หนุ่มเมืองกรุง ฉบับ “ประเทศไทย” : อนิจจาเมืองไทย จะอยู่กันไปอย่างไรหนอ

วัชระ แวววุฒินันท์

ผมเป็นหนุ่มเมืองกรุง ชอบมุ่งกับการงาน

พอถึงตอนเช้า ก็ก้าวเท้าออกจากบ้าน

ก้าวมาเพื่อยินดี กับสตรีเชื้อไทย

ที่ชื่อเสียงโด่งไกล ในเวทีจักรวาล

เป็นที่รู้จักกันทั่ว ว่าแม่ยั่วงามหนา

มีนามชลิตา ชื่อเล่นว่า “น้ำตาล”

เป็นตัวแทนสาวไทย ไปประกวดประขัน

เอาความงามเข้าประชัน จนถึงขั้นโจษจาน

ว่าสวยเด่นเป็นสง่า ทุกเสื้อผ้าใส่สวย

ยิ้มแบบไทยใจแทบม้วย กระชุ่มกระชวยวิญญาณ

พกเอาความเป็นไทย เอาไปใส่ต่างแดน

Jewel of Thailand ที่สุดแสนสคราญ

เอา “ชุดของแม่” ไปโชว์ ให้โอ้โฮ กันลั่น

แม้จะชวดรางวัล แต่กระนั้นก็หน้าบาน

เอา “เรื่องของพ่อ” ไปเล่า ให้คนเขาซาบซึ้ง

ว่าพระองค์เป็นหนึ่ง ซึ่งคนไทยกราบกราน

ติดหกคนสุดท้าย แม้ไม่เข้าป้ายมงกุฎ

แต่เท่านี้ก็เยี่ยมยุทธ์ เกินจะพูดกล่าวขาน

ขอชื่นชมหัวใจ ที่ไม่ยอมท้อแท้

แม้จะเหนื่อยแทบแย่ แต่ก็แก้กันจนผ่าน

จนสามารถสร้างชื่อ ให้ระบือไปไกล

ว่านี่แหละประเทศไทย ชื่นชมไปทุกบ้าน

 

แต่ก็มีอีกหนึ่ง ซึ่งทำชื่อกับเขาด้วย

แต่เป็นชื่อเฮงซวย จนแทบป่วยซมซาน

ก็จะใครกันล่ะพี่ รองอธิบดีกรมหนึ่ง

ทำงามหน้าเสียซึ่ง จนเรื่องอึงประจาน

ไปประเทศญี่ปุ่น แล้วทำวุ่นขโมยภาพ

จนทางเขาสืบทราบ จึงต้องจับจัดการ

เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แต่มาทำเรื่องบัดสี

ลักขโมยของเขานี่ เรื่องชั่วดีไม่สะท้าน

คิดไม่เป็นหรือไร ว่าที่ทำไปควรหรือ

ไม่อายเด็กอมมือ เรื่องสัตย์ซื่อกันดาร

อายเค้าไหมน้องพี่ รองอธิบดีเชียวหนา

กรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่ทว่าปัญญาด้าน

สร้างชื่อในทางเสีย จนไทยเพลียไปทั่ว

สำนึกช่างมืดมัว ช่างน่ากลัวเหลือประมาณ

ยังมีคนคอยอุ้ม หวังจะจุ่มสีฟอก

คงมีคนไปบอก จึงลาออกจากราชการ

 

อนิจจาเมืองไทย จะอยู่กันไปอย่างไรหนอ

เมื่อไม่รู้จักพอ ตามคำพ่อก็ป่วยการ

ตามด้วยอีกข่าวคาว เรื่องอื้อฉาวเสพติด

“ไซซะนะ” คบคิด การผลิตยามาร

จากไฮโซฝั่งลาว มาอื้อฉาวฝั่งไทย

เพราะมีคนสนใจ ร่วมอยู่ในขบวนการ

เอาเงินชั่วมาฟอก เล่นสับหลอกเป็นรถหรู

แลมโบร์กีนี่เชิดชู ว่าตัวกูรวยล่ะท่าน

จนถูกค้นยึดทรัพย์ ต้องตามจับกันทั่ว

เพราะสัมพันธ์เมามัว กับคนชั่วคนพาล

 

ย้อนไปหน่อยไม่นาน เรื่องประจานซุบซิบ

เรื่องสอบเข้านายสิบ มีมุบมิบหลังบ้าน

จ้างคนมาสอบเข้า เขียนตัวเท่าหม้อแกง

สุดท้ายเรื่องมาแดง จนต้องแจ้งทางการ

สมัครเป็นตำรวจ เพื่อมาตรวจคนผิด

แต่เริ่มต้นก็พ่นพิษ ผิดเสียเองล่ะท่าน

แล้วโตไปอย่างไรนี่ คงก่อคดีเสียเอง

เป็นตำรวจนักเลง ที่เก่งเรื่องฉ้อมาร

คงกังฉินปลิ้นปล้อน เพราะกะล่อนมาแต่เริ่ม

เรื่องชั่วชั่วคงเคลิ้ม เพราะเริ่มจากสันดาน

 

ประเทศไทยอย่างไรหนอ จะไปต่ออย่างไรหนา

คิดแล้วเอือมระอา หมดศรัทธาอุดมการณ์

คสช.ก็วุ่น วงการหุ้นก็แย่

วงการพระแท้ๆ ยังไม่แก้เลยท่าน

อีกทั้งวงการสื่อ ขอลุกฮือขึ้นโต้

รัฐอย่าทำนักเลงโต ใช้ช่องโหว่หลักการ

ไอ้ที่วุ่นวุ่นไป ขอคนไทยจงสู้

เอาอย่างแม่โฉมตรู แม่น้องหนูน้ำตาล

ให้สู้ด้วยปัญญา ที่มีค่าดุจสินทรัพย์

เพียงแต่อย่าตกอับ จนถูกจับประจาน

ทำอะไรซื่อสัตย์ งดทางลัดทุจริต

อย่ายุ่งยาเสพติด พาชีวิตอลหม่าน

ผมก็เป็นคนไทย ขอให้ใจทุกท่าน

มีแรงสู้ฟันฝ่า จนถึงชาติหน้าเลยแล้ว…กัลล์