ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 เมษายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | สิ่งแวดล้อม |
ผู้เขียน | ทวีศักดิ์ บุตรตัน |
เผยแพร่ |
ไต้หวันลบภาพลักษณ์จาก “เกาะขยะ” มาเป็นเกาะที่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บขยะรีไซเคิลสูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกได้นั้นไม่ใช่เพราะนโยบายการรีไซเคิลทำอย่างต่อเนื่อง หรือการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นเท่านั้น หากหมายรวมถึงคุณภาพและความมีวินัยของคนไต้หวันด้วย
ในกรุงไทเป รัฐบาลกำหนดวันจัดเก็บขยะสัปดาห์ละ 5 วัน มีจุดรับขยะ 4,500 จุด ใช้ระบบไอที แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมแยกขยะแต่ละชนิดไว้ล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น ดูได้จากโทรศัพท์มือถือว่ารถขยะวิ่งมาถึงตรงไหนแล้ว
รถที่จะมารับขยะพ่นสีให้ง่ายต่อการจดจำ
ถ้าเป็นรถสีขาวใช้สำหรับเก็บขยะรีไซเคิล ภายในรถแบ่งเป็นช่องๆ ใส่ขยะแต่ละประเภท เช่น พลาสติก แก้ว อะลูมิเนียม เศษเหล็ก แบตเตอรี่ ฯลฯ
ถ้าเป็นสีเหลืองหมายถึงรถเก็บขยะสดที่เอาไปให้หมูกิน หรือทำปุ๋ยหมัก
ช่วงเย็นๆ รถขยะจะวิ่งไปตามถนน ระหว่างทางเปิดเพลงคลาสสิคไปด้วย เช่น เพลง Fur Elise (เพื่ออลิส) ของลุดวิก ฟาน บีโธเฟน หรือเพลง A Maiden”s Prayer (คำอธิษฐานของสาวน้อย) ของ เทคลา บาดาเซสกา บารานอสก้า คีตกวีชาวโปลิส
เสียงเพลงกระตุ้นให้ผู้คนพากันออกมายืนเข้าคิวเป็นแถวในมือถือถุงขยะที่แยกประเภทไว้แล้ว บางคนเอาถุงขยะใส่ในรถเข็น รถมอเตอร์ไซค์
กระบวนการนี้ช่วยลดปัญหาขยะร่วงหล่นหรือปนเปื้อนพื้นที่สาธารณะ
เมื่อรถจอดในจุดรับขยะ แต่ละคนแยกถุงใส่ตามช่องขยะของแต่ละชนิด พนักงานเก็บขยะช่วยแนะนำการทิ้งขยะให้ถูกช่อง
ขยะประเภทรีไซเคิลไม่ได้ รัฐบาลไต้หวันกำหนดให้ใส่ถุงสีน้ำเงินที่มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานเท่านั้น
ถุงประเภทนี้มีขายตามร้านค้าทั่วไป แบ่งเป็นขนาดต่างๆ กัน ขนาดเล็กมีราคาตั้งแต่ 1 บาท จนถึงขนาดใหญ่สุด 216 บาท
กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอของไต้หวัน เข้ามาช่วยทำให้ระบบการจัดเก็บขยะรีไซเคิลของไต้หวันได้รับความสำเร็จเป็นอย่างสูง
อย่างเช่น กลุ่มผู้หญิง หรือมูลนิธิฉือจี้เป็นองค์กรพุทธที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไต้หวันจัดเก็บขยะและให้ความรู้กระบวนการคัดแยกขยะ
อาสาสมัครของมูลนิธิฉือจี้มีอยู่ทั่วไต้หวัน แบ่งแยกหน้าที่อย่างเป็นระบบ
กลุ่มเป็นหญิงสูงอายุ ช่วยแยกขวดพลาสติกแต่ละประเภทออกมากองไว้เพื่อนำไปรีไซเคิล
อาสาสมัครที่เป็นชายสูงอายุ ทำหน้าที่แยกขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้
อาสาสมัครบางคนทำงานให้กับมูลนิธิฉือจี้มาเป็นเวลาหลายปี พวกเขาเชื่อว่า การอุทิศตัวเองเช่นนี้จะช่วยให้โลกน่าอยู่ อนาคตข้างหน้าลูกหลานก็มีความสุขด้วย
สถิติเมื่อปี 2558 อาสาสมัครฉือจี้ช่วยเก็บขยะรีไซเคิลได้มากถึง 100,000 ตันหรือราว 3% ของขยะทั้งหมดในไต้หวัน
สําหรับคนทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางนั้น รัฐบาลไต้หวันใช้กฎหมายเอาผิดกับคนเหล่านี้อย่างเข้มงวด
กล้องวงจรปิดที่ถ่ายบันทึกชาวไต้หวันละเมิดกฎหมายติดตั้งทั่วเมือง
ทำผิดครั้งแรกเจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือน
แต่ผิดซ้ำต้องเสียค่าปรับในราคาแพง
ในปี 2555 เจ้าหน้าที่ไต้หวันดำเนินคดีคนทิ้งขยะชุ่ยๆ ราว 5,600 ราย ค่าปรับสูงสุดอยู่ที่ 7,000 บาท
คนแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่จับกุมจะได้เงินส่วนแบ่งจากค่าปรับ
แม่ค้าในตลาดกลางคืนหรือไนต์มาร์เก็ตของไต้หวันเคยรับเงินส่วนแบ่งราว 7 แสนบาท จากการแจ้งเบาะแสคนทิ้งขยะชุ่ยๆ
คอนโดมิเนียมของเอกชนติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องเก็บขยะด้วย ลูกบ้านที่ละเมิดกติกา พนักงานคอนโดฯ ถ่ายรูปแล้วส่งไปเตือน
ถ้าทำผิดเป็นครั้งที่สอง เจ้าของคอนโดฯ จะประจานโดยนำรูปถ่ายพฤติกรรมคนคนนั้นไปโพสต์ในเฟซบุ๊กของกลุ่มธุรกิจคอนโดฯ ที่มีคนติดตามกว่า 5 ล้านคน แต่จะเบลอหน้าคนทำผิดเพื่อปกป้องสิทธิส่วนบุคคล
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การรีไซเคิลของไต้หวันประสบความสำเร็จ นั่นคือการอุดหนุนทางการเงินให้กับโรงงานอุตสาหกรรมรีไซเคิลและผู้ขายสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล เช่น โรงงานผลิตโซดาในขวด PET (polyethylene terephthalate)
เงินอุดหนุนเหล่านี้ได้มาจากการขายถุงสีน้ำเงินที่รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมการผลิตและรับรองมาตรฐานนั่นเอง
ถ้าเปรียบเทียบ “ก่อน” และ “หลัง” การใช้นโยบายรีไซเคิล จะภาพชัดขึ้น
เมื่อก่อนไต้หวันทิ้งขยะทุกชนิดเฉลี่ย 1.43 กิโลกรัมต่อคน หรือรวมแล้วประมาณ 3,300 ตันต่อวัน เก็บคัดแยกขยะไปรีไซเคิลได้เพียง 5%
ขยะ 95% เหลือค้างอยู่ในพื้นที่สาธารณะ
จึงไม่น่าแปลกในอดีตไต้หวันจึงถูกตั้งฉายาว่าเป็นเกาะแห่งขยะ
หลังการใช้นโยบายรีไซเคิลตั้งแต่ปี 2531 การทิ้งขยะเฉลี่ยลดลงเหลือวันละ 0.43 กิโลกรัมต่อคน
ปริมาณขยะทั่วประเทศหายไปถึง 2 ใน 3 แต่ประสิทธิภาพในการเก็บคัดขยะไปรีไซเคิลกลับทำได้มากถึง 55%
แม้ประสบความสำเร็จติดอันดับท็อปไฟว์ของโลก รัฐบาลไต้หวันยังไม่หยุดนิ่งในการดำเนินนโยบายรีไซเคิล
ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันประกาศแผนบังคับภัตตาคารใหญ่ๆ ที่มีสาขามากมายยกเลิกการแจกหลอดดูดเครื่องดื่มให้กับลูกค้าฟรีๆ ในปีหน้า
จากนั้นในปี 2563 จะห้ามแจกหลอดดูดในร้านอาหาร ภัตตาคารทุกแห่ง
เมื่อถึงปี 2568 ผู้บริโภคคนไหนอยากใช้หลอดดูด ขอถุงช้อปปิ้งหรือถ้วยใส่เครื่องดื่ม ร้านค้าจะคิดเงินเพิ่ม
สำหรับถุงช้อปปิ้งนั้น มีการกำหนดเป้าหมายในปี 2573 จะเลิกใช้ทั่วเกาะไต้หวัน