ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 พฤษภาคม 2563 |
---|---|
เผยแพร่ |
แกงไตปลาสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความเป็นใต้ (แต่ที่ใต้เรียกแกงพุงปลา)
แน่นอนว่าอาหารใต้จะมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน และหอมกรุ่นไปด้วยเครื่องเทศ ซึ่งแกงไตปลามีรสชาติเหล่านั้นครบถ้วน
นอกจากนี้ แกงไตปลายังถือว่าเป็นหนึ่งในอาหารหมักดองเพื่อถนอมอาหาร
การทำแกงชนิดนี้จึงสามารถเก็บไว้กินได้นานหลายวัน โดยแช่ในตู้เย็นแล้วนำมาอุ่นใหม่ ก็ยังให้รสชาติที่เร่าร้อน
และแน่นอนอร่อยเหมือนเดิม
ส่วนผสม
ไตปลา 1/2 ถ้วย , น้ำเปล่า 2-3 ถ้วย, มะขามเปียกคั้นน้ำ 1/4 ถ้วย, กุ้งสด 300 กรัม, ปลาทูย่าง 3 ตัว, น้ำตาลปึก 1 ช้อนโต๊ะ, ใบมะกรูด 4 ใบ, ข่าหั่นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้หั่นละเอียด 6 ช้อนโต๊ะ, ผิวมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ, ขมิ้นสดยาวประมาณ 2 นิ้วหั่น 1 ช้อนโต๊ะ, กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เริ่มจากการเตรียมพริกแกงไตปลา โดยนำพริกไทยเม็ดมาโขลกให้ละเอียด แล้วใส่พริกขี้หนูแห้ง เกลือป่น ลงไปโขลกรวมกัน ตามด้วยใส่พริกขี้หนูสดลงไป ข่า ตะไคร้ ขมิ้น และผิวมะกรูดลงไปโขลกให้ละเอียด เติมกระเทียมและหอมแดงลงไปโขลกรวมกันให้ละเอียด ปิดท้ายด้วยใส่กะปิลงไป โขลกให้ส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เตรียมไว้
- นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ รอให้เดือด ใส่ไตปลาลงไปคนให้ละลายเข้ากัน กรองเอากากออกแล้วใส่พริกแกงไตปลาลงไป คนจนเข้ากัน ต้มต่อจนเดือด
- ใส่กุ้ง ปลาทูย่างลงไป คนพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึก น้ำมะขามเปียก ทิ้งให้เดือดสักพัก ใส่ผัก มะเขือเปราะ ถัวฝักยาว หน่อไม้ และใบมะกรูดลงไป ต้มจนผักสุก ปิดไฟ
แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ โดยเสิร์ฟพร้อมผักเคียงตามชอบ