อาชญากรรม : จับตากระแสเสือดำโหม กดดัน “ศรีวราห์” พ้นคดี เจ้าตัวลั่นเอาผิดเปรมชัย ฟันซ้ำงาช้างผิดกฎหมาย

ยังเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศ

สำหรับกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ซีอีโออิตาเลียนไทย บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจก่อสร้าง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่า

หลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจับกุมได้ภายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมซากเสือดำ และอาวุธปืนลูกซองและไรเฟิล

แม้เจ้าหน้าที่จะส่งตัวดำเนินคดีถึง 9 ข้อหา แต่สังคมก็ยัง ไม่สบายใจ ยังคงจับตาอยู่อย่างใกล้ชิด

อาจจะเพราะผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม และมีฐานะเข้าขั้นมหาเศรษฐี

รวมทั้งการทำคดีต่างๆ ก็ส่งผลให้เกิดความกังวล

ตั้งแต่การตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ที่ต้องถูกยกเลิก พร้อมภาคทัณฑ์ร้อยเวรที่รับแจ้งความ

ข้อหาติดสินบนก็ดูแล้วแนวโน้มจะไปไม่ถึง แถมตอนแรกมีปัญหาคลิปเสียงหาย

หรือกระทั่งงาช้าง 4 กิ่งที่พบในบ้านพักนายเปรมชัย ที่มีชื่อภรรยาครอบครอง

นำมาซึ่งการเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิ พราหมณกุล รองผบ.ตร. ที่คุมคดี

แต่แล้วทั้งนายกฯ รองนายกฯ และผบ.ตร. ก็ออกมาการันตีความโปร่งใสของการทำคดี

จนต้องติดตามดูกันว่าจะมีบทสรุปอย่างไร

เปรมชัยหลุดข้อหาทารุณสัตว์

ผ่านมาเกิน 1 เดือนหลังจากที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ถูกจับกุมพร้อมพวก 4 คน ขณะตั้ง แคมป์พักแรมในจุดหวงห้ามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561

จากการเข้าค้นพบซากสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยเฉพาะซากเสือดำ ที่ถูกชำแหละ ถลกหนังเรียบร้อย ภายในแคมป์มีทั้งปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง พร้อมกระสุนเต็มอัตราศึก

จึงควบคุมตัวส่งสภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหารวม 9 ข้อ ก่อนทั้ง 4 จะประกันตัวออกไปต่อสู้คดี

แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องได้

จนเกิดการจับตาการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่มีพล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. คุมคดีด้วยตนเอง

นอกจากนี้ข้อหาทารุณสัตว์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ทองผาภูมิ รับ แจ้งความไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการเรียกนายเปรมชัยมารับทราบ ข้อกล่าวหา กลับถูกถอนแจ้งความไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.

โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ชี้แจงว่า ข้อหาดังกล่าวเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ มาแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ต้องถอนออกไปเนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” ไม่เข้าตามนิยามพ.ร.บ.การทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์

เพราะในมาตรา 3 ที่ระบุว่าสัตว์ที่เลี้ยงไว้เป็นสัตว์บ้าน สัตว์เลี้ยงไว้ใช้งาน ใช้เป็นอาหารเพื่อการแสดง และให้รวมถึงสัตว์ที่อาศัย

ไม่ใช่สัตว์ป่า!!?

พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ที่รับแจ้งความว่าเข้าข่ายกลั่นแกล้งให้ได้รับผิดทางอาญาหรือไม่

ขณะเดียวกันก็มีหนังสือลงนามโดยพ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ ลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน ที่รับแจ้งความ เพราะถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แน่ชัด

สร้างความงุนงงให้กับสังคมยิ่งนัก

กดดันเปลี่ยนคนคุมคดี

นอกจากนี้ในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน ที่ก่อนหน้านี้ระบุ เป็นมั่นเหมาะว่าจะดำเนินคดี ก็เกิดปัญหาซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ตอนแรกตำรวจบอกว่าคลิปเสียงหาย แต่ต่อมาบอกว่าหลักฐานอ่อน จนไม่สามารถเอาผิดนายเปรมชัยได้

โดยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า เรื่องการติดสินบน คือมีการมอบไฟฉายให้กับนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก

ซึ่งคนที่เอาไปให้คือ นายนพพล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานฯ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย ซึ่งมอบให้ ในฐานะรุ่นพี่วนศาสตร์

ตำรวจระบุว่าคลิปเสียงที่ได้เป็นเสียงของนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถนายเปรมชัย พูดคุยกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จึงยากที่จะเอาผิดถึงนายเปรมชัยได้

ขณะที่นายเปรมชัย ขออนุญาตศาลขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปบังกลาเทศในวันที่ 10 มี.ค.

จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้กระแสสังคมออกมากดดัน

ไล่ตั้งแต่นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบฯ ระบุว่า หากในสำนวนคดีที่ตำรวจจะส่งฟ้องศาล ไม่มีข้อหาเจตนาฆ่า ล่าสัตว์ป่า เราคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องนัดกับใครเพื่อออกมาเรียกร้อง เพราะพวกเราไม่ยอม นั่นหมายความว่าจะเกิดปรากฏการณ์ประชาชนจะออกมาเดินกลางถนนอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

 

เช่นเดียวกับดาราศิลปิน ที่พากันโพสต์รูปกากบาทสีดำบนมือลงในโลกโซเชี่ยล เพื่อเรียกร้องไม่ให้เสือดำตายฟรี

และบางส่วนยังถึงขั้นเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวพล.ต.อ.ศรีวราห์ จากหัวหน้าทีมทำคดีนี้ด้วย

นายกฯการันตี”ศรีวราห์”

ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ออกมาปกป้อง โดยระบุว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์มีหลักฐานทุกอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อมั่นได้ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าประชาชนยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

“ผมเป็นผู้นำสูงสุดขององค์กร ติดตามดูคดีนี้มาตลอดอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่พี่น้องประชาชนสนใจ ขณะนี้ยังไม่พบพิรุธ ในการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ย้ำว่ายังไม่พบพิรุธ ถ้าพบพิรุธ เมื่อไหร่ไม่ต้องห่วง ผมไม่ช้าแน่นอน ผมต้องลงไปแก้ไข เพราะผมต้องเป็นหลักประกัน อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน ให้สังคม หากพบ ผมปรับหน้าที่แน่นอน”

ที่สำคัญ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ไม่ได้เป็นคนทำสำนวน เพียงแต่ควบคุมกำกับดูแลในส่วนของสอบสวนกลาง บก.ปทส. ไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวน เพียงแต่ไปกำกับดูแล ถ้ามีพิรุธ ไม่ชอบมาพากล คงต้องเปลี่ยน

เช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่เขาทำอะไรเสียหาย คดีต้องว่าไปตามกฎหมาย บางทีเจ้าหน้าที่ไม่ชี้แจงก็บอกไม่รู้เรื่อง พอชี้แจงก็บอกไม่ใช่ แล้วตกลงใครเป็นคนตรวจสอบ

เรื่องกฎหมายก็ว่ากันไป ทำสำนวนส่งฟ้อง อย่าเพิ่งไปตัดสินคนอื่นด้วยความรู้สึก หรือเอากรณีอื่นมาเปรียบเทียบ

ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯและรมว.กลาโหม ก็ออกมาการันตีพล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่าเป็นคนที่ทำงานได้ดี ไม่มีอะไรนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลการสอบสวนก่อน

ยืนยันยังไม่เปลี่ยนตัวพล.ต.อ.ศรีวราห์

สั่งฟันซ้ำ”งาช้างเถื่อน”

ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ยืนยันว่าทำคดีอย่างตรงไปตรงมา การสอบสวนก็มีความคืบหน้าตามลำดับ สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องพนักงานอัยการได้ทันวันที่ 26 มี.ค. อย่างแน่นอน

ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามหลักการและกฎหมายไม่มีการแบ่งคนรวยหรือจน

พร้อมระบุถึงข่าวก่อนหน้านี้ที่มีเจ้าหน้าที่ให้ข่าวว่าคณะของนายเปรมชัย เข้าป่า เพื่อหวังกินตัวเดียวอันเดียวของเสือ ว่าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะผลตรวจดีเอ็นเอชี้ชัดว่าเสือดำตัวดังกล่าวเป็นเสือดำตัวเมีย ขณะที่ซากสัตว์ที่คาดว่าเป็นอีเก้ง แท้จริงแล้วเป็นหมูป่า ส่วนไก่ฟ้าหลังเทา ผลตรวจระบุว่าเป็นไก่ฟ้าหลังขาว ส่วนอุจจาระ ที่พบเป็นของมนุษย์ แต่ไม่มีดีเอ็นเอของเสือดำ

นอกจากนี้ยังพบว่าชิ้นเนื้อในหม้อซุปและกระดูกท่อนขา เป็นของเสือดำ ยิ่งกว่านั้นพบดีเอ็นเออยู่ในเครื่องครัว มีดอีโต้ มีดทำครัว มีดเหน็บ เขียงพลาสติก พบว่าบางชิ้นมีดีเอ็นเอของเสือดำเพศเมีย

เมื่อรวมกับอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ สามารถเอาผิดนายเปรมชัยกับพวกได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีกรณีงาช้าง ที่พบในบ้านของนายเปรมชัย ที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ซึ่งแสดงว่าเป็นงาช้างบ้านเป็นของนางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยานายเปรมชัย แต่เมื่อตรวจสอบดีเอ็นเอพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกา

เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส. จึงรับแจ้งความจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ให้เอาผิดฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19

พร้อมกันนี้จะให้ไปตรวจสอบว่าพื้นที่ที่งาช้างตั้งอยู่ในบ้านนายเปรมชัยนั้นอยู่ตรงจุดใด เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องเก็บของ หากพบเป็นการตั้งโชว์ในห้องที่ใช้งานร่วมกัน เช่นห้องรับแขก ก็ถือว่ามีความผิดร่วมตามกฎหมายด้วย ก็อาจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อ นายเปรมชัย ในข้อหาร่วมกันครอบครองซากสัตว์ผิดกฎหมาย

ส่วนกรณีการจดแจ้งครอบครองที่มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้รับจดแจ้งนั้น จะต้องตรวจสอบด้วยเช่นกันว่าเข้าข่ายร่วมกันจดแจ้งด้วยหรือไม่

ยืนยันดำเนินคดีตรงไปตรงมา ไม่มีใครมากดดัน

เป็นคำยืนยันจากตำรวจที่ทำคดี

ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป