แมลงวันในไร่ส้ม/ดูด-ครรลอง ปชต.ไทยๆ ผ่านเส้นตาย 30 เม.ย. ปชป.ลั่น ‘เนฟเวอร์ดาย’!

แมลงวันในไร่ส้ม

ดูด-ครรลอง ปชต.ไทยๆ

ผ่านเส้นตาย 30 เม.ย.

ปชป.ลั่น ‘เนฟเวอร์ดาย’!

นับเป็นวาทะที่บ่งบอกถึงแนวทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา เมื่อ 27 เมษายน ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ในเวลา 20.15 น. มีประเด็นสำคัญ 3 ประการด้วยกันคือ
1.เรื่องการดูด มีทุกพรรคการเมืองมายาวนานแล้ว อาจเป็นครรลองของประชาธิปไตยของไทยตลอดมา หลายคนอาจจะอ้างว่าทำด้วยอุดมการณ์ ด้วยนโยบาย เพื่อชาติและประชาชน ประชาชนควรใช้วิจารณญาณได้เองว่าอะไรคือการทำเพื่อส่วนรวม อะไรที่เป็นการทำเพื่อพวกพ้อง หากมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญเช่นเดียวกันแล้ว ก็น่าจะช่วยกันทำงานได้ เราไม่อาจมองข้ามกันได้
เราจะต้องทำให้นักการเมืองทุกคนที่เข้าสู่ระบบเลือกตั้งครั้งหน้านี่เป็นคนที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีธรรมาภิบาล ไม่ว่าจะนักการเมืองเก่า นักการเมืองใหม่ หรือคนที่เคยทำผิดกฎหมาย มีคดี ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม หรือเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ คนเหล่านี้ใครควรจะได้รับการเลือกตั้งหรือใครไม่ควรจะได้รับการเลือกตั้ง ก็เป็นเรื่องของประชาชนพิจารณา ตนชี้นำไม่ได้
อีกตอน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำอย่างไรจะได้นักการเมืองที่มีคุณภาพเข้ามาทำงาน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ติดตามศึกษาอยู่ พรรคการเมืองมีอยู่ 3 ทางด้วยกัน ทางที่ 1 คือ การเคลื่อนไหวของนักการเมืองใหม่ทั้งหมด ทางที่ 2 นักการเมืองเดิม อาจจะที่มีคุณภาพ หลายพรรคต่างๆ ก็มาช่วยกัน ทางที่ 3 คือ นักการเมืองจากทุกพรรค ทุกกลุ่มเดิมๆ ที่ไม่ได้แยกย้ายพรรคอะไร พวกนี้ก็จะเข้ามาเลือกตั้งเหมือนเดิม
เราฝืนข้อเท็จจริงไม่ได้ เรามีนักการเมืองแบบไหนบ้างในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเก่า จะใหม่ จะดี ไม่ดี ก็มีอยู่เท่านี้ เราอาจจะต้องใช้วิธีผสมกันหรือไม่ 1 หรือ 2 เราต้องยอมรับความจริงตรงนี้ นักการเมืองใหม่เข้ามาน้อยมาก เราน่าจะอยากได้คณะรัฐมนตรีที่ควรมีนักการเมืองใหม่เข้ามาเติม มาเสริม แล้วมีนักการเมืองเก่าที่ดีๆ หวังดีกับประเทศชาติจริงๆ เข้ามาทำงานด้วยความสมัครใจ ทำเพื่อชาติ เพื่อพี่น้องประชาชน มากกว่าทำเพื่อพรรคอย่างเดียว
และตอนท้ายของรายการ พล.อ.ประยุทธ์ยกคำกล่าวของเติ้ง เสี่ยว ผิง อดีตผู้นำจีน ที่กล่าวว่า ไม่ว่าแมวขาวหรือแมวดำ ขอเพียงจับหนูได้ คือแมวที่ดี โดยระบุว่า เราจะต้องทำให้ทั้งแมวขาว แมวดำของเรา ไม่ทะเลาะกันเอง ไม่กัดกันเอง แล้วเป็นแมวสะอาด ไม่มีเชื้อโรค ไม่อย่างนั้นก็ไปปราบหนูไม่ได้ เพราะฉะนั้น เราต้องทำให้บ้านเมืองเราสะอาด ต้องใช้แมวที่สะอาด

อิสสระ สมชัย

เรื่องของการดูด ส.ส. การนำเอา ส.ส.เก่า และคนรุ่นใหม่มาทำงานร่วมกัน และตอกย้ำด้วยทฤษฎีแมวขาวแมวดำบันลือโลกของเติ้ง เสี่ยว ผิง โยงไปถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้
โดยเฉพาะหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พลิกท่าทีประกาศในวันรายงานตัวยืนยันสมาชิกภาพพรรคการเมืองว่า พรรค ปชป. จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ ถ้าสนับสนุนคนนอกก็ต้องไปพรรคอื่น
ผลที่ตามมาคือ มีอดีต ส.ส. จำนวนหนึ่ง เริ่มทยอยออกจากพรรค ที่เป็นข่าวเกรียวกราวคือ การเข้ารับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ของนายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม. ซึ่งต่อมาให้สัมภาษณ์ว่าสนใจการเมืองระดับชาติ และคงจะลงสนามใหญ่หากการเลือกตั้งเกิดขึ้น
และยังจะมีคนของ ปชป. ติดตามนายสกลธีออกมาอีก อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ผอ.พรรค ปชป.
น่าสังเกตว่า อดีต ส.ส. ส่วนหนึ่งที่ออกจากพรรค คือกลุ่มที่เคยร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในนาม กปปส. และประกาศสนับสนุน คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์มาตลอด
มีกระแสสนับสนุนให้นายสุเทพตั้งพรรค กปปส. มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่พรรคนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะนายสุเทพประกาศย้ำแล้วย้ำอีกในช่วงชุมนุมขับไล่รัฐบาลเพื่อไทย ว่าตนเองจะเลิกการเมือง ไม่ลงสมัคร ส.ส. อีก
หากกลืนน้ำลาย กลับลำมาลงอีก น่าจะกลายเป็นปัญหาไปถึงบุคคลที่พรรคสนับสนุน
พรรค กปปส. จึงไม่เป็นรูปเป็นร่าง สมาชิกส่วนหนึ่งกลับเข้าพรรค ปชป. แล้วถอนตัวออกมาในที่สุด
หลังจากนั้น ยังมีกรณีของ 27 เมษายนที่ผ่านมา นายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส.กทม. ส่งข้อความในกลุ่มไลน์ของ ส.ส.พรรค ลาออกจากพรรค เพื่อไปร่วมงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ “ชัช เตาปูน” หรือนายชัชวาลย์ คงอุดม อดีต ส.ว.กทม. ไปจัดตั้ง และคาดว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางแกนนำพรรคเชื่อว่า อดีต ส.ส. ส่วนมากจะไม่ย้ายไปไหน ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์ในวันข้างหน้ากันต่อไป

การดูด ส.ส. เกิดขึ้นกับทุกพรรค รวมถึงขั้วตรงข้าม คสช. ได้แก่ พรรคเพื่อไทย และพรรคที่เคยเป็นพันธมิตรกัน
กลุ่ม ส.ส.จังหวัดที่จะย้ายไปสนับสนุน คสช. มีอาทิ กลุ่ม จ.นครปฐม กลุ่มพลังชลของ จ.ชลบุรี กลุ่มสระบุรีของตระกูลอดิเรกสาร และอีกหลายกลุ่มที่รอดูท่าที
เมื่อ คสช. ตั้งพรรคใหม่ พรรคเดิมๆ ก็เจอปัญหาจากกฎหมายพรรคการเมืองและระเบียบต่างๆ โดยถ้วนหน้า
โดยเฉพาะข้อกำหนดให้สมาชิกพรรคมายืนยันสถานะใน 30 วันจาก 1 เมษายน- 30 เมษายน
หมดเขตไปแล้ว ปชป. ที่มีสมาชิก 2.5 ล้าน มายืนยันไม่ถึง 1 แสนคน เท่ากับว่า สมาชิก 2.4 ล้าน หายวับ สิ้นสมาชิกภาพไป
ส่วนเพื่อไทยที่โดนยุบมา 2 รอบ มีสมาชิกหลักแสน เหลือแค่หลักพัน
ซึ่งจะมีผลถึงการคัดเลือกผู้สมัครด้วยระบบไพรมารีโหวต ซึ่งจะต้องมีฐานสมาชิกรองรับ 100-500 คน ในแต่ละจังหวัดหรือเขตเลือกตั้ง
นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า “Democrat Party never die” ระบุว่าสมาชิกของเรา 2.4 ล้านคนถูกตัดสิทธิ์ให้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. ด้วยเขามุ่งหวังทำลายพรรคประชาธิปัตย์ให้อ่อนกำลังลง
ขอบอกว่าไม่มีทางครับ แม้จะขาดจากสมาชิก ปชป. แต่จิตใจและวิญญาณของมวลสมาชิกยังเป็น ปชป. เหมือนเดิม
โปรดรู้ด้วยว่า “Democrat Party never die”
นั่นคือโพสต์จากอดีต ส.ส. ของ ปชป. คนหนึ่ง
ส่วนชะตากรรมของแต่ละพรรคในการเลือกตั้ง ใครจะอยู่ ใครจะ Die พอจะมองเห็นอนาคตกันอยู่