E-DUANG : เครดิต ความน่าเชื่อถือ สนช. ต่อการยื้อ ถ่วง หน่วงเลือกตั้ง

ทั้งๆที่หลายคนในจำนวน 36 สนช.ซึ่งเสนอแก้ไขพรป.ว่าด้วยคณะ กรรมการการเลือกตั้งโดยพุ่งเป้าไปยังตำแหน่ง”ผู้ตรวจการเลือก ตั้ง”จะอ้างว่า

1 ทำเพื่อเตือน “กกต.” ในเรื่องจรรยามารยาท

1 ทำเพื่อให้กระบวนการคัดสรรและแต่งตั้ง”ผู้ตรวจการเลือก ตั้ง”ดำเนินไปอย่างรอบคอบรัดกุม ได้คนดีมีความเป็นกลางมาดำรงตำแหน่ง

แต่ดูเหมือนว่า “สังคม” จะไม่เชื่อ

หลายภาคส่วนฟันธงอย่างไม่เกรงอกเกรงใจว่า การขยับขับ เคลื่อนครั้งนี้สนช.ทำตาม”ใบสั่ง”

เป้าหมายเพื่อยือ ถ่วง หน่วง”การเลือกตั้ง”

 

บทสรุปที่ว่า 36 สนช.ทำตาม”ใบสั่ง”จากเสียงกระซิบในทางการเมืองเป็นบทสรุปบนพื้นฐานที่ สนช.เป็น 1 ใน”แม่น้ำ 5 สาย”จากกระบวนการรัฐประหาร

ขณะเดียวกัน ก็มองว่าคสช.ยังไม่มีความพร้อมอย่างเพียงพอที่จะเข้าสู่สนาม “การเลือกตั้ง”

เพราะประเมินแล้วว่ายังแพ้”พรรคเพื่อไทย”

จำเป็นต้องคง”ล็อก“ทางการเมืองไม่ว่าประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557 ไม่ว่าคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 มิให้พรรคการ เมืองกระดิกกระเดี้ยได้

ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้คนเชื่อว่าสนช.รับใบสั่งมาเพื่อยื้อ ถ่วง หน่วงโรดแมป“การเลือกตั้ง”

คำตอบย้อนไปยังเดือนกันยายน 2558

นั่นก็คือ บทสรุปเบื้องหลังการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นาย บวรศักดิ์ อุวรรโณด้วยเหตุผลที่ว่า

“เขาอยากอยู่ยาว”

 

พฤติการณ์ของคสช.นับแต่เดือนกันยายน 2558 มายังเดือนสิงหา คม 2561 นั่นแหละเสริมความเชื่อมากยิ่งขึ้น

จาก”ปฏิญญาโตเกียว” มายัง “ปฎิญญานิวยอร์ค

เลื่อนจากปี 2558 มาเป็นปี 2559 และแม้กระทั่ง”ปฏิญญาทำเนียบขาว”ที่ว่าจะเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ก็ไม่มีความแน่นอนกลายมาเป็นเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

และอาจลายเป็นในปี 2563 ก็เป็นได้