต้องดูว่า 4 รัฐมนตรีมีรากฐานอย่างไร
นายอุตตม สาวนายน เป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ นายสุ วิทย์ เมษินทรีย์ เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนมาอยู่กระทรวงวิทยาศาสตร์
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เคยเป็นนักการธนาคารก่อนมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
1 ทั้งหมดล้วนอยู่ในทีม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
2 ปัจจัยนี้สะท้อนให้เห็นว่าคสช.มั่นใจในผลงานและความสำเร็จในทางเศรษฐกิจที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามาแบกรับผ่านตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
เห็นได้จากการเน้น EEC มาเป็นจุดเด่น
รูปธรรมคือ การขยายบทบาทของนักการเมืองจากพรรคพลัง ชล ไม่ว่าจะเป็น นายสนธยา คุณปลื้ม ไม่ว่าจะเป็น นายอิทธิพล คุณปลื้ม
พลังดูดที่ทะลวงเข้าไปใน ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง สระแก้ว จันทบุรี ตราด ล้วนเป็นฝีมือของ 2 ประสาน
1 คสช. กับ 1 พลังชล
จุดขายอย่างสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ คือ ประชารัฐและไทยนิยม ยั่งยืน
น้ำหนักจึงวางอยู่ที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทั้กษ์
รูปธรรมก็คือ การส่ง 4 รัฐมนตรีจาก “ทีมเศรษฐกิจ” เข้าไปในพรรคพลังประชารัฐ
เป็นหัวรถจักรในการเพิ่มตัวเลขของ ส.ส.
เมื่อมองจากความสำเร็จในด้านการสร้างความสงบโดยฝีมือของคสช. ประสานเข้ากับความเชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาทาง เศรษฐกิจมีผลงาน คสช.จึงมากด้วยความมั่นใจ
และความมั่นใจนี้จึงมอบให้กับทีมงานเศรษฐกิจของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อย่างเต็มพิกัด
จะชนะหรือจะสำเร็จก็จาก 2 ปัจจัยนี้เป็นสำคัญ