นาย ต. : สำรวจตลาดอสังหาฯดูดชาวจีน

ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้น นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนครองตำแหน่งอันดับหนึ่งมาเป็น 10 ปีแล้ว

ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกวันนี้ หากพูดถึงลูกค้าต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศ ก็มีความหมายถึงลูกค้าจากประเทศจีนเป็นหลักแล้ว

บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ๆ นอกจากจะมีสำนักงานและตัวแทนขายตามเมืองใหญ่ๆ ของประเทศจีนแล้ว ในประเทศปัจจุบันมีพนักงานขายที่พูดภาษาจีนได้ประจำสำนักงานขายในย่านที่มีลูกค้าจีนกันถ้วนหน้า

ตลาดโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว

แม้แต่ความขัดแย้งทางการค้าโลกระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ที่หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจนั้น หากให้คาดผลลัพธ์สุดท้ายใครชนะ

แทบไม่ต้องวิเคราะห์ทุกคนก็รู้ว่า จีนเป็นต่อทุกประตู

 

พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยก อสมท รัชดา ห้วยขวาง เป็นย่านนิวไชน่าทาวน์ เป็นบริเวณที่คนจีนทั้งนักท่องเที่ยว นักธุรกิจทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการอยู่อาศัยมากที่สุด ร้านอาคารบางร้าน ตึกบางตึก คนจีนล้วนๆ

ส่วนสุขุมวิทช่วงต้น ย่านเอ็มโพเรียม เป็นย่านคนจีนมีฐานะที่ทำมาหากินอยู่ในไทยแบบถาวร

ย่านพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นย่านคนจีนไฮโซเดินทางมาท่องเที่ยวและใช้ชีวิต

เยาวราช เป็นโอลด์ไชน่าทาวน์ เป็นย่านท่องเที่ยวรับประทานอาหารอร่อย และดูวิถีชีวิตคนเชื้อสายจีนที่อพยพเข้ามาในอดีต

ต่างจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจีนนิยมไป ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา

จะเห็นได้ว่าตลาดจีนสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น มีหลายกลุ่มหลายระดับ ตามไลฟ์สไตล์ ตามกำลังซื้อของคนจีนแต่ละกลุ่ม

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดจีน ก็จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ถัดมาค่อยเป็นพวกพื้นที่สำนักงาน

 

แต่ล่าสุดที่กำลังคึกคักอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทยบริเวณพื้นที่ที่เรียกว่า อีอีซี ซึ่งมีกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ จากจีนมากว้านซื้อที่ดินเพื่อทำอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม จำนวนมาก เพื่อสร้างฐานการผลิตและการค้าในประเทศไทย

อย่าได้แปลกใจ แต่ต้องปรับตัว

ประเทศไทยเราก็เป็นอย่างนี้แหละ

เมื่อ 50 ปีที่แล้ว อู่ตะเภา พัทยา โคราช ตาคลี อุดรฯ อุบลฯ ฝรั่งหัวแดงก็เต็มบ้านเต็มเมือง

ก็ไม่แปลกที่ทุกวันนี้หลายพื้นที่จะมีคนจีนมากมายบ้าง