โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง/ท่องโลกกว้าง อยู่ที่บ้านเรา

โลกหมุนเร็ว
เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
[email protected]

ท่องโลกกว้าง อยู่ที่บ้านเรา

หนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่านหลายปีมาแล้วมีชื่อว่า How We Choose to be Happy
ในนั้นมีกรณีศึกษาของคู่แต่งงานอเมริกันคู่หนึ่งที่ไม่เคยออกไปไกลจากเมืองที่อยู่
วันดีคืนดีเห็นภาพเขียนของแวนโก๊ะและเกิดมีแรงบันดาลใจอยากจะไปเห็นถนนที่มองมาร์ตในภาพเขียนของแวนโก๊ะ ก็ลุกขึ้นมา และออกเดินทางไปยังปารีส
ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของคนทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป มีหลายสิ่งติดตามมา
เดี๋ยวนี้ เราเข้าใจมากขึ้น ลึกซึ้งขึ้น กับคำว่า ประสบการณ์
การได้ยินได้ฟังเทียบไม่ได้เลยกับการไปเห็นไปรู้จักของจริง แม้จะมีการค้นพบที่ทำให้เราได้เข้าไปอยู่ในประสบการณ์เสมือนจริง อย่าง virtual reality มันก็ไม่เหมือนได้ไปจริงๆ อยู่ดี
เมื่อสองสามีภรรยาได้ไปที่มองมาร์ตเขาได้เจอผู้คน ได้ยินเสียงรถราแล่นไปมา เสียงคนคุยกัน กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ รอบตัวมีแสงแดดหรือไม่ก็ความมืดทึมในฤดูที่เขาไปเยือน และสีสันต่างๆ ที่อยู่รอบตัว

สามีภรรยาชาวอเมริกันอีกคู่หนึ่งเลือกจัดสรรชีวิตอย่างสุดขั้วและเด็ดเดี่ยว ด้วยการขายบ้านที่แมสซาชูเซตส์ และเดินทางไปตามที่ต่างๆ ทุกมุมโลกตลอดเวลา ผู้เขียนพบเรื่องราวของคนทั้งคู่นี้ในเว็บของ airbnb เว็บให้เช่าที่พักส่วนตัวที่แพร่หลายไปทั่วโลก
ไมเคิลกับเด็บบี้ แคมเบลล์ เดินทางไปยัง 58 ประเทศ และ 180 เมืองทั่วโลกตั้งแต่ปี 2013 และมีผู้เรียกทั้งคู่ว่า นักเดินทางเร่ร่อนวัยเกษียณ
ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนี้มีอยู่จริง
คนที่มีเงิน แต่ไม่มีบ้าน
คนที่อยากท่องไปทั่วโลกมากกว่าจะอยู่ที่บ้าน คนที่อยู่กับประสบการณ์ในปัจจุบันที่เจอกับสถานที่หลายแบบ คนหลายแบบ ความคิดหลายแบบ และวัฒนธรรมหลายๆ แบบ ให้เป็นกำไรชีวิต วันนี้อยู่เชียงใหม่ พรุ่งนี้อยู่ปารีส อีกวันอยู่เคนยา ฟังดูเป็นชีวิตที่มีสีสัน น่าตื่นเต้น
คุณปู่คุณย่าเด็บบี้ทำให้เกิดกระแสใหม่ที่ว่า ชีวิตนี้ไม่เห็นต้องมีบ้าน ขายมันไปก็ได้ แล้วเอาเงินมาเดินทาง
และสำหรับคนที่เดินทางท่องเที่ยวแบบถี่ยิบแทบไม่ได้อยู่บ้าน ก็อาจจะมีความคิดว่าทิ้งบ้านไว้เฉยๆ ทำไม ก็ให้คนเช่าเสียเลย
นี่อาจจะเป็นที่มาของ airbnb ที่เจ้าของบ้านทำบ้านให้เช่า เป็นสังคมโลกที่คนหลายชาติหลายภาษาเข้าไปใกล้ชิดกับคนท้องถิ่นมากกว่าการไปนอนโรงแรม และประหยัดกว่า ทำให้ได้เดินทางมากกว่าด้วย
วันนี้จึงเกิดมีนักเดินทางที่เอาบ้านตัวเองให้คนอื่นเช่า
และไปเช่าบ้านคนอื่นเมื่อตัวเองเดินทาง เกิดเป็นสังคมของการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนที่อยู่
และนักเดินทางกลุ่มนี้ก็จะมีวัฒนธรรมที่เป็นแบบเดียวกัน เข้าใจมารยาทของการเข้าไปอยู่บ้านคนอื่น เคารพกฎเกณฑ์ มีระเบียบเรียบร้อย รักษาความสะอาด เรียกว่าเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมที่น่าทึ่งทีเดียว

เมื่อผู้เขียนนึกสนุกคิดจะเอาห้องชั้นบนของบ้านที่ว่างอยู่ทำเป็นห้องให้เช่านั้นก็ยังไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ออกจะกังวลและหวาดหวั่นด้วยซ้ำว่าไม่ใช่โลเกชั่นที่อยู่ติดกับบีทีเอส แถมยังอยู่ในซอยที่ลึกเข้ามา ใช้เวลาเดินพอสมควรกว่าจะถึงบ้าน
แต่แล้วก็ปรากฏว่าความลึกของซอยไม่ได้เป็นปัญหาเลย เมื่อได้พบว่าคนที่มามีหลากหลายชาติ ทั้งจีน ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อเมริกัน สเปน ดัตช์
และแต่ละคนก็ขยันเดินกว่าคนไทยโดยทั่วไปมาก
หรืออาจเป็นเพราะทุกคนอยู่ในอารมณ์ท่องเที่ยว ทุกอย่างก็ดูชิลล์ไปหมด
ความลึกของซอยเลยไม่สร้างปัญหา แม้แต่การเดินไกลกว่าจะเจอร้านอาหารที่พอพึ่งพาได้ ก็ไม่ได้เป็นประเด็นแต่อย่างใด ในเมื่อเขาเลือกแล้วว่าจะอยู่บ้าน ไม่ใช่โรงแรม
การมีบ้านที่ต้อนรับคนได้หลายชาติ เป็นการเปิดโลกกว้างให้เราที่เป็นเจ้าของบ้าน ถึงแม้จะไม่ได้ไปประเทศต่างๆ แต่เมื่อคนชาตินั้นๆ เข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ได้พูดคุย ให้ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ได้พบว่าแต่ละคนรู้มารยาทของการเป็นแขกในบ้านพักคนท้องถิ่น มีวัฒนธรรมเรื่องความมีระเบียบ ความสะอาด
ชีวิตเจ้าของบ้านก็ไม่ซ้ำซากจำเจ เหมือนได้ไปเที่ยวรอบโลกเหมือนกัน

เจ้าของบ้านทำอาหารเช้าอยู่ในครัว แขกชาวจีนก็เดินเข้ามาขอดูว่าอาหารไทยทำอย่างไร แล้วก็คุยกัน
ครอบครัวนี้มาจากฮาร์บิน เป็นที่ที่หนาวจัดมาก มิน่าพวกเขาจึงเปิดหน้าต่างนอน ไม่เปิดแอร์
ส่วนสาวปารีเซียนที่กำลังเรียนอยู่ที่ซอร์บอนน์ มาถามว่าจะสูบบุหรี่ที่ไหนดี โชคดีที่มีม้านั่งในสวน ก็แนะนำให้เธอไปนั่ง ที่เขียบุหรี่ไม่เคยมีใช้นานแล้ว ก็ต้องใช้กระถางต้นไม้ใบจิ๋วมาแก้ขัด
เธอมาถึงช่วงเย็นกับมารดา เธอบริโภคอาหารมังสวิรัติ หิวโซมาตอน 6 โมงเย็น เจียวไข่ให้เธอรับประทาน เธอก็ขอบคุณหลายแล้ว
ส่วนคู่หนุ่มสาวออสซี่อีกคู่ที่กินมังสวิรัติเช่นกันมาถึงวันตรุษจีนพอดีก็เลยได้ลิ้มรสขนมเทียนของเรา
คู่นี้มาแปลก เขาไปเข้าป่าลึกที่สุราษฎร์ฯ มา เป็นที่ที่คนไทยในกรุงอย่างเราไม่มีโอกาสไปถึง คู่ออสซี่นี้ไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่งเหมือนกัน ชีพจรลงเท้าตลอด ออกจากกรุงเทพฯ ก็ไปเชียงใหม่ต่อ และเขาทำงานแบบ on the go
การได้พบกับแขกผู้มาพักได้เปิดโลกของเจ้าของบ้านให้กว้างขวางออกไปอย่างไร้ขอบเขต คงไม่ง่ายนักที่เรานั่งอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วจะได้รู้จักพูดคุยกับคนจีนรุ่นใหม่ที่มีอาชีพครูจากนานกิง ได้รู้ความคิดของเขา
เปรียบเทียบจีนกับไทย ได้รู้ว่าเมืองไทยแสนสะดวกเรื่องคมนาคม การเดินทางเชื่อมต่อไปยังที่ต่างๆ ทำได้ง่ายและสามารถเลือกวิธีที่ประหยัด
ได้รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับผู้นำของเขา
ได้รู้ว่าวัยรุ่นจีนมีแก่นสารสาระ เห็นความสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ
ไม่ง่ายนักที่อยู่ดีๆ ก็พบว่าแม่ลูกจากฝรั่งเศสพอใจในมิตรภาพและที่อยู่ที่สบายของเราจนให้ที่อยู่ที่ปารีสของเขาและบอกว่ายินดีต้อนรับหากเราไป
การสื่อสารในยุคปัจจุบันยังง่ายนิดเดียว ด้วยการใช้แอพพ์แปลภาษาที่ทำหน้าที่ล่ามแปลสดๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา ทันใจ

การเป็นผู้ไปเยือนท้องถิ่น หรือการเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเพียงผู้ได้รับประโยชน์ที่อยู่ปลายแถว เช่นเดียวกับแอพพ์ที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกอย่างเฟซบุ๊ก แอร์บีเอ็นบีทีมก็ทำงานอย่างหนักเพื่อศึกษาความต้องการของผู้เดินทางและเจ้าของบ้านและชี้แนะ นำทาง ให้คนทั้งสองมาพบกัน และอิ่มเอมใจกับการเลือกสรรให้เหมาะกับสิ่งที่ตนเองต้องการ
สาวอเมริกันรายหนึ่งพูดคุยว่าเธอไม่ต้องการแสงสีที่กรุงเทพฯ ดังนั้น บ้านที่อยู่ไกลออกมาจากแสงสีจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ
สาวฝรั่งเศสบอกว่าถ้าคุณต้องการคลุกคลีกับคนท้องถิ่นจริงๆ การเลือกบ้านที่มีเจ้าของบ้านอยู่ด้วยและพบกันทุกเช้าเป็นสิ่งที่ “ใช่เลย”
โลกใบนี้มีความแตกต่าง และหลายๆ ความแตกต่างๆ สามารถมาพบเจอกันได้ นี่คือสังคมโซเชียลในอีกรูปแบบหนึ่งที่พาคนมาพบกันแบบตัวเป็นๆ พบกัน พูดคุยกัน สร้างไมตรี และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน