พลันที่มีการแจ้งความจับ 10 กว่าคนที่”แชร์”ข้อความจากเวบเพจ CSI LA ดคีเกาะเต่ากับสาวอังกฤษก็ย้าย”พื้นที่”

จากสื่อ”หนังสือพิมพ์”เข้าสู่สื่อ”ออนไลน์”

ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ถือได้ว่ายุติลงโดยพื้นฐานเมื่อทางตำรวจยืนยันข้อมูลจากการสืบสวน สอบสวนผ่านพยานแวดล้อม ว่าไม่มีการข่มขืน

แม้จะเสมอเป็นเพียงบทสรุป”ขั้นต้น”ก็ตาม

ตรงกันข้าม สื่อ”ออนไลน์”กลับมีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ไม่ยอมหยุดนิ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก CSI LA

มร.เดวิด CSI ซึ่งเป็นคนไทยในสังกัดอเมริกากลายเป็นแหล่งข้อมูลอย่างสำคัญ

 

ความต้องการของตำรวจในการออกหมายจับลูกเพจ CSI LA ที่แชร์ข้อมูลโดยพื้นฐานก็คือ

อยากให้เรื่องจบ ไม่มีการขยายความ

แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปในแบบรักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ ข่าวนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการโวยอย่างต่อเนื่องจากในแวดวงสิทธิมนุษยชน

หากยังกลายเป็นประเด็น”ข่าว”ใหม่ โดยเฉพาะจากสื่อต่างประเทศ

ไม่เพียงแต่จะมีการต่อต้านจาก”ภายใน”ประเทศ

หากฮิวแมน วอชท์ ไรท์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่สหรัฐก็ได้ออกแถลงการณ์ประท้วง

ยิ่งเมื่อมีข่าวจากตำรวจระบุว่าจะขอทาง FBI ให้จัดการส่งตัวเจ้าของเพจ CSI LA มาไทยในฐานะ”ผู้ร้ายข้ามแดน” ทางด้าน CSI LA ถึงกับไลฟ์สดจากหน้าสำนักงาน FBI ใน LA ให้เห็นกันจะ-จะ

เรียกว่าร้องท้ามาจาก LA อย่างไม่หวั่นเกรง

 

ปมเงื่อนของกรณีนี้มิได้อยู่ที่ 1 ตำรวจซึ่งพยายามจะทำความกระ จ่าง และมิได้อยู่ที่ 1 CSI LA ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์

หากแต่อยู่ที่”แหม่มสาว”ชาวอังกฤษ

ที่ว่าได้ไปแจ้งความกับตำรวจอังกฤษและนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการของตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล เป็นอย่างไร

เสียงของ”แหม่มสาว”จึงทรงความหมายยิ่ง