หนุ่มเมืองจันท์ : ทำบุญ

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

เจอ “ตูน บอดี้สแลม” เมื่อวันก่อน

เรื่องหนึ่งที่ต้องถามก็คือ หลังจากจบโครงการก้าวคนละก้าวแล้ว

“เป็นไงบ้าง”

ในส่วนของการซ่อมแซมร่างกาย ตอนนี้ “ตูน” ต้องไปกายภาพบำบัดแขนซ้ายที่เจ็บหนักตอนช่วงใกล้ถึงเป้าหมายที่แม่สาย เชียงราย

เป็นความบาดเจ็บจาก “ความรัก” ครับ

เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างทางอยากจับมือกับขวัญใจของเขา

ตามปกติทั่วไปเขาจะให้แตะมือกัน

เพื่อ “ตูน” จะได้วิ่งไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ

แต่บางคนอยากจับมือ

คนยืนอยู่กับที่คิดว่าเขาแค่ “จับมือ”

แต่คนที่วิ่ง กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

มีคนมาจับมือเขาไว้

ก็เหมือนกับการ “กระชาก” แขน

เจอการกระชากบ่อยๆ ทุกวัน

แขนซ้ายของ “ตูน” จึงบาดเจ็บ

ตอนนี้อยู่ในระว่างการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออยู่ครับ

เขายังใช้แขนซ้ายได้เหมือนปกติ

แต่ยัง “เจ็บ” อยู่

นั่นคือ เรื่อง “ร่างกาย”

ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น ต้องยอมรับว่าแรงกระเพื่อมหลังโครงการจบลงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

ทางโรงพยาบาลต่างๆ ติดต่อเข้ามาเยอะมาก

เพราะทุกแห่งล้วนขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์

เขาอยากให้ “ตูน” ช่วย

ซึ่ง “ตูน” ก็อยากช่วย แต่คงช่วยทั้งหมดไม่ไหว

โรงพยาบาลส่วนใหญ่ก็น่ารัก

เขาเริ่มทำโครงการขึ้นมาและหาวิธีการรณรงค์เพื่อระดมทุนด้วยตนเอง

ซึ่งตอนนี้การรณรงค์ก็ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะแรงกระเพื่อมจากโครงการก้าวคนละก้าวยังคงมีอยู่

ไม่ต้องอธิบายเรื่อง “ความจำเป็น” มาก

เพราะทุกคนรับรู้แล้ว

นี่คือ ผลพวงที่น่าชื่นชมของ “ก้าวคนละก้าว”

ที่เมืองจันท์ก็เช่นกัน

โรงพยาบาลพระปกเกล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด

ผมคุ้นเคยกับโรงพยาบาลนี้เป็นอย่างดีตั้งแต่เกิด

“จอย” น้องสาวของผมก็ทำงานที่นี่

“ป๋า” ตอนที่ป่วยหนักก็นอนพักรักษาตัวที่นี่

ลมหายใจสุดท้ายของท่านก็อยู่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าแห่งนี้

หลังโครงการก้าวคนละก้าว “จอย” ไลน์มาคุยกับผมเรื่องโครงการระดมทุนของศูนย์มะเร็ง

ตอนนี้ภาคตะวันออก มีโรงพยาบาลมะเร็งที่ชลบุรีแห่งเดียวที่มีศักยภาพในการฉายแสงรักษามะเร็ง

ทุกโรงพยาบาลในภาคตะวันออกต้องส่งผู้ป่วยมะเร็งไปฉายแสงที่นี่

คนป่วยต้องการรักษาอย่างเร่งด่วน

แต่เชื่อไหมครับว่าผู้ป่วยร้อยละ 50 ต้องรอคิวการรักษานานกว่า 6 สัปดาห์

ทั้งที่โรคนี้ เรื่อง “เวลา” สำคัญมาก

ยิ่งช้ายิ่งหนัก

โรงพยาบาลพระปกเกล้า จึงจัดตั้ง “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็งแบบครบวงจร” ขึ้นมาเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างน้อยคนแถบจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด สระแก้ว จะได้มาใช้บริการที่นี่

จาก 6 สัปดาห์ อาจเหลือแค่ 2 สัปดาห์

คนที่มาญาติเป็นโรคมะเร็งจะรู้ดีว่าทุกวินาทีที่รอการรักษา

คือ ลมหายใจของชีวิต

แต่เครื่องฉายแสง หรืออุปกรณ์รักษาโรคมะเร็งราคาแพงมากครับ

ต้องใช้งบประมาณถึง 399 ล้านบาท

ตอนที่ฟังเรื่องนี้ ผมนึกถึงโครงการไทยนิยมยั่งยืนขึ้นมาทันที

โครงการหาเสียงแบบโบราณนี้ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท

เงินจำนวนนี้ซื้อเครื่องฉายแสงและอุปกรณ์การรักษามะเร็งได้ตั้ง 5 ศูนย์

รักษาคนป่วยได้ไม่รู้เท่าไร

แต่ไม่เป็นไรครับ

เป็นคนไทยต้องอดทน

และต้องช่วยเหลือตัวเอง

555

“จอย” โทร.มาบอกว่าทางศูนย์มะเร็งฯ อยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้

ผมบอกว่าไม่มีปัญหา

และบางทีอาจจะช่วยเท่าที่ช่วยได้

ตอนแรกคิดว่าวิ่งจาก กทม. ไปเมืองจันท์

แต่ไม่ชอบเลียนแบบใคร

ถ้าผมวิ่ง ใครๆ ก็บอกว่าเลียนแบบ “ตูน”

นี่คือ เหตุผลที่ผมตัดสินใจไม่วิ่งไปเมืองจันท์

…จริ๊งงงง…

ตอนนี้ที่คิดอยู่ก็คือ อยากทำหนังสือเล่มพิเศษขึ้นมา

แบบ “ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่”

ขายทางเฟซบุ๊กของตัวเองน่าจะได้สัก 1,000-2,000 เล่ม

รายได้ทั้งหมดก็บริจาคเข้ากองทุน

หรืออาจจะเปิดประมูลของแบบตอนที่ช่วยโครงการก้าวคนละก้าวก็ได้

แฮ่ม…คนไหนที่เรายังไม่ได้รบกวนจะได้ไม่น้อยใจ

คิดมาพักนึงแล้ว ยังไม่ได้ลงมือเลย

แต่ปีนี้คงได้เห็นแน่นอน

ไหนๆ ก็เขียนถึงแล้ว ขออาศัยโอกาสนี้บอกบุญทุกท่านอย่างเป็นทางการนะครับ

ถ้าใครอยากทำบุญช่วยคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น

โอนเงินผ่านบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 985-2-19950-1 (ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561)

ชื่อบัญชี “มูลนิธิโรงพยาบาลพระปกเกล้า” (ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ศูนย์มะเร็ง) ครับ

โอนตอนนี้ค่าธรรมเนียมฟรี

และขอรับใบลดหย่อนภาษีได้

รายละเอียดติดต่อ 08-0994-2457

หรือ Line ID : ppkhosfound

จบการบอกบุญครั้งที่ 1 ครับ

เรื่องรูปแบบการหาทุนให้กับศูนย์มะเร็ง ผมคิดได้หลายอย่าง

แต่ก็วนอยู่ในแบบเดิมๆ

จนวันก่อนได้สัมภาษณ์ “โต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เรื่อง “ไทบ้านเดอะซีรีส์”

“โต้ง” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการให้ทุนน้องๆ ทำหนังเรื่องนี้

ตอนแรกคิดว่ามีรายได้จากหนังอย่างเดียว

แต่เพิ่งค้นพบขุมทรัพย์ใหม่หลังการทำหนัง คือ “เพลง”

รายได้จากมิวสิกวิดีโอใน “ยูทูบ” ของเขาสูงมาก

อย่างเพลง “ทดเวลาบาดเจ็บ” มียอดวิว 260 ล้านวิว

ได้เงินประมาณ 4 ล้านบาท

วันนี้ โรงพยาบาลศรีสะเกษกำลังระดมทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์

“โต้ง” และน้องๆ ก็คิดจะช่วยหาเงิน

ไอเดียของเขาฉีกแนวมากเลยครับ

เริ่มจากน้องๆ จะทำเพลงใหม่ขึ้นมาเพลงหนึ่ง

ทำมิวสิกวิดีโอลงยูทูบแบบเดิม

“โต้ง” บอกว่าใครมีเงินเยอะก็โอนเงินเข้าบัญชี

ใครเงินน้อยหน่อยอยากบริจาค 10 บาท 20 บาท ก็ส่ง SMS ได้

ส่วนใครไม่มีเงิน ก็ช่วยได้

ไม่ยากครับ

แค่กดดูมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ในยูทูบ

ดูบ่อยๆ กดซ้ำๆ ให้ยอดวิวเพิ่มเยอะๆ

ยิ่งดูเยอะ “ยูทูบ” ก็ยิ่งจ่ายมาก

รายได้ทั้งหมดที่ได้จากยูทูบจะบริจาคให้โรงพยาบาลศรีสะเกษครับ

…สุดยอด

ผมชอบไอเดียนี้มาก

ถ้าใช้ภาษาข่าวอาชญากรรม ก็คือ การปล้น “ยูทูบ” มาให้โรงพยาบาล

แต่ถ้าใช้ภาษานักบุญก็ต้องบอกว่านี่คือ โอกาสที่มอบให้ “ยูทูบ”

โอกาสที่แพลตฟอร์มระดับโลกจะได้ทำบุญกับคนศรีสะเกษ

เรื่องเดียวกัน เราจะมองอย่างไรก็ได้

“โลกที่เห็น เป็นอย่างที่คิด”

แฮ่ม…หนังสือเล่มใหม่ของผมครับ