ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 เมษายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | สำเริงคดี |
ผู้เขียน | ทรงวาด |
เผยแพร่ |
ประกาศของสำนักพระราชวังเดนมาร์กเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 แจ้งว่า ปริ๊นซ์เฮนริกพระสวามีในสมเด็จควีนมาร์เกรเธสิ้นพระชนม์ลงแล้วด้วยพระอาการสงบขณะสนิทนิทรา แวดล้อมด้วยพระนางเจ้าและพระโอรสทั้ง 2 องค์
สำหรับราชพิธีพระศพก็ได้มีขึ้นเมื่อปลายเดือนเดียวกัน
ปริ๊นซ์เฮนริกทรงประชวรด้วยโรคจิตเสื่อม (dementia) จนต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อปลายเดือนมกราคม แต่พระอาการทรุดลงเรื่อยๆ รวมทั้งมีอาการติดเชื้อที่พระปัปผาสะ
ที่สุดแพทย์ก็อนุญาตให้กลับไปใช้วาระสุดท้ายอยู่ร่วมกับครอบครัวที่พระราชวัง Fredensborg เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้ปริ๊นซ์เฟรเดอริก องค์รัชทายาทต้องรีบเสด็จกลับจากการไปร่วมงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลี
และควีนมาร์เกรเธทรงงดเสด็จออกงานทางการทุกงาน
ว่ากันว่าตลอดเวลาที่สมาชิกพระราชวงศ์ทุกพระองค์เศร้าระทม ปริ๊นเซสแมรี่ดูจะเป็นหลักให้พักอิงทางใจโดยเฉพาะสำหรับพระสวามีปริ๊นซ์เฟรเดอริกและสมเด็จควีน
นอกจากนั้น เธอยังคอยดูแลให้กำลังใจปริ๊นซ์เฮนริกอยู่ข้างเตียงเกือบตลอด ด้วยการกุมพระหัตถ์ไว้และพูดปลอบโยนอย่างนุ่มนวลเพื่อให้ทรงรับรู้ว่าพระองค์มิได้อยู่เพียงลำพัง หากแวดล้อมด้วยบุคคลที่รักและอาลัย
Gitte Redder นักเขียนเรื่องเกี่ยวกับพระราชวงศ์ชาวเดนมาร์กบอกนักข่าวต่างชาติว่า
“ทั้งสองพระองค์ทรงรักและนับถือกันมาก เฮนริกทรงช่วยเหลือแมรี่อย่างมากเมื่อเธอเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่น เช่นที่ทรงกล่าวสุนทรพจน์ในงานอภิเษกของพระโอรสองค์ใหญ่กับสาวออสซี่ผู้นี้ ดังข้อความบางตอนว่า…ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดาราจรัสแสงแห่งวารวันอันงดงามนี้ก็คือเธอ…แมรี่…เธอช่างเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความสง่างาม เธอเดินทางสู่หัวใจของเฟรเดอริกด้วยการเดินทางไปตามหัวใจของเธอเองเช่นเดียวกับด้วยจิตสำนึกของเธอ…ขอต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวและหัวใจของเรา ซึ่งเธอจะได้พบที่พักพิงอันอบอุ่นหากเธอต้องการ และเราเองก็มีความสุขที่ได้เห็นเธอแวดล้อมด้วยครอบครัวและมิตรสนิทจากแดนไกลมาให้กำลังใจในวันพิเศษซึ่งเธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเดนมาร์ก…”
นอกจากนี้แล้ว ปริ๊นซ์เฮนริกยังเป็น “ทูลหม่อมปู่” ผู้เต็มไปด้วยความสนุกสนานร่าเริงที่หลานๆ รักใคร่
เมื่อถึงวันงานพิธีพระศพซึ่งมีผู้ใกล้ชิดจริงๆ ที่เลือกเฟ้นแล้วเพียง 60 รายได้รับเชิญมาร่วมงาน
หลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาแล้ว ได้ดำเนินการตามคำสั่งเสียของพระองค์ นั่นคือ มิต้องฝังร่างเคียงข้างพระราชินีมาร์เกรเธ (เนื่องด้วยทรงน้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์)
เจ้าพนักงานจึงจัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพแล้วนำเถ้าอัฐิครึ่งหนึ่งไปลอยในทะเล
ส่วนอีกครึ่งนำไปฝังไว้ในสวน ณ พระราชวัง Fredensborg หรือบ้านของครอบครัวนั่นเอง