อนาคตใหม่ ?

การพบปะกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กับวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BNK48 ประกอบด้วย
1) เฌอปราง อารีกุลย์ (เฌอปราง), 2) นปภัช วรพฤทธานนท์ (จ๋า), 3) เจนนิษฐ โอ่ประเสริฐ, 4) วรัทยา ดีสมเลิศ (ไข่มุก), 5) แพรวา สุธรรมพงษ์ (มิวสิค), 6) กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล (เนย), 7) รินรดา อินทร์ไธ (เปี่ยม) และ 8) สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์ (ซัทจัง)


ภายใต้กิจกรรมประชาสัมพันธ์รายการคลื่น เด็ก เยาวชน และครอบครัว “Happy Family Radio FM 105 MHz : วิทยุเพื่อครอบครัว” ของกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล
ถือเป็นครั้งที่ 2 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกมองว่าใช้กลยุทธ์สร้างคะแนนความนิยมหาเสียงกลุ่มวัยรุ่น ก่อนการเลือกตั้งด้วยการใช้ละครและเพลงมาเป็นเครื่องมือ สร้างความสนใจในกิจกรรมของรัฐบาล
โดยครั้งแรกอิงกระแสความโด่งดังของละครบุพเพสันนิวาส โดยนำเอาคณะนักแสดงมาร่วมเปิดตัวเพจไทยนิยมของรัฐบาลและครั้งที่ 2 วันที่ 24 เมษายน ได้เชิญกลุ่มนักร้องชื่อดัง BNK48 เพื่อโปรโมตวิทยุครอบครัวดังกล่าว

แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “อีเวนต์” ที่ไม่ยั่งยืนเป็นเรื่องฉาบฉวย เป็นกระแสความนิยมเฉพาะความบันเทิงมิใช่แนวทางทางการเมือง ที่ผู้บริหารหรือรัฐบาลจะเอากระแสฉาบฉวยมาแก้ไขปัญหาชีวิต ปัญหาสังคมและประเทศไม่ได้เพราะมิได้นำไปสู่ “อนาคตใหม่” อันแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ “การเลือกตั้ง” กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งแม้ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อใดแต่กิจกรรมฉาบฉวยที่เรียกคะแนนนิยมได้เช่นนี้ กลับเป็นสิ่งจำเป็น แม้กระทั่งต่อผู้ที่ไม่อยากเรียกตนเองว่า “นักการเมือง” ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ก็พยายามทำให้การพบปะกับ BNK48 มีเนื้อหา และสื่อไปถึง “อนาคตใหม่” บางอย่างโดยกล่าวว่า”วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ทั้งเรื่องเทคโนโลยีสำคัญที่สุดเรื่องดิจิตอล รวมถึงระบบออนไลน์ หากเราไม่เปลี่ยนก็ไปไม่ได้ จึงอยากให้มีการเริ่มตั้งแต่เด็กๆ เพื่อพัฒนาไปสู่คนรุ่นใหม่ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม จึงอยากชักชวนคนรุ่นใหม่ช่วยกันสร้างสรรค์ประเทศ เราจำเป็นต้องมีคนแบบนี้”และศิลปิน BNK48 เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนพร้อมยืนยันว่า”งานนี้เกิดจากความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคธุรกิจร่วมมือกัน เด็กๆ เยาวชนจนถึงนักศึกษา กับสมาชิก BNK48 ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ทำสิ่งที่ดีงามให้สังคมสงบเรียบร้อย สามารถพัฒนาไปวันข้างหน้าได้ สร้างหลักคิดให้เด็กโตขึ้นอยากเป็นอะไร เช่น BNK48 ที่รวมตัวกัน 26 คนสร้างสรรค์พัฒนาตัวเองขึ้นมา ทุกคนมีความฝันที่อาจจะคล้ายๆ กันแต่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนพัฒนาไปสู่ความฝันที่ตัวเองตั้งใจไว้ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การแสดงออกที่ไม่ใช่ร้องเพลงเก่ง แต่เป็นเรื่องความพยายามที่สุดท้ายก็ดีขึ้นเอง ทุกอย่างอยู่ที่ความพยายาม”
ทั้งนี้ ‘ลุงตู่’ ได้ร่วมโชว์เต้นโอนิกิริ คุกกี้เสี่ยงทาย กับศิลปิน BNK48 ด้วย

น่าสังเกตว่าแม้อีเวนต์ที่ทำเนียบครั้งนี้ มีประเด็นทางการเมืองแฝงอยู่ ด้วยเกี่ยวข้องกับ “คะแนนนิยม” ของรัฐบาล คสช. และตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง

กระนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ดูจะพยายามไม่เน้น “การเมือง” ในการพบปะครั้งนี้ทั้งที่หากเป็นแฟนคลับ BNK48ย่อมจะคุ้นเคยกับคำว่า เซมบัตสึ (sembatsu)ด้วยเพราะศิลปินในสังกัด 48 กรุ๊ป มีจำนวนมากหลายสิบหรือร่วมร้อยคนแน่นอนว่าสมาชิกเยอะขนาดนี้ คงไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ขึ้นแสดงบนเวที
ฉะนั้น จึงมีเหล่าผู้เลือกและเหล่าผู้ถูกเลือก หรือเซมบัตสึ สมาชิกที่ได้รับเลือกให้มีส่วนร่วมในซิงเกิลนั้นๆ
โดยแต่ละซิงเกิลก็จะมีจำนวนสมาชิกเซมบัตสึต่างกันไป 7 คนบ้าง 16 คนบ้าง 21 คนบ้าง แล้วแต่เพลง
เซมบัตสึนี้ก็ได้มาจากหลายทาง
ทั้งจากการเลือกตั้ง หรือโปรดิวเซอร์ หรือกัปตันทีมเป็นคนเลือกเองตามความเหมาะสมของแต่ละซิงเกิล
ถือว่าเป็น “ประชาธิปไตย” เล็กๆ ในศิลปิน 48 กรุ๊ป โดยเฉพาะเจ้าตำรับในญี่ปุ่นคือ AKB48
ซึ่งก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจทีเดียว

เดิมในการคัดสรรเซมบัตสึของ AKB48 นั้นจะมาจากทีมบริหารมาประชุมร่วมกันในการคัดเลือก
โดยมี “อัตจัง” มาเอดะ อัตสึโกะ ที่ถูกขนานนามว่าผู้เป็นหน้าตาของ AKB48 ด้วยเธอยืนเป็นเซ็นเตอร์ 8 จาก 9 ซิงเกิล (คือตำแหน่งเด่นสุด เจิดจรัสสุดของวง ยืนอยู่ตรงกลางในการแสดงสด หรือในมิวสิกวิดีโอ ตำแหน่งนี้จะเลือกกันเป็นเพลงๆ ไป อาจจะเป็นคนที่ได้อันดับสูงสุดในการเลือกตั้งของซิงเกิลนั้นๆ หรือแล้วแต่ความเหมาะสมกับเพลง) ผูกขาดในการคัดเลือกทำให้เริ่มมีเสียงไม่พอใจจากแฟนๆ ว่าทำไมถึงไม่เปิดทางให้คนอื่นบ้างทำให้ อากิโมโตะ ยาสุชิ ผู้ก่อตั้ง 48 Group มองเห็นโอกาสบางอย่าง
โดยเปิดกว้างว่า “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เปิดให้แฟนๆ ได้เป็นคนเลือกเลยก็แล้วกัน จะได้รู้ว่าใครเป็นที่นิยมสูงสุด”จึงนำมาสู่การคัดเลือกเซมบัตสึอย่างเปิดกว้าง โดยในครั้งแรกเลือกมาได้ 21 คน
และกลายเป็นเสน่ห์ของ 48 Group มาจนถึงปัจจุบัน
มีความยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งที่ 4 ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านระบบออนไลน์ด้วยพร้อมทั้งนำการตลาดมาพ่วงเซมบัตสึอย่างเต็มที่

โดยในแต่ละปี AKB48 จะออกอัลบั้มซิงเกิล 4 ชุด ซึ่ง 1 ในอัลบั้มนั้นจะมาพร้อมกับบัตรโหวตเลือกตั้งเซมบัตสึ ซึ่งในซีดี 1 แผ่นจะมีบัตร 1 ใบทำให้คนที่ต้องการจะผลักดันคนที่ตนเองเชียร์ ชนะ ต้องทุ่มงบฯ ในการกว้านซื้อซีดีเพื่อผลักดันให้ติดเซมบัตสึ ทำให้อัลบั้ม AKB48 ขายดีอย่างถล่มทลาย
บางอัลบั้มขายพร้อมบัตรโหวต มียอดจำหน่ายรวมเกือบถึง 2 ล้านแผ่นถือเป็นการพ่วงประชาธิปไตยกับการตลาดอย่างเนียนๆ

สําหรับในไทยยังไม่ได้มีการนำวิธีเซมบัตสึมาใช้กับ BNK48 โดยตรง
แต่ 48 กรุ๊ป ก็ได้วางโรดแม็ปให้กับศิลปินหญิงไทยแล้วนั่นคือ เปิดให้สมาชิก BNK48 ลงสมัครรับเลือกตั้งเซมบัตสึ ครั้งที่ 8 กับวง AKB48 ในญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นครั้งแรกจากการเลือกตั้งเซมบัตสึ ในซิงเกิลที่ 53 ของ AKB48 ที่ให้วงน้องในประเทศต่างๆ ลงสมัครได้ โดยตอนนี้ มี BNK48 ของไทยยื่นสมัครไปแล้ว 10 คน
ซึ่งคาดว่าแฟนคลับหรือโอตะไทยจะตามไปโหวตให้ติดกลุ่มนำให้ได้
ทั้งนี้ ได้ปิดรับสมัครไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561และจะมีการเลือกตั้งเซมบัตสึอย่างแน่นอน ในวันที่ 29 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2561 นี้

เฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อ Kate BNK48 – Thailand Fanclub ได้แชร์โพสต์ถึงเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
หลังจากมีประกาศรายชื่อสมาชิก BNK48 ที่จะได้เข้าร่วมงานเลือกตั้ง พี่ๆ ที่พึ่งตามวงอาจจะมีข้อสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ น้องจะมาอธิบายให้ฟังตามนี้จ้า

“งานเลือกตั้งเซมบัตสึ คือกิจกรรมใหญ่ที่สุดประจำปีของ 48 Group ที่จัดขึ้นให้แฟนคลับสามารถโหวต หรือเลือกสมาชิกไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบเป็นเซมบัตสึได้
ซึ่งในช่วงเปิดรับสมัคร ไอดอลแต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะลงเลือกตั้งเพื่อหาเสียงได้ โดยในวัน ‘เลือกตั้ง’ ก็จะประกาศผลของสมาชิกที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด สมาชิกที่ได้รับคะแนนความนิยมสูงสุด 80 คน (หรือ 100 คนในปีนี้) โดยในปีก่อนๆ 80 อันดับแรกนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้แก่ เซมบัตสึ (อันดับ 1-16), อันเดอร์เกิร์ล (อันดับ17-32), Next Girls (อันดับ 33-48), Future Girls (อันดับ 49-64) และ Upcoming Girls (อันดับ 65-80) โดยในแต่ละกลุ่มก็จะได้ออกเพลงและมี MV ในซิงเกิลถัดไป
โดยสมาชิกที่อันดับสูงสุดในกลุ่มนั้นๆ จะได้เป็นเซ็นเตอร์ (นักร้องนำ) ประจำเพลงอีกด้วย

ส่วนปีนี้อันดับที่ 80-100 ก็จะมีแบ่งกลุ่มและได้เพลงด้วยเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก
โดยการโหวตนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน วิธีหลักคือการซื้อแผ่น Single ของ AKB48 ทั้ง 3 version (Regular / Limited / Theater) ซึ่งจะมีแถมโค้ดโหวตในกล่อง (เหมือนที่บ้านเราตอนนี้แถมบัตรจับมือนั่นเอง)
นอกจากนั้น สำหรับคนที่เสียค่าบริการสมัครสมาชิก ทั้ง Mobile member หรือทั้ง Live On Demand ของแต่ละวง (บ้านเรายังไม่มีน้า) ก็จะได้สิทธิ์ 1 โหวต ต่อ 1 สมาชิก และยังมีอีกหลายช่องทางที่ต้องรอประกาศที่แน่นอนในแต่ละปี
ซึ่งสำหรับในปีนี้ช่องทางการโหวต ขอให้ติดตามผ่านทาง https://www.akb48.co.jp/sousenkyo53rd/ นั่นเอง

ในปัจจุบันการเลือกตั้งของ BNK48 ยังไม่เกิดขึ้น และโดยทั่วไปงานเลือกตั้งของ AKB48 นั้นจำกัดสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกวงในเครือ 48 group ที่อยู่ภายในญี่ปุ่นเท่านั้น
แต่ในปีนี้ 2018 ได้มีการจัด World Sembatsu เป็นครั้งแรกที่อนุญาตให้สมาชิกวงน้อง 48 Group ทุกประเทศสามารถเข้าร่วมเลือกตั้งได้ด้วยจึงเป็นปีแรกที่ BNK48 สามารถส่งสมาชิกเข้าร่วมเลือกตั้งได้นั่นเอง


หากทีมงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำการบ้านดีๆให้ข้อมูลแก่นายกฯ ด้วยการตั้งคำถาม BNK48 ว่า คนไหนบ้างที่ไปสมัครเลือกตั้งเซมบัตสึ ซึ่งที่เข้าพบก็มีอย่างน้อย 3 คนแล้วมีคำชมเชยให้หน่อย ในฐานะที่เป็นศิลปิน ซึ่งรักในประชาธิปไตยและจะเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ “นิยม” ในการเลือกตั้ง ซึ่งหากไม่อยากพูดคำว่า เพื่อ “อนาคตใหม่” ก็อาจจะเลี่ยงไปใช้คำพูดอื่นๆ ที่มีให้เลือกใช้มากมายจะโยงไปที่ไทยนิยมเลือกตั้งก็ไม่น่าเกลียดแต่สิ่งเหล่านี้ ก็ไม่เกิดขึ้น

เราจึงเห็นแค่นายกฯ เต้นโอนิกิริ คุกกี้เสี่ยงทาย

พร้อมๆ กับที่นอกทำเนียบนั้น มีเสียงนินทากันขรมว่า เชื้อไม่อยากมีเลือกตั้ง ไม่เคยตาย
หรือถ้าต้องมีอย่างขัดไม่ได้ ก็มีการใช้ทำเนียบเป็นศูนย์ปฏิบัติการตามวิธีการเก่าๆคือ ทั้งดูด ทั้งตกเขียว ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นแล้วอย่างนี้ เราจะมีอนาคตใหม่กันได้อย่างไร?