ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 มีนาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | มุมมุสลิม |
ผู้เขียน | จรัญ มะลูลีม |
เผยแพร่ |
มุมเบาๆ ของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ในแวดวงมุสลิม
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นหนึ่งในปัญญาชนมุสลิมที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการศึกษาการเมืองและการต่างประเทศ
ผ่านตำแหน่งสำคัญในทางการเมืองมาแล้วหลายตำแหน่งทั้งในฐานะรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ รัฐมนตรีต่างประเทศ รวมทั้งเลขาธิการอาเซียน
และในทุกตำแหน่งที่ได้รับ ดร.สุรินทร์ก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ดร.สุรินทร์ยังได้สนับสนุนให้ประเทศไทยเข้าเป็นประเทศสังเกตการณ์ขององค์การใหญ่ในโลกมุสลิมอย่างองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้ประเทศไทยเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ในเชิงสร้างสรรค์กับภูมิภาคอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ผมกับ ดร.สุรินทร์ รู้จักกันมาเป็นเวลายาวนาน
ผมจำได้เสมอว่าในสมัยที่เขาเป็นรัฐมนตรี ทั้งรัฐมนตรีช่วยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อมีการเลี้ยงต้อนรับเอกอัครราชทูตประเทศมุสลิม เนื่องในเดือนเราะมะฎอน (เดือนถือศีลอด) ผมจะถูกเชิญให้เข้าร่วมทุกครั้ง
และเมื่อมีการประชุมว่าด้วยการพัฒนาธนาคารอิสลามไม่ว่าจะเป็นในมาเลเซียหรือสิงคโปร์ ดร.สุรินทร์ก็จะสนับสนุนให้ผมเข้าประชุมเสมอเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในเรื่องการทำธุรกรรมของธนาคารอิสลาม
นอกจากนี้ ในช่วงที่เขาเป็นรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ เขาจะบอกให้ผมพร้อมนักการศาสนาจากนครศรีธรรมราชอย่างโต๊ะครูเจ๊ะมะ ฯลฯ และนักหนังสือพิมพ์มุสลิมจากหนังสือพิมพ์ทางนำไปร่วมเปิดมัสญิดที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาที่ปกครองโดยฮุน เซน ผู้นำประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นที่ปรึกษาจำนวนมาก
กล่าวกันว่า ฮุน เซน เป็นผู้สนับสนุนชาวมุสลิมมาโดยตลอด เนื่องจากในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองของกัมพูชาที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เขาได้หลบหนีไปอยู่กับชาวมุสลิม
ปัจจุบันกัมพูชามีมัสญิดขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่งเปิดทำการไปไม่นาน (2017) ในระหว่างพิธีเปิดมัสญิดในครั้งนั้น ผมพบว่าที่กัมพูชาเปิดงานโดยการยืนอ่านคัมภีร์กุรอาน โดยมีรัฐมนตรีมหาดไทยมาร่วม มัสญิดดังกล่าวเคยเป็นคอกหมูมาก่อนในสมัยการปกครองของเขมรแดง
นอกจากนี้ ยังพบว่าในกัมพูชามีกัมปงจามหรือหมู่บ้านของชาวจามมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อ ดร.สุรินทร์เชิญสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิมมารับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและล่องเจ้าพระยา ผมก็จะเป็นคนหนึ่งที่ถูกเชิญให้มาร่วมเสมอ
ช่วงที่ผมไม่ค่อยจะได้เจอ ดร.สุรินทร์บ่อยครั้งนักเหมือนตอนเขาอยู่เมืองไทยก็เป็นช่วงที่เขาไปอยู่อินโดนีเซียในฐานะเลขาธิการ ASEAN (2546-2550) แต่ก็มีอยู่บ้างในบางครั้งที่ผมไปเจอกับ ดร.สุรินทร์ที่สนามบินในกรุงจาการ์ตา ขณะที่ ดร.สุรินทร์จะเดินทางไปต่างประเทศ แล้วผมก็จะพูดว่าอาจารย์เดินทางบ่อยนะ เขาก็จะตอบกลับมาเหมือนที่เคยตอบทุกครั้งว่า This is my Job.
หลังกลับจากการเป็นเลขาธิการ ASEAN เขามักจะมาละหมาดวันศุกร์ที่ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ก่อนจากไปไม่นานเขามอบเงินให้ศูนย์กลางอิสลามไว้ใช้ในกิจการศาสนา 4 แสนบาท
เวลาเขาไปเยี่ยมบุตรชายที่ชื่อฮุสนีขณะที่เรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ และผมเป็นที่ปรึกษาชมรมมุสลิมธรรมศาสตร์อยู่ก็จะพบว่าในเดือนถือศีลอดและมีงานเลี้ยงละศีลอด ดร.สุรินทร์จะมาพบนักศึกษาและมอบเงินให้สมาคมไว้ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์
เขาเคลื่อนไหวอยู่ทั่วสังคมมุสลิม ทั้งที่ปอเนาะบ้านตาลและงานของชาวมุสลิมในกรุงเทพฯ เขาต้องการเข้าร่วมให้มากที่สุดถ้าเขามีเวลา
ปีที่ลูกสาวของผมจบปริญญาโทจากคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และเข้าสู่พิธีแต่งงานที่ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ดร.สุรินทร์มีเวลาอีกเพียงเล็กน้อยที่จะต้องไปสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อไปยุโรป เขาก็ยังเดินทางมาร่วมงานแม้จะอยู่ได้เพียงครึ่งชั่วโมง เมื่อผมไปส่งเขาขึ้นรถไปสนามบินสุวรรณภูมิ ดร.สุรินทร์ได้ฝากนามบัตรของเขาที่ได้ไปร่วมงานอยู่กับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดให้ผมเพื่อเอาไปให้อาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งมาร่วมงานแต่งของลูกสาวผมด้วย
ในฐานะนักการเมืองมุสลิม เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาจารย์วันนอร์ แม้ว่าจะอยู่กันคนละพรรค ทั้งนี้ เขามักจะภูมิใจกับนักการเมืองมุสลิมที่ประสบความสำเร็จอยู่เนืองๆ
เขามักจะพูดถึงบทบาทของอาจารย์วันนอร์ หรือไม่ก็คุณอารีย์ วงศ์อารยะ มุสลิมเชื้อสายปาทานที่ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงมหาดไทยอยู่เสมอ
เวลาเขามาร่วมงานศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยมุสลิมแห่งอลิการ์ (Aligarh Muslim University) ที่โรงแรมอัลมิรอซ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนรามคำแหงซอย 5 เขาจะเรียกผมกับพี่ชาย (ศ.ดร.อิมรอน มะลูลีม) ว่า Full Professor ทั้งนี้ เขามักจะมาเป็นประธานในวาระต่างๆ ที่โรงแรมแห่งนี้ซึ่งเป็นโรงแรม Halal แห่งแรกของประเทศไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศมุสลิมและจีนที่มาพักที่นี่คิดเป็นร้อยละ 97 ของผู้มาพักอาศัยโดยเฉลี่ย รวมทั้งนักกีฬาจากประเทศมุสลิม
ที่โรงแรมแห่งนี้ผมเจอกับ ดร.สุรินทร์หลายครั้งทั้งโดยตั้งใจและโดยบังเอิญ บางครั้งก็จะนั่งคุยกันในเรื่องต่างๆ เลยไปถึงการเมืองระหว่างประเทศ
ครั้งหนึ่งเขาบอกผมว่าเขาไม่อยากติดตามดู Trump แล้ว จากนั้นเขาก็จะคุยอยู่พักใหญ่เรื่องสินค้าฮาลาลของไทยที่ออกสู่ตลาดโลก
ที่อินเดีย (2556) หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงชื่นชมศิลปะอิสลาม ศิลปะฮินดูที่ประกอบอยู่ในงานศิลปะของอนุสรณ์รักบันลือโลกอย่างทัชมาฮาล (Taj Mahal) แล้วในตอนเย็นๆ ดร.สุรินทร์ ผมและคณะผู้ร่วมเดินทางก็ไปนั่งดื่มกาแฟหลังโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามทัชมาฮาลริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ทอดสายตาไปยังอนุสรณ์รักบันลือโลกที่กษัตริย์ชาญะฮานและมุมตาซ (อาร์ญูมันบาโน) มาฮัล ครองคู่กันมายาวนานถึง 14 ปี ก่อนจะต้องจบชีวิตลงเมื่อคลอดโอรสองค์ที่ 14
เมื่อเขามาเยือนพี่ชายผมที่ถูกรถชนที่บ้านรามคำแหงซอย 5 เขายอมรับว่าเขาจะลงแข่งขันเพื่อเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเขาเคยถูกเชิญชวนมาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ในเวลานั้นสถานการณ์ยังไม่อำนวย
เขาคงอยากเห็นกรุงเทพฯ ในฐานะมหานครอันทรงคุณค่า เป็นนครแห่งความงามและความโปร่งใส และเป็นนครเอกของ ASEAN ที่เขารักมากที่สุดนั่นเอง