เผยแพร่ |
---|
ระหว่างปฏิบัติการของ “กลุ่มสามมิตร” ในการเดินสาย”พลังดูด”จากเลยไปยังนครราชสีมา กับที่ “รัฐบาล”ใช้มติครม.ในการดึงเอา คนจากบางพรรคการเมืองมารับตำแหน่ง
มีทั้งความเหมือนและความต่าง
ความเหมือนอยู่ที่ทั้งหมดนี้ คือ ความพยายามในการสร้าง พันธมิตรในทางการเมือง
เพียงแต่”สามมิตร”มีเป้าหมายไปที่ “การเลือกตั้ง”โดยตรง
ขณะที่เมื่อเป็น”รัฐบาล”จึงต้องใช้วิธีในการเชิญตัวเข้าไปยัง
“ทำเนียบรัฐบาล”
แล้วใช้ “มติครม.” มาเป็นเครื่องกำหนด
ส่วนเป้าหมายสุดท้ายจะอยู่ที่การสังกัดพรรคและการเลือกตั้งหรือไม่ “คำตอบ”อยู่อีกไม่นาน
หากนำเอากรณีของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จากเลยมาวางคู่กับกรณีของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จากกทม.
จะมองเห็นความแตกต่าง
กรณีของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จำกัดอยู่เพียงการพบกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
หรืออย่างมากก็เมื่อมี “ครม.สัญจร”
แต่กรณีของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มิได้เป็นการพบ ณ รีสอร์ท แล้วก็นำมาถ่ายทอดผ่านคลิปวิดิโอ ตรงกันข้าม เกิดขึ้นกลางทำเนียบรัฐบาล
ผลก็คือ มีมติครม.ออกมาอย่างเปิดเผยให้ดำรงตำแหน่งอะไรอยู่ในรัฐบาล
ดำเนินไปเหมือนกรณี นายสกลธี ภัททิยะกุล
ช่วงชั้นระยะห่างระหว่าง นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จึงต่างไปจาก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ นายสกลธี ภัททิยะกุล
อาจเพราะ 2 คนหลังมาจาก”ประชาธิปัตย์”
ความน่าสนใจก็คือ ปลายทางของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข กับ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อยู่ที่ไหน
จะอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ หรือ รวมพลังประชาชาติไทย
แต่ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ หนุนการสืบทอดอำนาจของคสช.และของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นั่นก็คือ หายใจร่วมรูจมูกเดียวกัน