สำเริงคดี : สองรสละครไทย

ร่วมสองเดือนที่ผ่านมา ได้ตามดูละครทีวีตั้งกะวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี

จันทร์กับอังคารในช่วง 21.20 น. ทางช่องวัน (31) เรื่องกาหลมหรทึก

ส่วนพุธกะพฤหัสบดีเป็นละครโคตรดังแห่งปี…บุพเพสันนิวาส ช่วงหลังข่าวช่อง 3 (33) สองเรื่องสองรสเหมือนซดอเมริกาโน 2 ถ้วย ตามด้วยลาเต้อีก 2 ถ้วยทุกอาทิตย์ แล้วเข้านอนแต่หัวค่ำในคืนวันศุกร์ (เฮ่…เฮ่)

ละครทั้งสองเรื่องทำมาจากหนังสือขายดีมีคนกล่าวขวัญชื่นชอบ

อย่างกาหลมฯ นั้นเขาเทียบถึงระดับรหัสลับดาวินชีของแดน บราวน์ นั่นเทียว

ละครเรื่องนี้ทำออกมาในแนว “นัวร์” ตามเนื้อหาซึ่งว่าด้วยการติดตามคลี่คลายคดีฆาตกรรมรอยสักศพละ 5 คำจากกลโคลงของฆาตรกรต่อเนื่อง

คดีเหล่านี้เกิดขึ้นในพระนครช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชวนให้นึกถึงเกร็ดประวัติศาสตร์ที่เขียนเล่ากันว่านาซีส่งฆาตรกรโรคจิตไปก่อเหตุหลังแนวรบข้าศึกให้ผู้คนหวาดผวาปั่นป่วน แบบว่าทำสงครามจิตวิทยา

ในละครไม่ค่อยรู้สึกถึงบรรยากาศสงครามสักเท่าไหร่

ยกเว้นเมื่อมันเป็นสถานการณ์ให้เรื่องเดินหน้าอย่างในตอนคดีผดุงศักดิ์

ชอบการออกแบบเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะหมวกยุคจอมพล ป.

เรื่องนี้นักแสดงค่ายเอ็กแซกท์ชักแถวมาเล่นกันเพียบอย่างให้ความสำคัญกับตัวละครประกอบทุกตัว

เช่นเดียวกับในเรื่องบุพเพฯ ซึ่งมีการเขียนบทและกำกับฯ ให้นักแสดงประกอบมีบุคลิกเฉพาะตัว ทำให้คนดูคุ้นเคยและติดตามเสมือนพวกเขาเป็นตัวเอกในซีนที่เขาเล่น

ทำให้ได้เห็นฝีมือนักแสดงประกอบ และเรื่องราวก็สนุกขึ้นทั้งช่วยเพิ่มเนื้อหาที่เอื้ออวยต่อแกนเรื่องหลักด้วยฝีมือของคนเขียนบทและผู้กำกับฯ

นับว่าละครสองเรื่องนี้ได้เปิดเส้นทางของการพัฒนาละครทีวีไทยไปอีกขั้น

สําหรับบุพเพฯ ซึ่งจบไปแล้ว การฝากรอยอาลัยให้แฟนานุแฟนของ “ออเจ้า” ด้วยสเปเชียลเอดิชั่นนั้นเป็นความคิดที่ดีงามอยู่

แต่เสียดายที่ออกจะรีบรนในการตัดต่อ ทำให้รอยต่อหลายแห่งไม่เนียนนวล

แล้วก็มีฉากแฟลชแบ็กที่แม่การะเกดเจ้าเก่าเข่นเขี้ยวจิกค่อนแม่จันทร์วาดผู้ตามเจ้าคุณพ่อมาถึงเรือนคุณพี่เดช

ซึ่งมี 2 ฉากต่างเวลานั้น ไดอะล็อกเหมือนกันเป๊ะ มุมกล้องและขนาดภาพก็ใกล้เคียง

ทำให้กระตุกในความรู้สึก

จริงอยู่ที่ในชีวิตจริง คนเราด่าว่าใครซ้ำคำซ้ำประโยคได้ แต่พอเป็นละครแล้วตัดมาต่อไว้ไม่ห่างกันมันขยักกึกกักอ่ะ เอาเหอะ พอเข้าใจได้อยู่ว่า หนึ่ง คงรีบทำให้เสร็จก่อนหยุดสงกรานต์ และสอง ไม่มีการถ่ายซ่อมถ่ายเสริมเพิ่มปะชุนให้เนี้ยบ

อย่างไรก็ตาม เรื่องจากหนังสืออ่านสนุก ได้คนเขียนบทเก่ง ผู้กำกับฯ เจ๋ง นักแสดงฝีมือ คนทำงานในกองถ่ายทุ่มเท มีหรืองานจะไม่ออกมาดี

ตัวชี้ขาดว่าจะดังมากหรือดังพอประมาณก็คือคนดู

ฉะนี้ การที่บุพเพฯ เปรี้ยงปร้างกว่ากาหลมฯ ก็น่าจะเพราะคอละครทีวีไทยชอบดราม่าคอเมดี้มากกว่าดราม่าซัสเปนซ์ (ที่ออกจะทริลเลอร์หน่อย) นั่นเอง

ลาเต้หมดไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังเหลืออเมริกาโนให้ซด วันที่เขียนคุยกันเนี่ยรู้แน่แล้วว่าฆาตกรคือนายกล้า แต่ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง? และเพราะเหตุใด?

…จึงต้องติดตาม