จับชีพจร “บิ๊กตู่” ในห้วงสงกรานต์ แต่งเพลง No.6 – บทโหดย้ายฟ้าผ่า “ขรก.” ประโยค “ป๋าเปรม” เพื่อนกันตลอดไป

ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 เมษายน

บรรยากาศทำเนียบรัฐบาลเป็นไปอย่างคึกคัก

เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดห้องโถงตึกสันติไมตรี ให้ ครม. นายทหารระดับสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงสื่อมวลชนประจำทำเนียบ ได้รดน้ำขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ 2561

โดยช่วงเช้ามีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 61 รูป ที่บริเวณสนามหญ้าข้างตึกไทยคู่ฟ้า

สงกรานต์ปีนี้นับเป็นปีที่ 4 แล้วที่ “บิ๊กตู่” เปิดทำเนียบให้ทุกคนได้มีโอกาสรดน้ำขอพรอย่างใกล้ชิด

เป็นปีที่ 4 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เช่นเคย แต่สิ่งที่ต่างจากปีที่ผ่านมา คือบรรยากาศที่อิงกับกระแสละครดัง “บุพเพสันนิวาส” บรรดาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงสื่อมวลชนต่างแต่งกายย้อนยุคมาเข้าคิวรดน้ำขอพร “บิ๊กตู่” อย่างหน้าชื่นตาบาน

แม้บรรยากาศจะคึกคัก แต่ขาดคนสำคัญอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นเรื่องปกติที่สงกรานต์เช่นนี้ “พี่ใหญ่” บูรพาพยัคฆ์ ต้องปลีกตัวไปรักษาร่างกาย เส้นเลือดหัวใจ ต้องไปบายพาส หลังจากเจอกระแสโจมตีอย่างหนักปมนาฬิกาหรู ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว

“บิ๊กตู่” แต่งกายด้วยผ้าฝ้ายสีฟ้า ควงอาจารย์น้อง “นางนราพร จันทร์โอชา” มาร่วมพิธี โดยให้พรสงกรานต์แก่ ครม. ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทำเนียบว่า “ในโอกาสขึ้นปีใหม่ไทยนี้ สิ่งที่พวกเราคาดหวังคือทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น เราต้องทำงานให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ทำกันเอง เราจะรอให้ได้รับการช่วยเหลือหรือให้ใครมาทำ คงเป็นไปไม่ได้ เราเป็น ครม. และข้าราชการ คงไม่ได้ทำงานเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังต้องทำเพื่อประชาชน เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นั่นเป็นเวลาเดียวกับที่มี “เซอร์ไพรส์” ด้วยการเปิดเพลงที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่งขึ้นใหม่ “สู้เพื่อแผ่นดิน” เป็นเพลงในลำดับที่ 6 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อจากเพลง “ใจเพชร” ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้

สำหรับเพลง “สู้เพื่อแผ่นดิน” บิ๊กตู่ตั้งใจแต่งให้ ครม. โดยเฉพาะ เพื่อขอบคุณที่ทุ่มเทแรงกายและแรงใจทำงานร่วมกัน แม้วันนี้จะมีปัญหาและอุปสรรครอบด้าน รวมถึงยังมีคำติฉินนินทาหรือวิพากษ์วิจารณ์สารพัด ก็พร้อมจะยืนหยัดทำหน้าที่ต่อไป เมื่อมีหัวใจที่ซื่อตรง ก็จะผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านั้นไปได้

เพลงนี้ได้ เที้ยง “วิเชียร ตันติพิมลพันธ์” นักร้องนักแต่งเพลงมือดี เจ้าของผลงานเพลง “คนเดินดิน” เพลงประกอบละครซิตคอม “เป็นต่อ” มาเรียบเรียงคำร้อง-ทำนอง หลังจากที่ได้ทำหน้าที่เรียบเรียงทำนองเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” และอีกหลายเพลงของบิ๊กตู่มาแล้ว และเป็นคนเดียวกับที่แต่งเพลงประกอบละคร “บุพเพสันนิวาส”

เพลงใหม่ที่ “บิ๊กตู่” บรรจงแต่งขึ้น มีเนื้อร้องดังนี้

ฉันตั้งใจสู้เพื่อแผ่นดิน

แม้มีใครติฉินเท่าไหร่

ทุกวันเหนื่อยกาย อดทนต้องเก็บเอาไว้

เพราะเสียงหัวใจ บอกให้ทำเพื่อแผ่นดิน

เธอจะมองอย่างไร แต่หัวใจฉันซื่อตรง

อย่างมั่นคงไม่มีวันทอดทิ้งเธอ

ฉันยังมีความหวังเชื่อว่าวันพรุ่งนี้อะไรต้องดีกว่าเดิม

สิ่งที่เรามุ่งหมายในวันที่เราริเริ่ม จับมือกันเดินข้ามมา

มองด้วยหัวใจด้วยความจริง จะเห็นว่ามันดีกว่า

ไม่ไกลหรอกหนา มองไปข้างหน้า ทุกวันต้องดีขึ้นไป

ขอฟ้าดินคุ้มแผ่นดินไทย

ขอให้คนร้ายพ่ายสักวัน

ให้คนหลงทางตื่นตนสว่างใจพลัน

หันมาร่วมกันร่วมทำเพื่อแผ่นดินเรา

ไม่ไกลหรอกหนา มองไปข้างหน้า ทุกวัน ต้องดีขึ้นไป

ในท่อนสุดท้าย “บิ๊กตู่” ใส่แนวคิดทางการเมืองเข้าไปในเนื้อเพลงเต็มๆ โดยพยายามจะบอกว่า อยากให้สิ่งที่ไม่ดีในสายตาของตัวเอง หรือภัยต่อ คสช. จงแพ้พ่ายไป

พร้อมกันนี้ ยังอยากให้ประชาชน คนที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างจาก คสช. เปลี่ยนแนวคิดใหม่เสีย แล้วหันมาคิดแนวคิดเดียวกัน เพื่อร่วมกันทำเพื่อชาติให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า

สงกรานต์ปีนี้ นายกฯ บอกไม่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ไหน เพราะจะอยู่บ้านคอยสั่งการ เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น นั่นคือตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ชอบเดินทางไปไหนมาไหนในช่วงวันหยุดราชการ โดยเฉพาะเทศกาลสำคัญ

ยิ่งมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยิ่งไม่อยากเดินทางไปไหนมาไหน เพราะไม่ต้องการให้ลูกน้องเดือดร้อน ต้องคอยตามกันจ้าละหวั่น

กระนั้นนักข่าวก็ไม่อาจปล่อยให้ “บิ๊กตู่” คลาดสายตาได้ เพราะนี่คือเวลาสำคัญเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” แผนการปูทางเพื่อคงอยู่ในอำนาจต่อไปจะเริ่มชัดขึ้นมาเรื่อยๆ วันนี้เห็นว่ามีความเคลื่อนไหวแบบไม่ปิดบังจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการฟอร์มทีมเพื่อนรัก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และศิษย์เอกอย่างนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ประสานกับนักการเมืองหลายขั้ว ตั้งพรรคสานต่อนโยบายประชารัฐ

แม้ “บิ๊กตู่” จะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่ “บิ๊กตู่” กลับไม่เคยปฏิเสธว่าจะไม่เล่นการเมืองในอนาคต

ผ่านบรรยากาศสงกรานต์ทำเนียบไปได้ไม่กี่ชั่วโมง แต่เมื่อเข้าสู่การประชุม ครม. บรรยากาศกลับต่างจากเดิมเหมือนหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะ “บิ๊กตู่” เล่นบทโหด มีมติให้นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และนายณรงค์ คงคำ รองปลัดกระทรวง พม. ออกจากราชการไว้ก่อน

แล้วย้ายนายปรเมธี วิมลศิริ จากเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ไปนั่งเป็นปลัด พม. จากนั้นย้ายนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ไปเป็นเลขาฯ สภาพัฒน์ เรียกว่าย้ายข้ามห้วยกันเลยทีเดียว จนนายสมชัยไม่พอใจ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง

เช้าวันต่อมา 11 เมษายน “บิ๊กตู่” นำ ครม. และ ผบ.เหล่าทัพ เข้ารดน้ำขอพรสงกรานต์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปีนี้ “บิ๊กตู่” กล่าวรายงาน “ป๋า” โดยไม่มีสคริปต์ จึงใช้เวลานานกว่าปกติ เพราะบิ๊กตู่พูดสารพัดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของป๋า เหตุบ้านการเมือง โครงการเกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ดินฟ้าอากาศ

เมื่อ “บิ๊กตู่” พูดนานกว่าครั้งก่อนๆ “ป๋าเปรม” จึงใช้เวลาให้พรกับทุกคนนานกว่าครั้งก่อนๆ เช่นกัน โดย “ป๋า” บอกว่าเชื่อมั่นบิ๊กตู่จะบริหารประเทศประสบความสำเร็จ

“ผมเป็นเพื่อนกับทุกคนเสมอ และจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ได้เป็นเพื่อนกับนายกฯ มา 10 กว่าปี ปีนี้เราเป็นเพื่อนกันอยู่ ยินดีและภูมิใจมากที่นายกฯ เข้ามาบริหารประเทศ โดยมีพวกเราเป็นผู้สนับสนุน ผมจะต้องพูดกับนายกฯ ตรงๆ คือขอให้ยึดมั่นในคำว่า เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ถ้านายกฯ ทำเรื่องนี้ได้ แผ่นดินจะมีความสงบสุข โดยมีนายกฯ เป็นผู้นำประเทศ และเราเป็นแรงสนับสนุน” พล.อ.เปรมกล่าว

เชื่อว่าพรจาก “ป๋า” คงทำให้ “บิ๊กตู่” มีกำลังใจ และเป็นพรอันเป็นมงคลยิ่งในสงกรานต์ปีนี้ สมกับคำว่า “เพื่อนกันตลอดไป”…