ธุรกิจพอดีคำ : “คิดใหญ่ เริ่มให้เล็ก”

เคยได้ยินมั้ย

“Shoot for the moon.

Even if you miss,

You still land among the starts”

(จงตั้งเป้าไปที่ดวงจันทร์อันแสนไกล

แม้คุณจะพลาดเป้า ไปไม่ถึง

คุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว)

“คำคม” อมตะของ “เลส บราวน์ (Les Brown)” นักการเมืองชาวอเมริกัน

ที่ “ผลักดัน” ผู้คนแห่งยุคสมัย ให้ลุกขึ้นสู้

ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

หากแต่ว่าในยุคสมัยแห่ง “เทคโนโลยี” นี้

คำคมข้างต้น อาจต้องได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย

เพราะบุคคลคนนี้

“อีลอน มัสก์ (Elon Musk)”

บริษัทกูเกิลนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังด้านวิธีการทำงานที่เรียกว่า

“10X (สิบเท่า)”

ถ้าจะคิดอะไรสักทีแล้ว ให้คิดให้ใหญ่กว่าของที่เป็นอยู่ ดีกว่าของที่เป็นอยู่สิบเท่าไปเลย

ทำไมน่ะหรือ

“แลรี่ เพจ (Larry Page)” ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกูเกิล อธิบายเอาไว้ว่า

หลายครั้ง การคิดทำอะไรให้ดีขึ้น “สิบเท่า”

อาจจะง่ายกว่าการคิดจะทำให้ดีขึ้น “สิบเปอร์เซ็นต์”

งงมั้ยครับ

สิบเท่า มันจะไปง่ายกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ ได้อย่างไร

ยกตัวอย่าง

ถ้าคุณเป็นเจ้าของ “โรงน้ำแข็ง”

คุณอยากมีกำไรเพิ่มขึ้น 10%

คุณต้องทำอย่างไร

แน่นอน คุณก็คงจะคิดว่า จะหาลูกค้าเพิ่มได้อย่างไรอีก 10%

ใครนะ ที่ต้องการใช้น้ำแข็งของฉันมากขึ้น

อาจจะหาวิธีการ ลดค่าใช้จ่ายให้ได้ 10%

ซึ่งสำหรับธุรกิจ “โรงน้ำแข็ง” นั้น

ก็อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำได้อย่างง่ายๆ

แต่ถ้าเราลองนึกใหม่ว่า เราอยากจะเพิ่มกำไรให้ได้ “สิบเท่า”

โรงน้ำแข็งที่ทำอยู่ทุกวันนี่แหละ จะต้องทำให้ได้กำไรมากขึ้น “สิบเท่า”

เมื่อได้รับโจทย์ที่ดูบ้าบอแบบนี้แล้ว

สมองจะ “สั่งการ” ทันที

ลดค่าใช้จ่ายให้ตายยังไง เพิ่มฐานลูกค้าให้ได้สักแค่ไหน

ก็คงจะ “เป็นไปไม่ได้” ที่จะมีกำไรเพิ่มขึ้น “สิบเท่า”

ทางเดียวที่ทำได้คือ “คิดนอกกรอบ”

ลูกค้าต้องการ “น้ำแข็ง” ใช่มั้ย

ลูกค้าไม่ได้ต้องการ “ซื้อน้ำแข็ง” จากโรงน้ำแข็ง

เหมือนช่างก่อสร้างไม่ได้ต้องการ “สว่าน”

แต่เขาต้องการ “รู” ที่กำแพงต่างหาก

ลูกค้าต้องการ “น้ำแข็ง” ทุกที่ ทุกเวลา

ทำไมเราถึงไม่ทำ “ตู้เย็น” ขายล่ะ

ธุรกิจใหม่ โอกาสเติบโตย่อมมีมากกว่า

แน่นอนว่ามี “อุปสรรค” ใหม่ๆ

แต่ความเป็นไปจะกำไร “สิบเท่า” ก็เริ่มจะเห็นรางๆ

การคิดใหญ่ ไม่ได้ทำให้ “งานง่ายขึ้น”

แต่ทำให้ “กรอบความคิด” เดิมๆ หายไปต่างหาก

นี่คือสาเหตุว่า การคิดใหญ่ “10 เท่า” จึงทรงพลัง

สร้างการเปลี่ยนแปลงมาแล้วนักต่อนัก

อีลอน มัสก์

ผู้ประกอบการ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจหลายประเภทมานักต่อนัก

ไม่ว่าจะเป็น

“เพย์พาล (Paypal)” การโอนเงิน จ่ายเงิน โดยที่ไม่ต้องผ่านแบงก์

“เทสลา (Tesla)” รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%

และที่ “คนทั่วไป” อาจจะไม่ได้พูดถึงกันมากเท่าที่ควร

นั่นคือ “สเปซเอ็กซ์ (SpaceX)”

อีลอน มัสก์ นั้นเชื่อสนิทใจว่า

มนุษยชาติ ไม่ควรจะมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียว

มันมี “ความเสี่ยง” มากเกินไป

มนุษย์ควรจะสามารถเดินทางข้าม “อวกาศ” ได้ ไปสู่ดาวดวงใหม่

ไปๆ กลับๆ ย้ายไปย้ายมา เหมือนย้ายบ้านได้

สิ่งนี้จะทำให้มนุษยชาติอยู่รอดได้ไปอีกนานแสนนาน

เขาเชื่อว่า “ดาวอังคาร” เป็นที่ที่เหมาะที่สุด

เขาอยากจะไป “จบชีวิต” ของตัวเองที่ดาวอังคาร

แต่ทุกวันนี้ “จรวด” ที่ส่งคนออกไปนอกโลกนั้นมีราคาแพงจนเกินจริง

เขาทนไม่ได้ ก็เลยก่อตั้ง “สเปซเอ็กซ์” ขึ้น

ทำ “จรวดที่สามารถใช้ใหม่ได้”

จุดระเบิด ติดจรวด ส่งยานอวกาศขึ้นไปนอกโลก

แล้ว “จรวด” นั้น ก็สามารถจะบินกลับมาจอดที่เดิมได้

เติมเชื้อเพลิงใหม่ ก็สามารถใช้ปล่อยยานอวกาศออกไปได้อีกรอบ

ลดค่าใช้จ่ายการปล่อยจรวดได้ถึง 70% ด้วยกัน

ตอนนี้ ลูกค้าหลักคือ “นาซ่า (Nasa)” นั่นเอง

ปัจจุบัน อีลอน มัสก์ อยากจะทำจรวดที่ส่งคนเพื่อเดินทางข้ามทวีป จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง

ที่ไหนก็ได้ในโลก เดินทางถึงกันไม่เกิน 30 นาที

“ดาวอังคาร” คงไม่ไกลเกินเอื้อม

อยากสร้างสิ่งที่ “ยิ่งใหญ่”

ต้องเริ่มต้นที่ การ “คิดใหญ่ (Think Big)”

เพราะแม้คุณจะยังไปไม่ถึง “ดาวอังคาร”

แต่คุณก็สร้าง “จรวดที่ลงจอดเองได้” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อีลอน มัสก์ ไม่ได้กล่าวไว้