“ขี้ก้อนโตเพราะคนอื่น” สำนวนถึงพวกชอบประจบสอพลอ ไม่ใช้ความสามารถตัวเอง!

คอลัมน์ ล้านนา-คำเมือง : ขี้ปั้นใหญ่ย้อนเปิ้น

อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “ขี้ปั้นใหญ่ย้อนเปิ้น”

เป็นสำนวนคำคมล้านนา แปลว่า ขี้ก้อนโตเพราะคนอื่น

หมายความว่า ที่ได้ดิบได้ดีหรือเจริญก้าวหน้านั้นเนื่องจากอาศัยบารมีหรือการสนับสนุนของผู้อื่น

ขยายความต่อไปว่า ธรรมดาคนที่แร้นแค้น ไม่ค่อยจะมีกิน กินน้อย ขี้ออกมาจึงมีก้อนเล็ก พอได้กินมากขึ้นจากครัวของคนอื่นที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ ก้อนขี้จึงมีขนาดใหญ่ขึ้น

สำนวนนี้ให้แง่คิดว่า การมีสถานะในสังคมดีกว่าเดิมด้วยการประจบสอพลอ ไม่ใช่เพราะความสามารถของตนเอง ไม่น่าจะภูมิใจได้เต็มร้อย

เพื่อประกอบความเข้าใจในสำนวนนี้ จะขอเล่านิทานเรื่องราชสีห์กับหมาจิ้งจอก ดังต่อไปนี้

ราชสีห์เจ้าป่าออกหากิน พบเข้ากับหมาจิ้งจอกผอมกะหร่องตัวหนึ่ง แน่นอนตอนแรกจิ้งจอกต้องมีขี้ก้อนเล็กนิดเดียว หมาจิ้งจอกกลัวราชสีห์จับตนกิน จึงปวารณาเข้ารับใช้ กล่าวว่า ท่านเป็นถึงเจ้าป่าไม่น่าจะออกหากินเอง ให้ข้าลาดตระเวนหาเหยื่อชี้เป้าให้ท่านก่อนดีกว่า จากนั้นท่านค่อยไปจับเหยื่อมากิน

ทำเช่นนี้จึงจะสมศักดิ์ศรีของเจ้าป่า

ราชสีห์เห็นเข้าท่าและสะดวกสบายกว่าจึงตกลง

นับตั้งแต่นั้นมา หมาจิ้งจอกก็ขึ้นไปบนภูเขา คอยดูว่า เก้ง กวาง ละมั่ง กระทิง หมูป่า แพะภูเขา แกะป่า ฯลฯ อยู่ตรงไหน แล้วลงมาแจ้งพิกัดให้กับราชสีห์

ราชสีห์ออกล่าได้เหยื่อมาเหลือกิน หมาจิ้งจอกจึงได้กินอิ่มแปล้ทุกคราว

เมื่อหมาจิ้งจอกอ้วนท้วนอยู่ดีกินดีขึ้น ขี้ของหมาจิ้งจอกจากที่กินน้อยเคยเป็นเพียงก้อนเล็กๆ ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น

ยังมีฝูงกระต่ายป่าที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กระต่ายเฒ่าหัวหน้าฝูงเห็นความเป็นไปของการล่าสามัคคีนี้โดยตลอด

จึงคาดการณ์ต่อไปว่า อีกหน่อยหากสัตว์ใหญ่หมด เห็นทีจะถึงคราวฝูงกระต่ายของตนถูกล่าบ้าง

คิดดังนี้จึงไปหาหมาจิ้งจอก กล่าวว่า ท่านราชสีห์มีสี่ขา มีเขี้ยวมีเล็บ ท่านจิ้งจอกก็มีสี่ขา มีเขี้ยวมีเล็บเฉกเช่นกัน ท่านเองมีความสามารถในการล่าเหยื่อ ทำไมไม่ลองสลับหน้าที่ดูบ้าง ให้ราชสีห์ออกดูลาดเลาบนเขา แล้วท่านเป็นฝ่ายจับเหยื่อบ้างเล่า

อย่าให้คนอื่นปรามาสท่านได้ว่า “ขี้ปั้นใหญ่ย้อนเปิ้น” สิ

หมาจิ้งจอกเบื่อการชี้เป้าเช่นกัน จึงไปเสนอแนวคิดนี้กับราชสีห์ ราชสีห์ตกลงด้วยข้อแม้ที่ว่า หากล่าเหยื่อมาได้ ราชสีห์ในสถานะเจ้าป่าจะต้องได้กินก่อน

จากนั้นราชสีห์ก็ขึ้นไปบนภูเขา คอยบอกตำแหน่งสัตว์ตัวย่อมๆ ตามกำลังที่จิ้งจอกจะล่าได้ เช่น ชะมด อีเห็น ไก่ป่า นาก นางอาย ฯ

แต่เนื่องจากเหยื่อตัวไม่ใหญ่ ราชสีห์จึงกินเกือบหมด จิ้งจอกได้อาหารน้อยลง ก้อนขี้จึงมีขนาดเล็กลงตาม

กระต่ายเฒ่าจึงเสนอความเห็นอีกว่า น่าจะให้ราชสีห์ชี้เป้าเป็นสัตว์ใหญ่บ้าง เพราะการล่าสัตว์ใหญ่คือศักดิ์ศรีของนักล่า เมื่อหมาจิ้งจอกไปพูดกับราชสีห์อีกครั้ง และช้างเดินผ่านมา ราชสีห์จึงชี้เหยื่อตัวใหญ่ตัวนั้นให้

หมาจิ้งจอกกระโดดเข้างับขาหน้าข้างซ้ายของช้าง ช้างเจ็บก็เลยเอาขาขวาเตะหมาจิ้งจอกกระเด็นไปหัวกระแทกกับก้อนหินตาย

คราวนี้หมาจิ้งจอกก็ไม่มีแม้แต่ขี้สักก้อนให้กังวลแล้ว

เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิทานของสมาคมผู้บริโภคสื่อสีขาว นำมาเล่าขยายความคำคมสำนวนล้านนาดังกล่าว