เผยแพร่ |
---|
สถานการณ์ “ป่าแหว่ง” ภายหลังการชุมนุมสำแดงพลังที่เชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน เริ่มมีความแจ่มชัด
แจ่มชัดว่า ยากจะ “เดินหน้า” ต่อไปได้
ความพยายามของ “รัฐบาล” และ “คสช.”ในตอนนี้ก็เพียงแต่เป็นการยื้อ และ “ซือเวลา” เท่านั้น
ไม่ว่าจะมองผ่านเวบเพช”ไทยคู่ฟ้า”
ไม่ว่าจะมองผ่านการมอบหมายให้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เดินทางขึ้นเชียงใหม่ในวันที่ 6 พฤษภาคม
เป้าหมายคือ ต้องการเตะถ่วง
เพราะบทสรุปของ “ภาคีเครือข่าย”อันก่อรูปขึ้น 50 เครือข่ายในเชียงใหม่ ไม่อ้อมค้อม
นั่นก็คือ “รื้อ” และ”ยกเลิก”สถานเดียว
หากมองผ่านในแต่ละด้านของบ้านพักเชิงอุทยานแห่งชาติดอยสุ เทพ-ปุย ก็จะสัมผัสได้ในอาการงันชะงัก
เริ่มมีเสียงจาก “ตุลาการ” ออกมาแล้ว
แม้จะยืนยันในเรื่องของ “หลักกฎหมาย” แต่ก็มีมติให้เป็นเรื่องของรัฐบาล
บางคนยอมรับว่าการเข้าไปยากเป็นอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน ทางด้านกองทัพบกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพ ภาคที่ 3 เสียงก็เริ่มอ่อนลง
นั่นก็คือ รอผลในวันที่ 6 พฤษภาคม เท่านั้น
ยิ่งกว่านั้น การเดินทางไปเชียงใหม่ของ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เหมือนกับจะไปหา “มติ” จากที่ประชุมร่วมซึ่งมีอยู่ 17 องค์กร
แต่ก็ยากที่จะเฉไฉไปอย่างอื่นได้ เพราะมีแนวทางเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่
นั่นก็คือ รับ”มติ”ของ”ภาคีเครือข่าย”
เส้นทางของบ้านพักหรูเชิงอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยจึงเหลือน้อยเป็นอย่างยิ่ง
จำเป็นต้อง “คืน” ผืนป่าเท่านั้น
ไม่ว่าจุดเริ่มต้นของ “ปัญหา” นี้จะเริ่มมาอย่างไร แต่ในที่สุดก็ตกลงบนบ่าของ 1 คสช. และ 1 รัฐบาลปัจจุบันอย่างมิอาจปัดปฏิเสธได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำเป็นต้อง”ตัดสินใจ”
นี่คือ “เส้นทาง” อันกำหนดโดย “ภาคีเครือข่าย”ทวงคืนผืนป่า