พลันที่ได้ไฟเขียวจากคสช.ให้จัดประชุมพรรคได้ในวันที่ 27 พฤษ ภาคม พรรคอนาคตใหม่ก็เริ่มก้าวที่ 2 ในทางกฎหมาย

ณ ยิมเนเซียม 5 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ไม่ปรากฏรายงานใน “สื่อเก่า” ไม่ว่าบนหน้าหนังสือพิมพ์ หรือผ่านจอโทรทัศน์ ทั้งอนาล็อกและดิจิทัล

แต่หากเป็น “สื่อใหม่” จะคึกคักอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะสำหรับแฟนานุแฟน”อนาคตใหม่”ที่ติดตามรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม

หรือเฟซบุ๊คไลฟ์ ของ THE STANDATD

ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนก กุล ให้ความคืบหน้าครบถ้วน

คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

 

หากนำไปเปรียบเทียบจำนวนกว่า 30,000 คนที่ไปรอพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ณ สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์

อาจน้อยกว่า 10 เท่า

กระนั้น หากนำไปวางเรียงเคียงกับพรรคการเมือง”ใหม่”ด้วยกัน ตรงนี้ย่อมสร้างความแตกต่าง

ไม่ว่าพรรคทางเลือกใหม่ ไม่ว่าพรรคพลังธรรมใหม่

หรือแม้กระทั่งพรรคประชาชนปฏิรูปของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก็ตาม

ไม่มีใครรู้ “รายละเอียด” อะไรมากนัก

นอกจากรู้ว่ามีการเลือกหัวหน้าพรรค มีการเลือกเลขาธิการพรรคและที่สำคัญคือ เหรัญญิกพรรค

แต่สำหรับ”อนาคตใหม่”เขามีจุด”เร้า”พิเศษ

น่าสังเกตว่า มีผู้ส่งชื่อและที่อยู่ผ่าน”สื่อออนไลน์”แสดงความจำนงเบื้องต้นร่วม 2,000 แล้วค่อยขยายกลายเป็นกว่า 3,000 คนขณะที่ยิมเนเซียม 5 จุดได้ประมาณ 2,000 คน

จุดไฮไลต์อยู่ที่”บัตรเชิญ”

 

มั่นใจได้เลยว่าหากพรรคอนาคตใหม่สามารถปักเสาเข็มและสร้าง”อนาคต”ได้อย่างเป็นจริง ผ่านการเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ไม่เพียงแต่ชื่อของ นายธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสง กนกกุล จะจำหลักอย่างหนักแน่น

“บัตรเชิญ”ก็มีโอกาสเป็น”ที่ระลึก”อันทรงความหมาย