ทราย เจริญปุระ : ขณะที่ “เขียน” หลายปีก่อน เป็นวัน “แต่งงาน” ของเขา

*"ติดอยู่ระหว่างเดินทาง" เขียนโดย อุทิศ เหมะมูล พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม, 2561 โดยสำนักพิมพ์จุติ

“ไปโตเกียวอีกแล้วเหรอ?”

“ฮื่อ ก็นึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี”

ก็เป็นเสียอย่างนี้ ฉันรู้ว่าจะต้องออกไปข้างนอก ไปไหนสักที่ ที่ที่สบายพอสำหรับการนอนเฉยๆ ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ

ที่ที่มีชีวิตชีวาและมีสุ้มเสียงเฉพาะตัวพอจะเตือนฉันได้ ว่าฉันไม่ได้อยู่ที่เดิม

ที่ไหนก็ได้

ที่ไหนสักที่

แล้วทุกที, มันก็จะมาจบที่โตเกียว

 

คนเราจะนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดีในยุคนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้ ยุคที่ตั๋วเครื่องบินราคาถูกลง ยุคที่ข้อมูลปลายทางหาง่ายขึ้น

ยุคที่แทบจะไม่มีเขตคั่นใดๆ ระหว่างเรากับจุดหมายใด

ฉันไปโตเกียวเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็เลิกจะจำ แต่ถ้าถามว่าฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญชนิดหลับตาเดินก็ยังไม่พลาดได้หรือไม่

ก็ไม่ใช่

มันยังมีบางซอย บางร้าน บางพื้นที่ บางต้นไม้ และบางตึกที่ผุดขึ้นมาใหม่เสมอ

แต่นี่ก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ฉันไปมันซ้ำแล้วซ้ำอีก

แต่อาจจะเป็นเพราะบางแดดในวันเก่าๆ

ที่ยังไม่เคยย้อนกลับมาเพื่อสร้างความทรงจำ

ในห้องพักราคาแพงนั้น

ในอ่างอาบน้ำนั้น

ในแสงสลัวนั้น

มันยังไม่ถูกบันทึกซ้ำเสียที

กี่ครั้งที่เดินทางไป

โตเกียวของฉันก็ยังคงเป็นโตเกียวเดิม

โตเกียวกับหัวใจที่แหลกสลาย

 

ติดตรึงอยู่อย่างนั้น ระหว่างสิ่งที่ทำไปแล้ว กับหนทางอีกล้านอย่างที่เราไม่ได้เลือก

ฉันไม่ค่อยฝัน

หรือที่จริงแล้วควรจะบอกว่าฉันไม่ค่อยฝันถึงอะไรใหม่ๆ

ภาพเดิมฉายซ้ำ

รอยยิ้มเดิม

เลือดระยับประกายบนพื้นถนนในคืนอบอุ่น

ทะเลเดิม

เพลงท่อนเดิมเล่นซ้ำ

ความฝันคือการท่องแดนชำระบาปส่วนตัวของฉันเอง ภาพเหตุการณ์ถูกแขวนตอกตรึงบนผนัง ทางเดินทอดยาวสู่พื้นที่จัดแสดง ลึกและลึก แยกซ้ายเวียนขวาวกวนจนยากจะหาจุดเริ่มต้น ประดับด้วยดอกไม้และพุ่มหนาม เศษซากตกค้างแหลกสลายจากความทรงจำครั้งก่อนเก่า

ในความฝัน ฉันไปได้ทุกที่

และในความฝัน, ฉันไม่ได้ไปไหนเลย

ชีวิตที่ไม่มีเธอก็เป็นชีวิตที่ดี

แต่ถ้าไม่เคยมีเธอมาก่อนเลย

ชีวิตคงไร้ความหมาย

และวันเช่นนี้คงไม่เคยมาถึง

 

ขณะที่ฉันเขียนเรื่องนี้

เมื่อหลายปีที่แล้วเป็นวันแต่งงานของเขา

ในขณะที่ฉันเขียนเรื่องนี้

เมื่อหลายปีก่อนเราจากกัน

วันเวลาผ่านไปแต่ที่จริงไม่ได้ผ่านเลย

มันแค่วนซ้ำ

ทุกวันคือวันเดิม

วันที่ฉันคิดว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว

วันเวลาไม่เคยผ่านไปไหนเลย

ฉันถูกบังคับให้จับจ้องมองความผิดของตัวเองทุกคืน

และมันก็ยังคงไม่มีคำตอบ

ฉันยังคงมองหาข้อผิดพลาดของตัวเองอยู่เสมอ

ฉันพลาดอะไรไป

ฉันทำผิดตรงไหน

ทำไมวันนี้จึงเป็นแบบนี้

ความเป็นไปได้อื่นๆ ถูกลดให้เหลือเพียงหนทางนี้ได้อย่างไร

จนถึงวันนี้ฉันก็ยังไม่รู้

 

“ใช่ มันไม่โรแมนติก รักนิรันดร์แบบปักใจอยู่คนเดียว ผู้ชายหลายใจ รักได้ไม่บันยะบันยัง ไถ่ถอนตัวเองผ่านความทรงจำผ่านงานเขียน สร้างอนุสรณ์สถานขึ้นใหม่ในเรื่องเล่า…

…แต่ก็ทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิงที่รักเขา”*

ทำไมโตเกียวจึงเป็นโตเกียวของคนอื่น

ทำไมไม่มีโตเกียวของเรา

ฉันไม่มีวันเข้าใจ

พระผู้เป็นเจ้า, หากคุณจะมีจริงอยู่สักที่ ข้าฯ ขอสารภาพบาป มันกัดกินใจเกินกว่าจะเก็บไว้คนเดียว ข้าฯ อยู่ตรงนี้ อยู่ในปัจจุบันขณะกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เรื่องในหัวใจและความฝันยังเป็นของชายอื่นอยู่เสมอ หากปราศจากความทรงจำอันปวดร้าวจากชายเหล่านั้นแล้ว

ชีวิตของข้าฯ นั้นไร้ความหมาย