รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว /”ศ. ดุสิต”/ดวงซับดวงซ้อน(ต่อ)

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว
“ศ. ดุสิต”
อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’

ดวงซับดวงซ้อน(ต่อ)

ทีนี้ก็มา “ดูดวงให้ออก” กันต่อไป
เมื่อเธอต้องการรู้เรื่องราวของแฟนคนที่สอง เราก็ไปจับที่ภพวินาสน์ซึ่งเป็นภพของคู่ครองคนที่สอง ซึ่งมีดาวพุธเป็นเกษตรราศีนี้ พร้อมกันนี้เราก็ต้องย้ายลัคนาของเธอที่ราศีตุลไปสถิตที่ราศีมีนด้วย (เพราะภพปัตนิอยู่ที่ราศีกันย์) ดูลีลาหรือทางเดินของคู่ครองคนนี้กับเจ้าชาตาว่ามีความผูกพันกันอย่างไร ให้คุณให้โทษแก่เจ้าชาตาแค่ไหน โดยดูจากดวงเดิมของเธอนี่แหละ

โดยธรรมชาติ ชีวิตทุกชีวิตจะเปลี่ยนไปตามสภาวะที่เกิดขึ้นทุกครั้ง
การมีคู่ที่เปลี่ยนมาจากคนแรกก็ทำให้ชีวิตของเจ้าชาตาเปลี่ยนไปเช่นกัน (ผู้ศึกษาต้องหัดดูตรงจุดนี้ให้แตกฉานจึงจะสามารถพยากรณ์ได้ดี)
จากดวงที่สองที่ลัคนาไปสถิตราศีมีนนั้น คุณจะเห็นทันทีว่านี่คือ “ดวงแตก” อย่างที่โบราณหรือโหรหลายคนยึดมั่นกันว่าเป็นสิ่งไม่ดี ทำให้ชีวิตต้องประสบกับภาวะแตกหักได้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเห็นมีดาวเสาร์เล็งลัคนาอยู่
แต่ในทัศนะของผม ผมไม่ได้ยึดมั่นกับกฎที่ว่านี้เลย เสาร์-ราหูจะเล็งลัคน์ก็เล็งไป ก็เหมือนกับดาวอื่นที่มาเล็งลัคน์นั่นแหละ
ยกเว้นแต่ว่าถ้าเสาร์-ราหูนั่นเกิดเป็น “ดาวร้าย” ขึ้นมาในดวงชาตา เช่น เป็นดาวเจ้าเรือนอริ-มรณะ (วินาสน์ไม่เกี่ยว) หรือเป็นกาลกิณีกำเนิด-จรมาเล็งลัคน์อย่างนี้ก็ให้โทษเหมือนกัน
ตามดวงนี้ ดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนลาภะเล็งลัคน์ย่อมให้คุณ เมื่อมาเล็งอยู่ในเรือนปัตนิก็ย่อมอ่านได้ว่า คู่ครองคนที่สองนี้จะทำให้เธอมีลาภผลขึ้นมาได้
ภพลาภะแปลว่า “ความหวัง” ก็ได้
ดังนั้น ถ้าคุณจะอ่านว่าเธอมีคู่ครองคนนี้เพราะมีความหวังที่จะได้ลาภผลจากเขาก็ได้เหมือนกัน
แต่จากดวงเดิมที่อ่านมาแล้ว เราก็ได้ข้อมูลมาแล้วว่าเธอกับคู่ครองคนที่สองนี้มีโอกาสสูงที่จะต้องแยกจากกันในที่สุด (ดาวพุธปัตนิตกมรณะ-ดาวมรณะได้มหาจักรที่กัมมะแลกเรือนกับมรณะ เท่ากับกัมมะมาตกมรณะด้วย และนำเอามรณะจากดาวศุกร์มาครอบงำดาวปัตนิที่เรือนมรณะนี้เองเป็นซ้ำสอง แบบนี้โอกาสรอดยากเพราะเป็นเรื่องของกรรม)

ต่อไปก็เป็นการดูครรลองของแฟนเธอที่หายไป อันนี้ต้องดูที่ดาวจรนะครับ จะดูที่ดวงเดิมไม่ได้ ดวงเดิมให้ได้แต่ข้อมูลของชาตาชีวิตเท่านั้น สมมติว่าเธอมาดูดวงนี้กับคุณเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 จะมีดวงจรและอายุ/ลัคนาจรตามวงนอกของดวงดังนี้

เห็นดวงนี้แล้วคุณอาจจะตกใจที่มีเครื่องหมายอะไรเพิ่มเข้ามาหลายจุด
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ตัว X ที่ราศีมีนนั้นก็คือลัคนาคู่คนที่สองที่บอกไปแล้ว
ส่วนตัว @ ที่ราศีมิถุนนั้นคือ อายุจร ของเจ้าชาตา (33 ปี) ซึ่งอายุจรนี้จะต้องนับจากลัคนาเดิมนะครับ จะไปนับที่อื่นไม่ได้ (ยกเว้นกรณีพิเศษบางเรื่องเท่านั้น) เพราะลัคนาเดิมคือลัคนากำเนิดจึงต้องนับที่นี่แห่งเดียว
เมื่อได้ลัคนาจรซึ่งหมายถึงจุดชีวิตในปัจจุบันแล้ว ทีนี้คุณก็ดูดาวจรรอบๆ ดวงซีครับ โดยใช้ดาวที่ทำหน้าที่ในปัจจุบันนี่แหละ
เช่น ดาวพุธก็คือดาวปัตนิคนที่สองซึ่งเรากำหนดมาแล้วเป็นตัวเรื่อง (บางคนไม่เข้าใจเห็นลัคนาสถิตที่ราศีมิถุนก็เลยคิดว่าราศีธนูคือภพปัตนิที่หมายถึงคู่ครอง ตรงนี้แหละครับที่มือใหม่จะสับสนและงงกันมาก เพราะราศีธนูคือภพปัตนิตามที่ลัคนาจรกำหนด แต่นั่นเราจะใช้ในกรณีที่เราต้องการพยากรณ์เรื่องคู่ครองในขณะปัจจุบัน คือในขณะนั้น ไม่ใช่คู่ครองที่มีมาก่อนแล้วอย่างตัวอย่างนี้ ซึ่งจะต้องใช้ดาวปัตนิตัวที่ได้กำหนดอยู่แล้วเป็นตัวเดินเรื่องไปตามภพของปัจจุบัน)
วิชาโหราศาสตร์มีความซับซ้อนกันอย่างนี้แหละครับ ดังนั้น ในการศึกษาวิชานี้คุณต้องใช้ไหวพริบและวิจารณญาณที่สุขุมรอบคอบให้มาก อย่าสักแต่ว่าจะเรียนเพื่อรู้อย่างเดียว ทำอย่างนั้นคุณอาจจะไม่รู้อะไรจริงๆ เลย

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จะได้ดูดวงออกกันเสียที มาดูกันว่าแฟนของเจ้าชาตาคนนี้จะมีครรลองของเขาอย่างไร ถ้ารู้เส้นทางการพยากรณ์ว่าจะต้องดูยังไงแล้วก็ดูไม่ยากหรอกครับ
ผมเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวอย่าง ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนไม่เหมาะกับมือใหม่อย่างยิ่ง แต่ที่ผมนำเอามาก็เพราะต้องการที่จะ “สอน” ให้คุณๆ ได้รู้จักวิธีดูดวงที่ซับซ้อนอย่างนี้ให้ได้ จึงขอให้คุณอ่านตรงนี้อย่างตั้งใจ จำขั้นตอนและการแยกดาวแยกภพให้ดี แล้วคุณจะไปดูดวงทุกดวงได้โดยไม่มีปัญหาอีกเลย
ในตัวอย่างนี้ คุณจะเห็นว่ามีลัคนาถึงสามตัว คือลัคนาเดิมที่ราศีตุล ลัคนาคู่ที่ราศีมีน และลัคนาอายุจรที่ราศีมิถุน คุณต้องรู้จักหน้าที่ของลัคนาเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน ไม่งั้นจะสับสนจนดูดวงไม่ออก
ลัคนาเดิม มีหน้าที่กำหนดภพอันเป็นโครงสร้างของชีวิตหรือของดวงชาตาทั้งชีวิต นำเอาภพของลัคนาเดิมมาใช้ในการดูจรเพียงเป็น “พื้นฐาน” ของภพที่ถูกตั้งขึ้นด้วยลัคนาใหม่เท่านั้น หรือจะเรียกว่าเป็น “กำพืด” ของลัคนาที่สร้างขึ้นใหม่ก็ได้
ลัคนาคู่ มีหน้าที่กำหนดดาวที่เป็นคู่ครองตามลำดับที่จัดไว้ และมีภพของตัวเองเหมือนกัน แต่ใช้ภพเหล่านั้นเพียงเพื่อการรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับคู่เท่านั้น จะนำภพในลัคนานี้ไปใช้ในเรื่องทั่วไป เช่น จะดูเรื่องการงานในปีปัจจุบันจะดูที่ภพกัมมะของลัคนาคู่ไม่ได้ ต้องดูที่ภพกัมมะของลัคนาอายุจร (หรือที่เรียกว่าลัคนาสามัญ)
ลัคนาอายุจร (สามัญ) ทำหน้าที่กำหนดภพขึ้นใหม่เพื่อการพยากรณ์ในปีปัจจุบันเป็นหลัก โดยต้องนำความหมายของภพที่กำหนดขึ้นใหม่นี้เข้าผสมความหมายกับภพของลัคนาเดิมด้วย (ถ้าดูเกี่ยวกับคู่ก็ต้องผสมกับภพของลัคนาคู่ด้วยเหมือนกัน)
ตรงจุดนี้แหละครับที่เป็นเรื่องยากหน่อยสำหรับมือใหม่ที่จะต้องจดจำวิธีการให้ได้ เพื่อให้ผลของการพยากรณ์มีความถูกต้องแม่นยำ เพราะถ้าผสมความหมายผิดก็ทายผิดไปด้วย จึงต้องระวังเรื่องนี้ให้ดี
เอาละครับ ทีนี้ก็มาดูการอ่านดวงตัวอย่างที่มีเชิงซ้อนอย่างที่ว่านี้ให้กระจ่างกันเลย ย้ำอีกครั้ง
ถ้าคุณเข้าใจดีในเรื่องการผสมความหมายของลัคนาต่างๆ แล้ว การทายก็ไม่ยากอะไรนักหนาหรอก สุดแต่ว่าเราจะทายในเรื่องที่เกี่ยวกับอะไร
ก็เอาลัคนานั้นมาทายเท่านั้นเอง
ตามตัวอย่างนี้เราจะทายเรื่องแฟนของเจ้าชาตาที่หายหน้าไปสามอาทิตย์ไม่ติดต่อมาเลยว่าหายไปไหน ไปทำอะไร? (ที่จริงเรื่องระดับนี้มือใหม่ยังทายไม่เป็นกันหรอกครับ ต้องมีพื้นฐานที่สูงหน่อยจึงจะทายได้) ซึ่งการทายก็จะต้องใช้ทั้งสามลัคนาที่มีอยู่นี่แหละ คุณดูให้ดีนะครับว่าใช้กันยังไง
เมื่อตัวเรื่องคือแฟนของเจ้าชาตาซึ่งเป็นคนอื่น แต่เอาดวงของเจ้าชาตามาดูแทน ดวงของเจ้าชาตาจึงบอกถึง “ลีลา” ของคนอื่นได้เพียงสังเขปเท่านั้น จะเอาผลที่มีรายละเอียดมากนักไม่ได้หรอก วิธีดูก็คือจับที่ดาวตัวเรื่องคือดาวพุธ (คู่ครองคนที่สอง) ว่าขณะนี้ได้จรไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ดูตามดวงจรก็เห็นว่าดาวพุธจรอยู่ที่ราศีมังกรร่วมกับดาวศุกร์คู่ธาตุ ซึ่งราศีนี้ถูกกำหนดให้เป็นภพลาภะของลัคนาคู่และเป็นภพมรณะของลัคนาอายุจร
เท่ากับ ลาภะ + มรณะ
อ่านง่ายๆ ว่า “สูญเสียลาภ”
ดาวพุธนั้นเป็นดาวปัตนิคนที่สองก็จริง แต่ในปีนี้ถูกกำหนดให้เป็นดาว “ตนุลัคน์” ด้วย ดังนั้น จึงอ่านรวมได้อีกว่า “ตัวเองเสียลาภผล” ด้วยเช่นกัน
เนื้อที่หมดอีกแล้ว ขอยกยอดไปตอนหน้าตามเคยครับ