‘สุขุม นวลสกุล’ วิเคราะห์เกมก่อนเลือกตั้ง จับตาจุดเปลี่ยนหาก ‘ประชาธิปัตย์’แพ้

ปรากฏการณ์ดูด ส.ส.-ตั้งพรรคในทำเนียบ เทียบอดีต

สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มองปรากฏการณ์ดูด ส.ส. ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังสร้างทางเลือกให้ตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนนี้เราเห็นภาพทันทีว่า เขาจะมาในฐานะแขกรับเชิญ หลังรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกมา แต่เมื่อปรากฏการณ์ต่อมาเกิดขึ้น มีคนในทำเนียบสร้างพรรคการเมืองขึ้น แล้วก็เกิดอีกปรากฏการณ์หนึ่งขึ้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะประกาศตัวว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะขอเต็มที่นะ และแสดงเจตนารมณ์ว่าจะเอานายกรัฐมนตรีคนใน

ผมวิเคราะห์ดูแล้วเห็นว่าในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์เองพยายามสร้างโอกาส เพิ่มทางเลือกให้ตัวเอง รวมถึงผู้ที่สนับสนุนท่านร่วมกันสร้างหนทางว่า พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสไม่ใช่มีเพียงแค่หนึ่งทางเลือก แต่จะเข้ามาเป็นคนในก็ได้

ส่วนการตั้งพรรคครั้งนี้ ผมยังไม่เชื่อว่าจะเป็นการตั้งพรรคโดยใช้โมเดลแบบสามัคคีธรรมในอดีต แต่ผมเชื่อว่าจะมีการสร้างพรรครวบรวมพันธมิตร ในลักษณะพรรคกระจายออกไป เอาหลายๆ กลุ่มเข้ามาร่วมสนับสนุนท่าน

ตัวอย่างเช่น ปรากฏการณ์ของพรรคพลังชลเป็นพรรคหนึ่งที่สนับสนุนท่าน ก็ไม่ได้หมายความว่าพรรคพลังชลที่มีฐานเสียงอยู่ที่ชลบุรีแล้วจะมีฐานเสียงที่อื่น แต่การแตะมือว่าเป็นพันธมิตรกับอีกหลายๆ พรรคที่มีฐานเสียงแตกต่างที่กัน มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคเดียวกัน แบบสามัคคีธรรมเช่นในอดีต

พรรคใหม่ที่ตั้งขึ้นมาก็อาจจะมีโอกาสได้คะแนนใน กทม. เพราะจะมีพรรคของ กปปส. มาลง

ถ้าดูวันนี้ ผมมองว่าเป้าหมายและโอกาสของพรรคใหม่เลยที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมากที่สุดก็เต็มที่ได้เพียงแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น

ดึงขั้วภูมิใจไทย-เนวิน ร่วมรัฐบาล

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ หากมีการต้อนรับอบอุ่น ยกกันมาทั้งทีมทั้งพรรค ต้อนรับกันอย่างเต็มที่ ก็มั่นใจได้

แม้เขาอาจจะไม่ได้เข้ามาเป็นเนื้อเดียวกัน แต่พรรคภูมิใจไทยจะถูกเข้าใจในวงเล็บว่าคือ “พันธมิตร” อีกหนึ่งขั้ว

ที่สำคัญคุณต้องไม่ลืมว่าคนเหล่านี้ เขาคือคนที่เคยทำงานการเมืองด้วยกันมา

เขาเคยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เขาไม่ใช่คนแปลกหน้ากัน

เพราะฉะนั้น เป็นคนรู้ทางกันอยู่

“ประชาธิปัตย์” จุดเปลี่ยนสำคัญ?

วันนี้ก็ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำให้ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์เขาปวดหัว ในการยืนกรานที่จะเอานายกฯ คนใน ซึ่งนายกฯ คนในในที่นี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เล่นเป็นคนใน อนาคตอาจมีจะเปลี่ยนมาเล่นเป็นนายกฯ เลือกตั้งอีกก็ได้

แต่พูดง่ายๆ ว่าตอนนี้ เขามีความรู้สึกว่า พรรคประชาธิปัตย์ดื้อ ฟังจากคำพูดที่นายกฯ พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ครั้งหลังสุด ที่มีการบอกว่าให้ดูหลังเลือกตั้ง ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์วันนี้เขาก็หวังส้มหล่น

สมมุติว่าเขาได้ที่ 1 ในสนามเลือกตั้ง คุณอภิสิทธิ์ก็บอกแล้วว่าวุฒิสภาต้องให้โอกาส ต้องดู “เจตจำนงของประชาชน”

ฉะนั้น โอกาสของ พล.อ.ประยุทธ์จะมาแน่ ต้องหมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องไม่ได้ที่ 1 แต่การเมืองจะยุ่งทันทีเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงเป็นอันดับ 1

แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ที่ 1 โอกาสในการกลับตัว มันยังจะมีอยู่

วันนี้ต้องบอกประตูระหว่าง คสช. และพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ปิด อาจจะดูเหินห่างกัน แต่ต้องไม่ลืมว่าพรรคประชาธิปัตย์มีประเพณีอยู่อย่างหนึ่งคือ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้วพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 หัวหน้าพรรคจะต้องลาออก ในช่วงนั้นเอง อาจจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ นั่นหมายถึงแนวทางพรรค ณ ตอนนั้นอาจจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้

พรรคเพื่อไทย ที่ดูเหมือนไม่ชัดเจน แล้วเกมจะเป็นยังไง?

พรรคเพื่อไทยเองที่ดูเหมือนจะยังไม่มีความชัดเจนนั้น ต้องมองมาที่ คสช. ว่าเขาชัดเจนมาโดยตลอด ชัดมานานแล้วด้วย ว่ายังไงก็เอา พล.อ.ประยุทธ์มาแน่ๆ เขาไม่เคยเปลี่ยนใจ ไม่มีท่าทีที่ถอย

มิหนำซ้ำยังมีหน้าที่รุกหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยซ้ำ ในเมื่อเขาชัดอยู่พรรคเดียว และเดินเกมอยู่ตลอด โอกาสเขาก็ย่อมมีสูง ทั้งๆ ที่ไม่ต้องลงเลือกตั้ง

ถึงวันนี้อาจจะมีคำถามด้วยซ้ำไปว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ชัดเจนสักที ในประเด็นเรื่องหัวหน้าพรรค

มันก็เลยเกิดคำถามขึ้นว่าตกลงพรรคเพื่อไทยจะมาแข่งขันเพื่อเป็นรัฐบาล หรือจะเข้ามาเป็นฝ่ายค้านกันแน่

และวันนี้ต้องถามว่า เขายังมองพรรคเพื่อไทยเป็นคู่แข่งอยู่หรือเปล่า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะลดเกรดลง ว่ายังไงก็เป็นฝ่ายค้านแน่นอน

 

จุดยืนสองพรรคใหญ่

พรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเขาไม่เอานายกฯ ที่มาจาก คสช. แน่นอน คำถามที่สำคัญในเวลานี้คือ ระหว่างนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และนายกฯ จาก คสช. พรรคประชาธิปัตย์จะเอาใคร

หากถามคำถามกับพรรคเพื่อไทยว่า ระหว่าง คสช. กับพรรคประชาธิปัตย์ สมมุติว่าต้องให้พรรคเพื่อไทยเลือก 2 คำตอบนี้เท่านั้น ถ้าจำเป็นต้องเลือก ผมเชื่อว่าเขาจะเอาประชาธิปัตย์

แต่ในคำถามเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ ระหว่าง คสช. กับพรรคเพื่อไทย ท้ายที่สุด เขาก็เอา คสช. มันต่างกัน

แต่อย่างที่บอกคือเกมจะยุ่งยากก็ต่อเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ที่ 1 นั่นคือประเด็นแรก

ส่วนกรณีที่มีคนมองว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เสียงถล่มทลายหรือแลนสไลด์ ผมว่าหยุดประเด็นนี้ไว้ก่อนเพราะว่าโอกาสจากที่ประเมินวันนี้ยังเป็นไปได้ยาก

เพราะว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยโดนตอดเล็กตอดน้อย และเป็นพรรคเดียวที่ถูกชักออกไปหลายกลุ่มแล้ว

เพื่อไทยจะโดนมากกว่าเพื่อน มากกว่าพรรคไหนๆ กลุ่มวาดะห์ กลุ่มสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ วังน้ำยม อะไรต่างๆ รวมถึงพรรคที่เคยเป็นพันธมิตรกันด้วย

ท่าที กปปส.จากนี้จะส่งผลอะไรกับสนามเลือกตั้งใหญ่

มาถึงวันนี้ ใน กปปส. ผมเองไม่เห็นมีใครที่จะกล้าออกมาพูดว่าอยู่นอกพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถที่จะชนะเลือกตั้งได้ ยกเว้นในเขตกรุงเทพฯ

เขาก็คงมองออก ความเชื่อในการดูการเมืองของผม อาจจะไม่ตรงกับที่เขาคิดก็ได้

แต่ผมมองว่า กปปส. ตั้งใจที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงและฮุบพรรคประชาธิปัตย์

และจุดยืนของพรรค แต่ดูตอนนี้ท่าทีเหมือนจะยาก ขณะนี้ส่งเสียงไม่ได้เลย ถ้าส่งเสียงมาเมื่อไหร่เพื่อนจะเฉดหัว การจะส่งคนลงเลือกตั้ง ตอนนี้ดูกลุ่ม กปปส. ไม่มีท่าทีใดๆ มาก ผมก็อยากรู้ว่ามีคนกล้าลงแข่งในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ คิดว่าไม่มี

ผมคิดว่าตอนนี้ต้องยอมรับว่า ผู้ที่จะหวังพึ่ง กปปส. เป็นตัวหลัก ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้คง “จะต้องรอหลังเลือกตั้งไปแล้ว” ในวันที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ที่ 1 ต้องจับตาดูตอนนั้นว่าจะมีแนวโน้มท่าทีอย่างไร ในการเข้ามาเปลี่ยนแปลงจุดยืนพรรคหรือไม่!

ถ้าเพื่อไทยชนะที่ 1 แต่เสียงไม่ขาด?

ถ้าเกมนี้พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากเป็นที่หนึ่งแต่ว่าเสียงไม่ขาดพอ ไม่ถึง 240 ถ้าถึง ผมก็มองว่าเขาก็จะเป็นรัฐบาลที่ไม่เป็นสุข และผมมองว่าจะมีแผนตีป้อมแตก แบบเค้าก่อนนู้น ต่อให้ได้ 250 เสียง ก็จะแตกหน่อ เป็นพรรคเล็กพรรคน้อย กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย

คุณต้องไม่ลืมว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีกับดักอยู่เยอะมาก

ผมว่า ถ้าคนไม่ตั้งใจจริง ไม่อยากเข้ามาเล่นการเมืองหรอกเพราะว่ากับดักเยอะมาก โอกาสที่จะถูกถอน ถูกดำเนินคดี โอกาสที่จะถูกยุบพรรคมีอยู่มากมาย

ผมมองว่า แม้จะได้ถึง 230 เสียง 240 เสียง ก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุข ต้องคอยระวัง เขาจะต้องทำให้เล็กกว่า 240 ให้ได้

คสช.จะติดกับดักตัวเองบ้างไหม?

ผมอยากถามกลับว่า ที่ผ่านมาติดกี่หนและหลุดไปกี่หนแล้ว

ผมว่าที่เขาวางกับดักมา เขาก็โดนตัวเองไปหลายหนแล้ว

แต่ก็หลุด!

ถ้าเกมนี้ คสช. ได้เปรียบเห็นๆ แต่ทำไมสัญญาณเลือกตั้งยังไม่ชัด?

ก็เพราะว่าเขายังไม่มั่นใจ ลึกๆ แล้ว เขาก็สัมผัสได้ว่าความแน่ใจในเรื่องของการที่จะชนะเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องง่าย

ถึงวันนี้ผมว่าเขาตัดสินใจ เขาเชื่อแล้วว่า นอกจากเขตเมืองหลวงและเขตในเมืองแล้ว วิธีเลือกตั้งนั้น คนเก่าเจ้าของพื้นที่จะยังมีโอกาสมากกว่าคนหน้าใหม่

ไม่งั้นเขาไม่เริ่มที่จะไปจับมือ ไปแตะมือกับพรรคต่างๆ แกนนำต่างๆ ในหลายจังหวัด ซึ่งเป็นของเก่าทั้งนั้น

รวมถึงอาจจะจับมือกับ กปปส. ในเขตกรุงเทพฯ เพราะว่าโอกาสพอมี

ในปี 2562 เราจะได้เห็นการเลือกตั้ง

ถ้าคุณไม่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ลองไปยุให้มีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอย่างไม่มีประกาศกำหนดที่แน่นอน โอกาสไม่ได้กลับมาสูง

ผมมองว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปี 2562 เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แล้วยังไม่รู้กำหนดแน่นอนว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่เท่าไหร่

ผมคิดว่าคุณประยุทธ์จะไม่ได้กลับมาอย่างแน่นอน แล้วจะถูกตราหน้าว่า เป็นคนเสียสัตย์ แม้ว่าจะมีเหตุผลอะไรมาอ้างรองรับ หากมีการเลื่อนอีกในหนนี้ มันเชื่อไม่ได้อีกแล้ว

ถ้าจะเลื่อนแล้วไปประกาศว่าจะมีกำหนดวันที่มาเลยยังพอฟังได้

แต่ถ้าบอกว่าขอเลื่อนอีกครั้ง อ้างเรื่องนั้นยังไม่เรียบร้อย ยังปล่อยไม่ได้ คุณประยุทธ์จะได้บทเรียนครั้งสำคัญ