เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการริเริ่ม“ไลฟ์สด” ไม่ว่าการริเริ่มในเรื่องสะสมเงินวันละ 1 บาทเพื่อบริจาคเป็นทุนแก่พรรคการเมือง อันมาจากสมองก้อนโต ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
จำเป็นต้องสนับสนุน จำเป็นต้องส่งเสริม อย่างที่ นายจาตุ รนต์ ฉายแสง ได้แสดงออก
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการริเริ่ม บุกเบิก นำร่อง
ในเมื่อเป้าหมายสูงสุด คือ ต้องการให้คสช.“ปลดล็อก“จากคำสั่งที่ 57/2557 และคำสั่งที่ 3/2558 ยังไม่ได้แม้แต่จะ”คลาย”การริเริ่มของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ย่อมเป็นคุณูปการ
เพราะหากคสช.ไม่ระงับยับยั้ง นั่นเท่ากับเป็น”ไฟเขียว” นัก การเมืองอื่น พรรคการเมืองอื่นย่อมทำได้
อย่างนี้ไม่ชอบหรือ
ประเด็นที่เห็นและเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนกับที่ นายจาตุรนต์ ฉาย แสง ระบุนั่นแหละ
คือ “ไม่มีหลักเกณฑ์”
เพราะว่า “บางฝ่ายทำได้ บางฝ่ายทำไม่ได้”
ฝ่ายที่ทำได้ก็เห็นได้จาก พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลัง ประชาชาติไทย
ฝ่ายที่ทำไม่ได้ก็เห็นได้จาก พรรคเพื่อไทย เป็นตัวหลัก
แม้กระทั่งจะเปิดแถลงข่าวประเมินผลสำเร็จในวาระ 4 ปีของรัฐประหาร 4 ปีของคสช.
ทหาร ตำรวจ ยังบุกถึง”พรรค”
ไม่เพียงเท่านั้น ฝ่ายกฎหมายของคสช.ยังร้องทุกข์กล่าวโทษถึงขั้นมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จะล้มรัฐบาล
ตรงนี้ต่างหากที่น่าเป็นห่วง ตรงนี้ต่างหากที่น่าจะตรวจสอบว่าเหมาะสม สมควรหรือไม่
หนทางที่ถูกไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องออกมาดันหลัง พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ให้เดินหน้าจัด”ไลฟ์สด” ให้เดินหน้าระดมทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรค
โดยหวังว่าหาก “คสช.“ไม่ว่าอะไรก็ย่อมเป็นโอกาสอันงดงามที่พรรคการเมืองอื่นจะเดินตามรอย
เดินตามรอยพลังประชารัฐ พลังประชาชาติไทย ปลอดภัย