“รัก” ใต้ร่มเงาความป่วยไข้

"เงาของเมฆ" เขียนโดย มหาสมุทร เลิศฯ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ 2561 โดยสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม

เรื่องรักบางเรื่องเราก็ไม่สมควรได้รับรู้

ความรักเป็นเรื่องเร้นลับอย่างยิ่ง ส่วนตัวอย่างยิ่ง

และความรักอย่างเดียวก็ไม่มากพอจะประคองกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงเลือกหนทางนี้

เมื่อไม่รู้จึงได้แต่คาดเดาถึงเหตุผล ประกอบไปกับบางถ้อยคำที่เธอเผลอหลุดหล่นจากปากในบางเวลาสาหัสของชีวิต

เธอเข้าใจชีวิตจริง

ความรักควรจะทำให้คนเราดีขึ้น สบายขึ้น เป็นฐานที่มั่นคงมากพอจะฝากลมหายใจ

เพียงความรักเลื่อนลอยที่เต็มไปด้วยหนี้สิน การนั่งคิดว่าผักหญ้าริมรั้วตรงไหนพอจะเก็บกินได้บ้างเป็นเรื่องเต็มทน

ความรักไม่อาจสู้ความจริง

รักน้อยลง แต่มากขึ้นด้วยความมั่นคงสุขสบาย

เธอเลือกหนทางนั้น

เลือกทั้งที่รู้ว่าวันหนึ่ง, อดีตจะตามมาจับเธอเป็นตัวประกัน

 

“ที่ผมรู้คือการเขียนมีไว้เพื่อเยียวยาความไม่รู้เหล่านี้ สำหรับผม การเขียนคือการฆ่าตัวตายโดยไม่ต้องตายลงไปจริงๆ ทุกคืน ทุกความทุกข์เศร้าของเราถูกกักเก็บในบ่อจนกลายเป็นตัวหนังสือไร้ความหมาย ผมเขียนถึงความไม่รู้ เดินไปบนเส้นขอบของความรู้และความไม่รู้เกี่ยวกับความตายของตัวละครและของตัวเอง”*

ฉันได้อ่าน “เงาของเมฆ” ในวัยที่ได้เรียนรู้ความลับของชีวิตคนอื่น และมีความลับในเรื่องของตัวเองมากขึ้น แก่ชราพอจะเข้าใจเหตุลับต่างๆ แต่อ่อนเยาว์เกินกว่าจะสิ้นความรู้สึกหรือจัดการรับมือกับมันได้อย่างปลอดภัย

เรื่องรักของพ่อแม่เป็นเรื่องยากจะจินตนาการพอๆ กับการนั่งคิดถึงกระบวนการเกิดของตัวเราเอง ธรรมชาติมีวิธีให้ คือคนที่เราสวัสดีตอนเช้า คนที่เป็นเจ้าชีวิตเรา คนที่ดุ คนที่ดี คนที่ไม่สนใจ คนที่เมินเฉย และคนที่ควรจะเข้มแข็งกว่าเรา กอดก่ายประสานร่างกายสู่กัน ก่อกำเนิดออกมาเป็นเรา

มันอาจเป็นเพียงแค่กระบวนการที่ผสมไปด้วยความรู้สึกส่วนตัวหลากหลายอย่าง

และฉันไม่มีวันรู้ว่าความรักตักตวงพื้นที่ความรู้สึกระหว่างกิจนั้นไปได้ซักเท่าไรกัน

และฉันก็ต้องมารับรู้ว่าคนทุกคนต่างมีความหลัง

โลกไม่ได้เริ่มขึ้นเมื่อฉันก่อกำเนิด

หากย้อนไปไกลกว่านั้น

มีตัวละครมากมายกว่านั้น

ครอบครัวไม่ได้ประกอบด้วยคนสามคนเพียงพ่อ แม่ลูก

กรณีพ่อ, ฉันแปลกใจแต่ไม่ค้างคา คำอธิบายง่ายๆ ของพ่อเรื่องคนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ดูเป็นเหตุเป็นผลดี อาจเพราะฉันรู้สึกว่าเรื่องราวมันผ่านมาแล้ว มีจุดเริ่มต้นและจุดจบชัดเจนพอจะเข้าใจ

ซึ่งนั่นมันต่างออกไปในกรณีของแม่

 

พื้นที่ใต้เงาของเมฆไม่ร่มเย็นพอจะอยู่ได้ยาว

คำสารภาพรักที่ทั้งมาก่อนเวลาและช้าเกินไป

พริบตาผ่านไป เธอก็ไม่ใช่สาวน้อยคนเดิมคนนั้น

แต่ความรักที่ระอุคุกรุ่น ความรุ่มร้อนที่เรื้อรังไม่ได้รับการเยียวยา

แม้วันผ่าน

เมื่อกลับมาสบตา

พลันเธอกลายร่างกลับไปเป็นสาวน้อยช่างฝันคนเดิม

ควันจากกองไฟไม่มากนัก เมื่อเชื้อของมันเป็นหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม

-เผาพร้อมกันเยอะๆ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนรู้-

เถ้าถ่านของเลือดและชีวิตและพระเจ้าอยู่ที่ไหนเผาไหม้ปะปนกัน

-พระเจ้าอยู่ที่ไหน- คำถามนี้ถูกจารึกลงในทุกช่วงตอนของประวัติศาสตร์และชีวิต มีคำตอบเป็นร้อยเป็นพันให้กับคำถามนี้

แต่ฉันไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วพระเจ้าของแม่อยู่ที่ไหน

หรือจะเคยมีพระเจ้าแห่งความสงบสุขเกิดขึ้นในใจของเธอบ้างหรือเปล่า

เผาหนังสือของวัยหนุ่มสาวตามที่โดนสั่ง

ความกล้าหาญลดเหลือเพียงคนที่เดินเคียงข้าง

จากสถานศึกษาหน้ารามกลับปากน้ำ

ความอันตรายไม่กล้ำกรายคู่รักหนุ่มสาว

 

ฉันหยุดการเติบโตนิรันดร์

เพื่อจะใช้เวลาจ้องมองอีกครั้ง

ร่วงหล่นอีกครั้ง

ในโลกที่ผ่านหน้าฉันไปแล้ว

พอเธอเติบโตขึ้นเราอาจกลับมาพบกัน

เพื่อที่ฉันจะตกหลุมรัก

ความไม่อาจจดจำของเธอ

ว่าเราเคยงดงามเพียงไรในวัยวันหนึ่ง*

ช่างมันเถิด, ฉันคิด

เราต่างก็มีความลับในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น

ปล่อยให้เรื่องรักที่เคยถูกปิดกั้น ได้เติบโตภายใต้เงาของความป่วยด้วยไข้ความจำต่อไป

เพื่ออย่างน้อยให้ได้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ

ในวันที่เราทุกคนล้วนมุ่งหน้าไปสู่ความตาย

———————————————————————————————————
*ข้อความจากในหนังสือ