โยฮัน ไคลน์ซตอยเบอร์ กรรมการผู้จัดการตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน

เปิดเผย

อาเซียนถือเป็นตลาดที่สำคัญ ดังนั้น การเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ที่เปิดหลักสูตรเพื่อฝึกอบรมช่างเทคนิค การบริการ การขายให้กับตัวแทนจำหน่ายทั้งจากในประเทศหรือประเทศอื่นๆ

หรือล่าสุดประกาศลงทุนสร้างโรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด ระยอง

โรงงานแห่งนี้จะเป็นศูนย์การผลิตที่สำคัญในการส่งออกจักรยานยนต์และชิ้นส่วนเพื่อป้อนตลาดอาเซียนและจีน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561

ถือเป็นแห่งที่ 5 จากเดิมที่มีในสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง บราซิล อินเดีย ไทย

เป้าหมายของฮาร์เล่ย์-เดวิดสันที่วางไว้คือ เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 100 รุ่นภายในปี 2570 ส่วนในประเทศไทยเพื่อรองรับการขายที่มากขึ้น โดยจะเพิ่มดีลเลอร์จาก 7 เป็น 9 รายในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถจักรยานยนต์อันดับ 7 ของโลกด้วยยอดผลิต 1.82 ล้านคันในปี 2559 ในจำนวนนี้เป็นบิ๊กไบก์มากกว่า 4 แสนคัน คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 27.68 ต่อปี

โดยบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกต่างเข้ามาตั้งโรงงานทั้งไทรอัมพ์ กำลังการผลิตกว่า 6 หมื่นคันต่อปี บีเอ็มดับเบิลยู 1 หมื่นคันต่อปี ดูคาติ 2 หมื่นคันต่อปี