SearchSri : ภาพสะท้อน “โค-เม” กับการก้าวข้ามความผิดหวัง

สุดสัปดาห์ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา “ลิเดีย โค” อดีตนักกอล์ฟสาวมือ 1 ของโลกชาวนิวซีแลนด์ เพิ่งปลดล็อกคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการแรกในรอบเกือบ 2 ปีให้ตัวเองได้สำเร็จ ในศึก “แอลพีจีเอ เมดิฮีล แชมเปี้ยนชิพ”

หลังพัตต์อีเกิลที่หลุมเพลย์ออฟลงไปการันตีชัยชนะ โคหลับตาเงยหน้าด้วยสีหน้าโล่งอก ก่อนจะน้ำตาร่วงถึง 4 รอบในระยะเวลา 2 นาที หลังจากหันไปเห็นสมาชิกครอบครัว โค้ช และแคดดี้ของตัวเอง

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอปล่อยโฮหลังการแข่งขัน

โปรสาววัย 21 ปี เผยหลังการแข่งขันว่า รู้สึกเขินนิดๆ ที่ร้องไห้แบบควบคุมตัวเองไม่อยู่

แน่นอนว่าแชมป์นี้อาจไม่ได้สำคัญที่สุดหรือยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เล่นกอล์ฟมา

แต่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างมาก เพราะคนเหล่านี้คือกำลังใจสำคัญให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและก้าวผ่านระยะเวลายากลำบากนาน 21 เดือน 12 วันมาได้

ช่วงเวลาดังกล่าวคือระยะห่างระหว่างแชมป์หนก่อนกับแชมป์ปัจจุบันซึ่งเป็นถ้วยแอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 15 ของโค

ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นช่วงเวลาตกต่ำที่สุดในช่วงชีวิตที่เพิ่งเริ่มต้นในฐานะนักกอล์ฟอาชีพของเธอ

 

โคแจ้งเกิดตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในฐานะนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไม่ว่าชายหรือหญิงที่คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพ ในรายการ “วีเมนส์ นิวเซาธ์เวลส์ โอเพ่น” ที่ออสเตรเลีย ด้วยวัยเพียง 14 ปี

และในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ก็กลายเป็นแชมป์แอลพีจีเอทัวร์อายุน้อยที่สุดด้วยวัย 15 ปี กับรายการ “แคนาเดียน วีเมนส์ โอเพ่น”

เมื่อเข้าเล่นแอลพีจีเอทัวร์เต็มตัว โคสร้างประวัติศาสตร์เป็นมือ 1 ของโลกอายุน้อยที่สุดไม่ว่าชายหรือหญิงด้วยวัย 17 ปี 9 เดือน กับ 9 วัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015

พอปีถัดมา ก็กลายเป็นแชมป์เมเจอร์หญิงอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ในรายการ “ดิ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ”

อย่างไรก็ตาม หลังจากคว้าแชมป์ “มาราธอน คลาสสิค” เป็นแชมป์ที่ 4 ของปี 2016 ในเดือนกรกฎาคมปีดังกล่าว เส้นทางของโคในวงการกอล์ฟก็เริ่มกลับตาลปัตร

เมื่อเธอพลาดรางวัลใหญ่ทุกรางวัลของทัวร์อย่างฉิวเฉียด โดยมี” “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล” โปรสาวมือ 1 ของไทยเป็นคู่ปรับสำคัญที่ครองถ้วยใหญ่อย่างรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี เงินรางวัลสูงสุดแห่งปี รวมทั้งเงินโบนัส “โร้ด ทู ซีเอ็มอี โกลบ” 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคะแนนสะสมสูงสุด

ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของโปรเมที่มีสไตล์การเล่นต่างจากโคอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องการตีไกล กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้โคตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่แบบยกชุด ทั้งเปลี่ยนโค้ช เปลี่ยนแคดดี้ และเปลี่ยนยี่ห้อไม้กอล์ฟ ให้ตัวเองตีระยะไกลขึ้นกว่าเก่าจนต้องปรับตัวอย่างมหาศาล

กลายเป็นว่าเมื่อปีที่แล้ว โคผลงานไม่เปรี้ยงปร้างนัก ไม่ผ่านการตัดตัวถึง 3 รายการ ทั้งที่ปกติแทบไม่เคยพลาดอย่างนั้นเลย นานๆ ทีจึงมีโอกาสลุ้นแชมป์แต่ก็ไปไม่สุด

ยิ่งระยะเวลาที่ห่างแชมป์ยาวนานเท่าไร ยิ่งลดทอนความมั่นใจของเจ้าตัวมากเท่านั้น

ทั้งที่ปกติโคเป็นคนใจเย็น มีความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุไปมาก จนทั้งแฟนกอล์ฟ สื่อ และเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันยังสัมผัสความหวาดหวั่นนั้นได้อย่างชัดเจน

 

การปลดล็อกคว้าแชมป์รายการล่าสุดเมื่อปลายเดือนเมษายนจึงช่วยเรียกความมั่นใจได้มาก เหนือสิ่งอื่นใดคือความโล่งใจที่ได้ก้าวข้ามกำแพงจิตใจด่านแรกสำเร็จแล้ว

ช่วงเวลาแห่งความล้มเหลวของโค แม้จะไม่หนักหนาเท่ากับตอนไม่ผ่านตัดตัว 10 รายการติดเมื่อปี 2015 ของโปรเม แต่ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กัน เพราะถือเป็นจุดตกต่ำแบบที่เจ้าตัวไม่เคยสัมผัสมาก่อน

และสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผ่านเวลาที่น่าผิดหวังเหล่านี้มาได้ก็คือกำลังใจจากคนรอบข้างที่ไม่เคยกดดันหรือคาดหวังให้พวกเธอต้องทำอะไร

แต่ยังคงเฝ้าดูอยู่เคียงข้างด้วยความมั่นใจที่ไม่เคยสั่นคลอนว่าสักวันหนึ่งพวกเธอจะกลับมาประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น

เป็นตัวอย่างสำคัญสำหรับบรรดานักกีฬาทุกระดับว่า ในช่วงที่ผลงานไม่เป็นดังใจ อาจท้อได้ หวั่นไหวได้

แต่ตราบใดที่คนใกล้ชิดยังคงยืนหยัดเคียงข้างเป็นกำลังใจ เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ความสำเร็จที่เฝ้ารอก็คงจะมาถึงเอง