แมลงวันในไร่ส้ม/เริ่มโหม ‘พลังดูด’ ‘พลังชล’ ซบ ‘คสช.’ ตั้งเป้า ส.ส. ทะลุ ‘251 เสียง’

แมลงวันในไร่ส้ม

เริ่มโหม ‘พลังดูด’

‘พลังชล’ ซบ ‘คสช.’


ตั้งเป้า ส.ส. ทะลุ ‘251 เสียง’

กระแสข่าว “ดูด” เริ่มมีการแสดงออกอย่าง “เป็นทางการ” แล้ว
ก่อนหน้านี้ มีข่าวดึงนักการเมืองเข้าร่วมพรรคและสร้างเครือข่ายพรรค เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกรอบ
กลุ่ม ส.ส. ที่ตกเป็นข่าวมีอาทิ กลุ่มวังน้ำยม หรืออดีตพรรคมัชฌิมาประชาธิไตย ซึ่งยกทีมเข้าหารือ พล.อ.ประยุทธ์ หลังประชุม ครม.สัญจรที่ สุโขทัย และกลุ่มนครปฐม ที่นายกฯ นำทีมไปตีกอล์ฟ และนั่งสนทนากันอย่างชื่นมื่น
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มของนายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม กปปส. ที่เพิ่งยืนยันสมาชิกภาพของ ปชป. แต่ก็ถูกแกนนำรัฐบาล คสช. ทาบทามมาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.
หากมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่จะลาออกมาลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ โดยจะมีนักการเมืองรุ่นใหม่จากพรรค ปชป. มาร่วมด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
ล่าสุด เมื่อ 17 เมษายน ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบ แต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา เป็นผู้ช่วย รมต.การท่องเที่ยวและกีฬา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถือเป็นการแต่งตั้งตามขั้นตอน ตนในฐานะหัวหน้าคณะรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัติให้นำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ก่อนมีมติออกมา ฉะนั้น คนเสนอคือเจ้ากระทรวงและรองนายกฯ ที่เสนอขึ้นมา เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติแล้วผ่าน ไม่ติดอะไรต่างๆ ครม. ก็อนุมัติ
เมื่อถามว่าคุณสมบัติอะไรที่เหมาะสมจึงแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อเอาอะไรมาวัดว่าเหมาะสมไม่เหมาะสม สื่อเป็นผู้ประเมินผลหรือไม่ เมื่อถามว่าจะให้นายสนธยาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านไหน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ปรึกษานายกฯ ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดินก็มี
ตนก็จะฟังเขาว่าเห็นอย่างไร จำเป็นต้องมีคนเหล่านี้เข้ามาบ้างเพื่อมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเอาคนนี้มาเพื่อประโยชน์อะไรของตนเอง ไม่ใช่ วันนี้กำลังจะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้นตนก็ต้องมีคนที่รู้เรื่องเหล่านี้มาให้คำปรึกษาว่าเป็นอย่างไร เพราะตนก็ไม่รู้ว่าการเมืองมันทำกันมาอย่างไร ดังนั้น จึงต้องรู้บ้าง
เมื่อถามถึงกรณีแต่งตั้งนายอิทธิพลเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นผู้เสนอ ตนไม่รังเกียจนักการเมือง ไม่รังเกียจใครทั้งสิ้น ก็ต้องพิจารณาว่าใครเหมาะสม
เมื่อถามว่าเป็นการสะท้อนอนาคตพรรคพลังชลที่จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “รัฐบาลใคร ยังไม่ตั้งรัฐบาลเลย”

ส่วนนายสนธยา คุณปลื้ม กล่าวว่า ที่เข้ามาเพื่อผลักดันโครงการเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่วนนายอิทธิพลทำงานให้กับเมืองพัทยามานาน อีกทั้งมีตำแหน่งนายกสมาคมวินด์เซิร์ฟแห่งประเทศไทย เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้ามาช่วย ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกีฬาและการท่องเที่ยว
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายสงสัยรับตำแหน่งเพื่อปูทางอนาคตจะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ นายสนธยากล่าวว่า ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง เวลานี้ยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังชล พลังชลยังเป็นพรรคพลังชล ไม่มีถูกดูด ตนยืนยันสมาชิกภาพพร้อมจ่ายค่าบำรุงสมาชิกพรรคตลอดชีพไปแล้ว เรายังทำงานในฐานะพรรคพลังชล ส่วนการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องในอนาคต
การดึงนักการเมืองเข้าร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คสช. เริ่มเดินเครื่องการเมืองเต็มที่แล้ว
ขณะที่พรรคที่ตกเป็นเป้าการดูดก็ต้องระมัดระวัง ดูแลนักการเมืองในพรรคของตนเองมิให้หลุดลอยจากพรรคด้วยพลังดูด


วันที่ 23 เมษายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวา ได้ยินเรื่องดึงพรรคพลังชลก่อนหน้านี้แล้ว ยังได้ยินเรื่องกระบวนการของรัฐ และคนที่มีอำนาจรัฐจะมาเล่นการเมือง ซึ่งไม่จำเป็นต้องลง ส.ส. แต่อาจใช้สถานะตรงนั้นในการติดต่อภาคธุรกิจ ส่งสัญญาณว่าไม่ควรสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใด ตนคิดว่าการกระทำลักษณะดังกล่าวไม่ต่างจากหลายระบอบที่เราต้องต่อสู้ในอดีต
และคิดว่าขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องการให้ผู้มีอำนาจขณะนี้ยุ่งกับการเมือง หรือไม่ส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งต่อไป
“ผมได้ยินมาอีกว่าตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรียังเสนอให้หลายคน หลายพรรค เสนอตำแหน่งไม่ใช่กับเพียงตระกูลสะสมทรัพย์ แต่กับ ปชป. ก็เสนอเช่นกัน และคิดว่าเป้าหมายของพรรคนี้จะต้องได้รับเสียงพอสมควร อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25 เสียง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีความพยายามระดมเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดตั้งพรรคทหารสืบทอดอำนาจ
“ผมได้บอกกับผู้ใหญ่ในพรรค แต่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เชื่อ แต่ปัจจุบันข่าวก็ออกมาเป็นระยะว่า มีการระดมเงินจำนวนมากเพื่อดูด ส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ให้ไปสนับสนุนพรรคการเมืองของทหารด้วย” นายวัชระกล่าว
ถ้าเป็นความจริงก็ต้องถือว่า งานนี้ทุ่มทุนจัดสร้างกันแบบ “เสียเท่าไหร่ไม่ว่า…ฯลฯ”

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวตอบโต้เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการเป็นประธานประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีว่า “ไม่ได้ยิน ฉันไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น วิพากษ์วิจารณ์ไปซิ ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว ทำงานอย่างเดียวไม่เกี่ยวกัน”
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายกฯ เอง ยังไม่ได้กล่าวถึงการตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
และตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวแต่เพียงว่า ให้รอดูเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
สื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้
และเชื่อว่า การดูด ส.ส. เพื่อสร้างเครือข่ายพรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้มี ส.ส. ในสภามากกว่า 251 เสียง หรือกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ ให้ได้
เพื่อผสมกับ 250 ส.ว. ที่มาจากการคัดเลือกของ คสช. จะกลายเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา
ในทางกลับกัน เพื่อป้องกันมิให้พรรคเพื่อไทยและแนวร่วม มีเสียง ส.ส. เกิน 251 เสียง ซึ่งจะเกิดความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล แม้จะไม่มีเสียงสนับสนุนในวุฒิสภาก็ตาม
และเพื่อป้องกันมิให้พรรคเพื่อไทย นำเอาคะแนนเสียงนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในสภา โดยเฉพาะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
กลยุทธ์ในการดูด จะเป็นไปตามที่นายอภิสิทธิ์ระบุหรือไม่ และจะบรรลุเป้าหมายในการตรึงเสียงข้างมากในสภา ไม่ให้เทไปทางพรรคเพื่อไทยหรือไม่
เป็นประเด็นข่าวร้อนแรงของการเมืองนับจากนี้ไป