การพลิกผัน แปรเปลี่ยน ระหว่าง “พรรคพลังประชารัฐ” กระทั่งได้

มาซึ่งชื่อใหม่ “พรรคพลังดูด” มิได้เป็นการได้มาเพราะโชคช่วยหรือ

เพราะความบังเอิญ

หากแต่ต้องยอมรับบทบาทของ “กลุ่มสามมิตร”

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

ล้วนรวมศูนย์ไปยัง “พลังดูด”

แล้วเมื่อ 2 คนนี้เปิดปฏิบัติการในนาม “กลุ่มสามมิตร”แล้วเหตุใดจึงมีผลทำให้พรรคพลังประชารัฐมีอันต้องแปรเปลี่ยนกลับกลายเป็น”พรรคพลังดูด”

เพราะว่า “กลุ่มสามมิตร”ทำเพื่อ”พรรคพลังประชารัฐ”

 

ไม่ว่าจะเป็นการดูด นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุขและพวกกลางรีสอร์ทดังจังหวัดเลย

ไม่ว่าการสังสรรค์กลางสนามกอล์ฟดัง จังหวัดปทุมธานี

พวกเขาประกาศตัวอย่างแจ้งชัดว่า เป้าหมายในที่สุดแล้วของพวกเขาคือ “พรรคพลังประชารัฐ”

จุดร่วม 2 ประการของ 2 ส่วนนี้คือ

1 พวกเขาเห็นชอบด้วยกับทุกนโยบายอันมาจากคสช.ผ่านรัฐบาลหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

1 พวกเขาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐ มนตรีต่อไปอีกอย่างน้อย 4 ปี เพื่อสานต่องานและเพื่อปฏิรูปประ เทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

เห็นได้จากการนำเอาคำ “ประชารัฐ” มาเป็นชือพรรค

ในเมื่อรากฐานในการสร้างพรรคพลังประชารัฐมาจากการดูดอย่างเอาการเอางานของ”กลุ่มสามมิตร”

พลังประชารัฐก็กลายเป็น”พลังดูด”โดยพลัน

 

ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะปรารถนาหรือไม่ ไม่ว่ากลุ่มสามมิตรจะมีเป้าหมายลึกซึ้งใดๆในทางการเมือง

แต่การสมาน “ความคิด”และ”การปฏิบัติ”นี้มีพลัง

ไม่เพียงแต่มีพลังทำให้จำนวนอดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยลด จำนวนลง หากแต่ยังมีพลังอย่างใหญ่หลวงทำให้ภาพลักษณ์และแม้กระทั่งชื่อของพรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐเป็นเอกภาพไปกับ”พลังดูด”ตั้งแต่วันนี้กระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562