ทำไมพรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงไม่เป็น “ดาวรุ่งพุ่งแรง”ทั้งๆที่ ได้ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มาเป็นหัวแถว

ไม่ว่าจะนำไปวางข้างๆ “พรรคอนาคตใหม่”

ไม่ว่าจะนำไปวางข้างๆ “พรรคพลังประชารัฐ”

ทั้งๆที่เทียบฐานทางวิชาการ ฐานทางครอบครัว นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็เหนือกว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

อย่างน้อยก็เคยเสนอทฤษฎี”สองนคราประชาธิปไตย”

ทั้งๆทีเทียบความจัดเจนในทางการเมือง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็เหนือกว่า นายจวน ชูจันทร์

เพราะเคยเป็นหัวหน้าพรรคมหาชน

แต่มาถึง ณ วันนี้ กลับอยู่ในจุดอันเป็นรองพรรคอนาคตใหม่ เป็นรองพรรคพลังประชารัฐ

 

มีความจำเป็นที่ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ จะต้องพลิกตำราในทางรัฐศาสตร์อย่างจริงจัง

มีความจำเป็นต้องระดม “ความคิด”

ไม่ว่าจะจาก นายประสาร มฤคพิทักษ์ ไม่ว่าจะจาก นายสุริยะใส กตะศิลา

อย่าแปลกใจว่าคำตอบอยู่ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

การกรีดน้ำตาปราศรัยในวันประชุม ณ อาคารดนตรีสุริยเทพมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นั่นแหละคือคำตอบ

คำตอบว่า ไผเป็นไผ

คำตอบว่า รังสีอันเปล่งประกายมาจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นมากด้วยความร้อนแรง และกำลังกลายเป็นปัจจัยชี้อนาคตพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ในที่สุดแล้วว่าจะเป็นพรรคที่นำโดย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หรือนำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ความโน้มเอียงตอนนี้ก็คือ “พรรคเทพเทือก”

 

คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ  บทบาทของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเป็นคุณหรือว่าจะเป็นโทษ

เพียงก้าวแรกก็พอจะมี “คำตอบ”

หากสรุปบทเรียนจากพรรคมหาชนก็ต้องลดทอนบทบาทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้เป็นแนวที่ 2 ในทางเป็นจริง มิฉะนั้น พรรครวมพลังประชาชาติไทยก็จะกลายเป็นพรรคมหาชน

ในที่สุด นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็ได้แต่แบ๊ะ แบะ แบ๊ะ