ว่าด้วย สัมโภคกาย : เสถียร โพธินันทะ

จากหนังสือ “ปรัชญามหายาน” ของ เสถียร โพธินันทะ มหายานชั้นแรกดูเหมือนมีทัศนะตรงกับเถรวาทที่ว่า พระพุทธเจ้าทรงมีพระกายเพียง 2

คือ 1 ธรรมกาย 1 คือ นิรมาณกาย

ธรรมกายนั้นมีพระพุทธวจนะที่ตรัสโดยตรงในบาลีอัคคัญญสูตรแห่งทีฆนิกาย ส่วนนิรมาณกายนั้นก็ได้แก่พระกายของพระศาสดาที่ประกอบด้วยขันธ์ 5

ในคัมภีร์ฝ่ายมาธยมิกชั้นแรกก็ยังไม่พบกายที่ 3

ธรรมกายตามนัยแห่งเถรวาทหมายถึงพระคุณทั้งหลายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันสรุปว่า ได้แก่ 1 พระมหาปัญญาคุณ 1 พระมหาวิสุทธิคุณ และ 1 พระมหากรุณาคุณ หรือได้แก่คุณชาติแห่งความตรัสรู้ของพระพุทธองค์นั่นเอง

มหายานได้สร้าง “ลัทธิตรีกาย” ขึ้นด้วยวิธีเพิ่มกายอีกกาย 1 เข้าไป คือ “สัมโภคกาย” ซึ่งเป็นกายของพระพุทธองค์

สำแดงปรากฏให้เห็นเฉพาะหมู่พระโพธิสัตว์ มหาสัตว์

เป็นทิพยภาวะมีรัศมีรุ่งเรืองแผ่ซ่านทั่วไป เพราะฉะนั้น แม้จนกระทั่งบัดนี้พระโพธิสัตว์ก็ยังอาจจะเห็นพระศากยมุนีพุทธเจ้าได้ในรูปสัมโภคกาย พระพุทธองค์ยังทรงอาจสดับคำสวดมนต์ของเราแม้พระองค์จะดับขันธปรินิพพานไปแล้วก็ดี

ทั้งนี้ก็ด้วยการดับขันธปรินิพพานนั้นเป็นแต่เพียงการสำแดงให้เห็นปรากฏในรูปนิรมาณกายเท่านั้น ส่วนธรรมกายนั้นเล่าก็เป็นสภาวะ อมตะ ไม่มีเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด แผ่คลุมอยู่ทั่วไป

มหายานมีมติว่า พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์มีจำนวนมากมายดุจทรายในคงคานที และในจักรวาลอันเวิ้งว้างนี้ก็มีโลกธาตุที่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ แสดงพระสัทธรรมเทศนาอยู่ทั่วไปนับประมาณมิได้ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

เช่นปัจจุบันโลกธาตุของเราว่างจากพระพุทธเจ้ามา 2,000 กว่าปีแล้ว

แต่ในขณะนี้ ณ โลกธาตุอื่นก็มีพระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ทรงดำรงพระชนม์อยู่ สั่งสอนสัตว์โลกธาตุที่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัตินั้นบางทีเรียกว่า “พุทธเกษตร”

บางพุทธเกษตร บริสุทธิ์ สมบูรณ์ ด้วยทิพยภาวะน่ารื่นรมย์ สำเร็จแล้วด้วยอำนาจปณิธานของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็มี สำเร็จด้วยกรรมนิยมของสัตว์ก็มี เป็นสถานที่สรรพสัตว์ในโลกธาตุอื่นๆ ควรมุ่งไปเกิด

ที่สำคัญและมีชื่อโด่งดังคือ “สุขาวดี” พุทธเกษตรของพระอมิตาภะ อยู่ทางทิศตะวันตกแห่งหนึ่ง พุทธเกษตรของพระพุทธไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาราชา ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก เป็นพุทธเกษตรซึ่งมีรัศมีไพโรจน์แล้วด้วยมณีไพฑูรย์ พระพุทธเกษตรของพระพุทธอักโษภยะแห่งหนึ่ง

แลมณฑลเกษตรของพระเมตไตรยโพธิสัตว์ในดุสิตสวรรค์อีกแห่งหนึ่ง

พุทธเกษตรทั้ง 4 แห่งนี้ ปรากฏว่าสุขาวดีพุทธเกษตรของพระอมิตาภะเป็นที่นิยมของพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานมากกว่า ถึงกับสามารถตั้งเป็นนิกายโดยเอกเทศต่างหาก

ปรากฏตามประวัติศาสตร์ของมหายานว่า สาวกแห่งนิกายสุขาวดีมีปริมาณเหนือสาวกนิกายอื่นอย่างเปรียบกันไม่ได้เลยทีเดียว

การที่มหายานสร้างพุทธเกษตรอันมีลักษณะอุดมด้วยความสมบูรณ์พูนสุขเป็นทิพยภาวะ ก็เพื่อสนองความต้องการของมหาชนที่ยังอยากมีชีวิตอยู่เสวยสุขารมณ์ ยังไม่อยากบรรลุพระนิพพานเลยทีเดียวนั่นเอง

ทั้งนี้ เพราะตระหนักว่าจะหาบุคคลที่ปรารถนาพระนิพพานนั้นน้อยนักหนา ด้วยส่วนมากเห็นกันว่าเป็นการยากลำบากแสนเข็ญที่จะให้บรรลุพระนิพพาน มหายานก็เลยปลอบใจว่าอย่ากลัวเลย มีพุทธเกษตรอันสุขสบายอยู่มาก เมื่อไม่อยากไปนิพพานก็จงไปเกิดในพุทธเกษตรเหล่านั้นเถอะ และแล้วก็จะบรรลุพระนิพพานได้โดยสะดวก

ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของมหาชนอย่างมาก

และด้วยท่วงทำนองเปรียบเทียบ เสถียร โพธินันทะ ยกทัศนะของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ก็ยอมรับว่ามีโลกธาตุต่างๆ

นอกจากโลกธาตุของเราจริง

และมีพระพุทธเจ้านับจำนวนมากที่ได้ตรัสรู้และนิพพานไปแล้ว และจักตรัสรู้ต่อไปในอนาคต แต่หาได้สอนถึงการตั้งปณิธานไปเกิดในพุทธเกษตร หรือพรรณนาความสุขต่างๆ อย่างละเอียดพิสดารเป็นทิพยภาวะในโลกธาตุอื่นเช่นมหายานไม่

สัมโภคกายจึงเพิ่มเข้ามาเช่นเดียวกับการสถาปนา “พุทธเกษตร” ขึ้น