แม่หวาน ละมุนมัม : ความจำสีรุ้ง บ้านสวนธรรม (48)

วัตถุดิบหลากหลายในตลาด Queen Victoria ที่เมลเบิร์นช่างละลานตายิ่งนัก ล้วนแล้วแต่เชิญชวนให้จับจ่ายใช้สอยเพื่อนำไปปรุงให้เป็นอาหารเลิศรสในยามเย็น

ฉันเห็นผักน้ำ สวิสชาร์ดสีสวยๆ มะเขือเทศผลงามๆ ฟักทองลูกเล็กๆ อโวกาโดสุดโปรดของลูกสาวและเนื้อวากิวชิ้นงามๆ

วัตถุดิบทั้งหลายถูกฉันจับเรียงลงหม้อเพื่อต้มตุ๋นในทันใดเมื่อกลับเข้ามายังห้องพัก ก่อนนั่งดื่มไวน์ชิลๆ ปรุงอาหารต่างๆ ด้วยไฟอ่อนอย่างใจเย็น

ห้องครัวจากชั้น 18 สามารถมองเห็นวิว 180 องศาได้อย่างสวยงามและลงตัว โดยเฉพาะยามเย็นที่แสงสีส้มกำลังจะลับขอบฟ้า เมืองทั้งเมืองกำลังเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว ทำให้ฉันได้มองเห็นความไม่เที่ยงที่เป็นสัจธรรมของธรรมชาติในทุกวี่วัน กลิ่นหอมกรุ่นของวัตถุดิบที่มีเครื่องปรุงแค่เกลือกับพริกไทยเท่านั้นหอมอบอวลไปทั่วห้อง

พ่อครัวที่สอนความใจเย็นให้ฉันคงเป็นใครไม่ได้นอกจากซาโตชิลูกชายนักแสดงภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นที่ถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงม อบรมเลี้ยงดูอย่างหวงแหน แต่สุดท้ายพ่อแม่ก็ต้องส่งลูกมาอยู่ที่ฮาวายเพราะลูกเป็นโรคหืดหอบที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเมื่อเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย

เรื่องวิธีการปรุงอาหารเขาได้รับมรดกตกทอดมาจากแม่แทบทุกกระเบียดนิ้ว เขาละเอียดและพิถีพิถันกับทุกวัตถุดิบ เขาประณีตบรรจงตั้งแต่งานล้างวัตถุดิบ ทั้งยังมีหนังสือ สมุดโน้ตที่แม่เขาพยายามบรรจงจัดทำมาให้ลูกชายสุดที่รักโดยเฉพาะ ซาโตชิหนุ่มรูปงามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำอาหารญี่ปุ่นเก่งแบบหาตัวจับยากได้ขนาดนี้ เพราะแม้แต่ข้าวปั้น หรือซุปมิโซะง่ายๆ เขาก็ปรุงออกมาได้อร่อยน่าประทับใจ

และแน่นอน ฉันมีความสุขทุกครั้งกับทุกเมนูอาหารที่เขาทำเสิร์ฟทั้งในยามเช้าหรือยามค่ำคืน

 

–สุยดา ฉันชอบซาโตชินะ

แอนนาบอกกับฉันในวันหนึ่งที่เราพักเที่ยงและรับประทานข้าวด้วยกัน

–หลายคนในห้องก็เชียร์เธอนะ เคนเองก็เคยแซวเธอบ่อยๆ เขาล่ะว่ายังไงกับเธอ?

ก็ในเมื่อแอนนาสาวน้อยชาวสเปนที่พี่สาวมาตั้งรกรากอยู่ที่ฮาวายกล้าเปิดใจในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ฉันก็น่าจะถามถึงความเป็นไปได้ได้ด้วยเช่นกัน

–เขาเฉยๆ ไม่อะไรกับฉันเลย แต่เพื่อนๆ ในห้องก็เอาแต่แซวจนฉันเริ่มจริงใจแล้วนะ

แอนนาพูดอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะดูเธอจะชอบเขาจริงๆ ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะยังมีชาวไต้หวัน และชาวจีนอีกคนที่เดินตามตื๊อซาโตชิแบบไม่ห่วงหน้าตาหรือมารยาทที่ควรแต่อย่างใด

–สุยดา เธอพูดญี่ปุ่นได้ช่วยสอบถามให้ฉันหน่อยสิว่าเขาคิดอย่างไร?

จะช่วยอย่างไรดี เพราะฉันก็คุยกับคนญี่ปุ่นทุกคนในห้องนั่นแหละ ยกเว้น…ซาโตชิ เขาเหมือนดวงดาวที่เปล่งประกายอยู่บนฟากฟ้า รัศมีความเป็นสุภาพบุรุษ หรือมารยาทผู้ดีที่อยู่ในตัวเขาทั้งคำพูดคำจาหรือการปฏิบัติก็ดูกลมกลืนน่าคบหาอย่างที่คนในโรงเรียนต่างกรี๊ดกันนั่นละ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองที่มีพร้อมสรรพของเขาก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เขาไม่เคยอวดโอ้ เขาดูถ่อมตนและนอบน้อม แต่ใจเขาหรือใครจะทราบได้

ดังนั้น เรื่องที่แอนนาขอร้องจึงทำได้ยากนัก

 

–หัวข้อการเรียนในวันนี้ ครูอยากให้นักเรียนรู้จักกันมากขึ้น ดังนั้น ครูจึงอยากให้นักเรียนเสนอว่าอยากสัมภาษณ์หรืออยากรู้จักกับใครในห้องนี้ให้มากขึ้น

เคนพูดขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง การเรียนภาษาอังกฤษในมหา”ลัยฮาวายค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็นการเรียนที่สนุกสนาน ทั้งได้เที่ยว ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ตลอดเวลาจึงเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวันพอสมควร กิจกรรมในห้องจึงไม่เหมือนกับที่เราชาวเอเชียคุ้นเคย

–ใครอยากรู้จักใครเสนอชื่อกันมา

เคนพูดต่อพร้อมเอ่ยชื่อซาโตชิ

–สุยดา

หลายคนที่กำลังเชียร์ให้เลือกแอนนาหยุดกึก และทำหน้างุนงงรวมทั้งเคนที่ซึ่งถามไปใหม่ว่าเลือกที่อยากจะรู้จักใคร?

–สุยดา

ครั้งนี้ซาโตชิไม่ได้พูดเปล่า แต่หอบสมุดดินสอบนโต๊ะเดินตรงดิ่งมาหาฉันทันที โดยไม่แคร์สายตาครูและเพื่อนในห้อง

–ไปคุยกัน

เคนอนุญาตที่จะให้คุยทำความรู้จักกันได้ทั้งในและนอกห้อง แต่ต้องส่ง essay ในการคุยกับเพื่อนให้ทันก่อนเที่ยง ฉันปรารถนาที่จะนั่งในห้องมากกว่า แต่กลับโดนซาโตชิคว้ามือออกมานอกห้อง และเดินตรงไปยังห้องสมุดที่เต็มไปด้วยสีเขียวอร่ามตา ที่นี่มีหนังสือน่าอ่านมากมายวางเรียงกันอย่างสวยงาม

–เธอเลือกหนังสืออ่านได้ตามชอบใจนะ เดี๋ยวผมจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้

ฉันเดินดูหนังสือที่วางเรียงรายกันอย่างมีความสุขและตื่นตาตื่นใจ นิตยสารหลายเล่มถูกฉันหยิบยกขึ้นมาเปิดอ่านอย่างเพลิดเพลิน โอ้ นี่คือสวรรค์แท้ๆ ทำไมเราไม่รู้มาก่อนนะนี่

–ชอบใช่ไหมล่ะ?

เขาเดินเข้ามาถาม พร้อมยกเครื่องดื่มไปวางที่โต๊ะ ฉันหยิบหนังสือบางเล่มที่ดูค้างอยู่ติดมือมานั่งอยู่ตรงหน้าเขา เขาเลื่อนเครื่องดื่มมาตรงหน้าฉัน แล้วขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้จนแทบจะชิดฉันแล้วเอ่ยขึ้นว่า

–ผมถามเรื่องของคุณได้หรือยัง?

ระหว่างที่ฉันยังอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นกับเขาดี อย่างที่เคยบอกไปว่าถึงแม้เขาจะอยู่ฮาวายมาหลายปี แต่ภาษาอังกฤษเขาไม่ได้ดีตามเวลาที่เขาอยู่อาศัยแม้แต่น้อย

–ผมขอพูดภาษาญี่ปุ่นนะ ไว้ต่อหน้าครูหรือมีใครมาเช็กเราค่อยพูดภาษาอังกฤษกันนะ

ซาโตชิที่มีบุคลิกเงียบขรึมพูดน้อยในสายตาฉัน แต่ตอนนี้ทำไมถึงกลายเป็นคนช่างพูดไปได้

–สุยดา เธอชอบหนังสือ เธอชอบโกโก้ ใช่ไหม?

เขาหันหน้ามายิ้มกับฉัน ก็จริงนะฉันชอบ ใช่ แต่เขารู้ได้อย่างไรกัน?

–เย็นนี้ฉันกับเพื่อนๆ นัดกันไปกินข้าวที่ไชน่าทาวน์ ฉันอยากชวนเธอไปด้วยได้ไหม?

ฉันเอื้อมมือไปประคองแก้วโกโก้ร้อนขึ้นมาจิบ แล้วก็ได้รับรู้ถึงรสของนมและความกลมกล่อมที่ไม่ขมจนเกินไปของโกโก้ ฉันชอบโกโก้ร้อนเพราะมันทำให้ฉันผ่อนคลายและอารมณ์ดี

–ผมใส่น้ำตาลอ้อยไปหนึ่งช้อนเพราะคุณไม่ชอบหวาน

โอ้ ช่างใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ

 

–ขอโทษนะคะ คุณรู้เรื่องราวของฉันได้อย่างไร?

–วันเปิดเรียนผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งดูมีความมั่นใจมาก ชอบยืนมองรอบข้างเงียบๆ นิ่งๆ คนเดียว เธอใส่ขาสั้นหลวมๆ สีขาว รองเท้าผ้าใบสีขาว เสื้อยืดสีขาวที่มีตราของมหา”ลัยฮาวายตรงอกขวา เธอดูชิลมาก ผมตรงยาวประบ่า เธอปล่อยยาวปลิวไปตามสายลมอย่างเป็นธรรมชาติ ผมมองเธอเพลินเลย

หญิงคนนั้นที่เขาบรรยายถึง ทำไมรู้สึกคุ้นๆ จัง

–เมื่อผมได้เรียนห้องเดียวกับเขาก็แอบตื่นเต้นมาก กลัวเขาจะย้ายห้อง แต่เมื่อทุกอย่างลงตัวผมก็พยายามหาข้อมูลมาบ้างนะจากแอนนาเพื่อนสนิทและเพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่น

มิน่าแอนนาจึงคิดว่าเขาอาจจะชอบเธอ และเพื่อนๆ ในห้องก็ช่วยกันเชียร์ อืม…เริ่มนึกออกบ้างแล้วละ ว่าแล้วเชียวในวันที่เรายืนมองเขาเราก็รู้สึกว่าเขาไม่นิ่ง ยืนเก้ๆ กังๆ หันรีหันขวางอยู่บ้างเช่นกัน

–ผมไม่ได้ชอบแอนนา ผมชอบคุณ

ว้าว ทุกอย่างดำเนินกันง่ายๆ พูดกันง่ายๆ เช่นนี้หรือ

–ชอบคือชอบในความเป็นเพื่อนนะครับ suki นะครับ ไม่ใช่ aishiteru

เขาหัวเราะเบาๆ ซาโตชิโชคดีที่ฉันฟังภาษาญี่ปุ่นเข้าใจดี เพราะถ้าเราต้องพูดกันด้วยภาษาอังกฤษคงมีการเข้าใจผิดและพังกันไปนานแล้วแน่ๆ

ซุปสีเหลืองอ่อนที่ฉันเคี่ยวจากฟักทองรวมกับมะเขือเทศ อโวกาโดและไวน์ขาวอีกนิดนึงกำลังได้ที่ ฉันไม่ได้กรองเศษเนื้อฟักทองหรือมะเขือเทศออก แค่ตักเอาแค่น้ำใสๆ มาใส่ในถ้วย ส่วนเศษที่เหลือก็ตักราดลงบนเนื้อวากิวที่ผ่านการย่างมาแล้วเบาๆ เอาไว้ให้อายากะ ไวน์เพียงเล็กน้อยกับขนมปังและซาลามี่ ผลไม้ รวมทั้งซุปทำให้อาหารมื้อเย็นของฉันผ่านไปด้วยความเบิกบานและความสุข

ฉันเดินไปดูดวงจันทร์ตรงหน้าที่เด่นเป็นสง่าอยู่บนฟากฟ้า

–ฉันอยากจะยืนมองเช่นนี้ให้ยาวนาน

ฉันรำพึงกับตัวเอง วันนั้นที่ฮาวายชาวพื้นเมืองได้สอนฉันว่า

–วันพระจันทร์เต็มดวง เธอจะอธิษฐานอะไรก็ได้ โดยเฉพาะความรัก เธอจะสมหวังเมื่อเธอนั่งมองดวงจันทร์นั้นทั้งคืน

จนวันนี้ซาโตชิก็ยังไม่ทราบว่าฉันนั่งมองดวงจันทร์เต็มดวงอยู่เกือบค่อนคืนเพื่อร้องขอให้ฉันได้ความรักนั้นมา