เรื่องราวในประวัติศาสตร์มีเรื่องเล่ามากมายไม่รู้จบ จริงบ้างเท็จบ้าง หรือใส่สีตีไข่ให้น่าตื่นเต้นเล่าได้สนุก ยิ่งเรื่องราวในราชสำนัก ยิ่งน่าสนใจ นำมาผูกร้อยเป็นนิยายได้หลากหลายเรื่องราว

คนเกาหลีชอบดูละครเกาหลี ที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ด้วยเนื้อหาเข้มข้นชวนติดตาม

Master of the Mask นำเสนอเรื่องราวสมัยโชซอน ที่กษัตริย์อยู่ภายใต้อำนาจมืดของสมาพันธ์พยอนซู ผู้อยู่เบื้องหลังและคอยบงการทุกอย่างผ่านพระราชโองการของพระราชาแห่งโชซอน

เพราะอยากเป็นกษัตริย์ พระอนุชาของพระราชาจึงขอความช่วยเหลือจากแดมก (ฮอจอนโฮ) หัวหน้าสมาพันธ์พยอนซู หลังจากได้ขึ้นครองราชย์ แดมกได้ให้พระราชาเสวยยาฝิ่น ที่เขาทำเองจากฝิ่นที่ปลูกไว้ พระราชาจึงเป็นดั่งทาสของแดมก ต้องทำทุกอย่างตามที่แดมกต้องการ รวมทั้งการให้ดูแลเรื่องน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยของชีวิตราษฎร

เมื่อพระราชาทรงเริ่มตระหนักและไม่ยอมรับสมาพันธ์พยอนซูและแดมก หลังจากทรงมีองค์ชาย จึงทรงเริ่มวางแผนเงียบๆ หวังให้พ้นจากเงามืดของแดมก โดยทรงให้องค์ชายสวมหน้ากากเพื่อไม่ต้องการให้แดมกรู้จักพระพักตร์ขององค์ชาย

องค์ชายอีซอน (ยูซังโฮ) เติบโตเป็นวัยรุ่น อยากรู้อยากเห็น อยากถอดหน้ากากออกจากใบหน้า แต่พระบิดาห้ามไว้

องค์ชายอีซอนแอบหนีออกจากพระราชวัง เพียงแค่ถอดหน้ากากออก ก็ไม่มีใครจำพระองค์ได้แล้ว เพราะไม่มีใครเคยเห็นพระพักตร์ขององค์ชาย

 

ชีวิตนอกพระราชวัง ให้ความแปลกใหม่แปลกตาต่างๆ แก่องค์ชาย ได้เห็นความทุกข์ยากของราษฎรที่ต้องซื้อน้ำจากกรมประปาในราคาแพง ซึ่งควรจะตักใช้จากบ่อน้ำโดยไม่ต้องจ่ายเงิน

ดูแล้วน่าสงสารมาก จากประวัติศาสตร์ คนเกาหลีผ่านความยากลำบากมาอย่างแสนสาหัสและยาวนาน นอกจากทะเลาะกันเอง แบ่งเป็นฝักฝ่ายแล้ว ยังถูกจีนและญี่ปุ่นรังแก ต้องส่งส่วยต่างๆ ทั้งๆ ที่ทรัพยากรก็มีอย่างจำกัด

โลกภายนอกพระราชวังขององค์ชายอีซอนได้รู้จักฮันกาอึน (คิมซูฮยอน) คุณหนูลูกสาวของรองผู้ตรวจการฮันคยูโฮ (จอนโนมิน) ซึ่งมีความรู้เรื่องยาสมุนไพร และอีซอน (แอล) ชายหนุ่มลูกชายคนหาบน้ำ ซึ่งฮันกาอึนเป็นคนตั้งชื่อให้ว่า “อีซอน”

องค์ชายได้ยินชื่อยังขำว่าเหมือนชื่อของพระองค์ หากพระองค์บอกกับคนทั้งสองในชื่อ “ซอนซู” และนับว่าอีซอนเป็นเพื่อนคนแรกขององค์ชาย ส่วนฮันกาอึนเป็นรักแรกขององค์ชาย

เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทั้งสามคนมีความทรงจำที่ดีต่อกัน

 

เกิดการนองเลือดในพระราชวัง แดมกถึงกับปลงพระชนม์พระราชา องค์ชายและองครักษ์อีชองอูน (ชินฮยอนซู) ต้องหนีตาย เพื่อให้พ้นเงื้อมมือแดมก และแดมกได้ใช้อีซอนปลอมตัวเป็นองค์ชายรัชทายาทอีซอน รวมทั้งบังคับให้กินยาฝิ่นด้วย หวังควบคุมบัลลังก์มังกร

ด้วยการช่วยเหลือของคิมฮวากุน (ยูนโซฮี) หลานสาวของแดมก ที่หลงรักองค์ชาย ช่วยให้องค์ชายรอดตาย และนางยังช่วยเหลือองค์ชายอีกหลายครั้ง แม้รู้ว่าองค์ชายไม่ได้มีใจให้นางเลย

องค์ชายอีซอนที่ยังเยาว์นัก พละกำลังต่างๆ ก็สู้แดมกไม่ได้ อีกทั้งเหล่าข้าราชบริพารยังอยู่ภายใต้อำนาจของแดมก

อดีตขุนนางอูโบ (ปาร์กชอลมิน) แนะนำให้องค์ชายไปขอทำงานกับพวกพ่อค้าเร่ เพื่อเรียนรู้เส้นทางการค้า และสร้างขุมกำลังจากพ่อค้าเร่ ซึ่งเป็นกลไกเศรษฐกิจในสมัยโชซอน

ด้วยความสามารถขององค์ชาย จนได้รับการยอมรับจากพ่อค้าเร่ จึงยกย่องให้องค์ชายเป็นหัวหน้าสมาคมพ่อค้าเร่ มีอำนาจต่อรองต่างๆ ได้

ความละโมบของแดมกกลับยิ่งมีมากขึ้น ถึงขั้นจะขอผลิตเงินกษาปณ์ องค์ชายซึ่งแข็งแกร่งขึ้น จึงวางแผนที่จะต่อสู้กับแดมก โดยหว่านล้อมข้าราชการที่เคยจงรักภักดีต่ออดีตพระราชา ให้มาร่วมต่อสู้ โดยองค์ชายต้องแสดงความจริงใจให้ข้าราชบริพารได้ตระหนัก

ไม่ใช่แค่ต้องทวงคืนบัลลังก์ แต่ต้องเป็นพระราชาที่เห็นแก่ราษฎร คืนความสุข คืนรอยยิ้มให้ราษฎร

 

The Master of the Mask เรื่องราวที่ไม่ใช่เพียงการช่วงชิงอำนาจของพระราชาหรือรัชทายาทกับปีศาจแดมกเท่านั้น ยังมีการแอบคานอำนาจของพระพันปี และหัวหน้าขันที ซึ่งซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง

ในพระราชวัง ไม่อาจไว้ใจใครได้ ไม่รู้ว่าใครเป็นเส้นสายให้ใคร คนที่ใกล้ชิดอาจกลายเป็นคนแปลกหน้า หรือเป็นศัตรูที่น่ากลัว!

องค์ชายรัชทายาทซึ่งเป็นตัวจริงต้องหนีเพราะยังไม่พร้อม ทั้งทรงสงสารอีซอนที่เป็นตัวปลอมต้องทนทุกข์ และเมื่อตัวปลอมอยู่ในตำแหน่งไปนานๆ ก็ชักอยากเป็นตัวจริงซะแล้ว

ชื่นชมผู้กำกับฯ (โนโดชอล กับปาร์กวอนกุ๊ก) และนักเขียน (ปาร์กฮเยจิน และจองแฮริ) สามารถผูกเรื่องราวได้เก่งมาก จากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเหมือนเพิ่มปมหลายปมให้ผูกแน่นมากขึ้น จนคนดูอึดอัด และเกรงว่าจะไม่มีทางออกให้ตัวละคร

พระเอกยูซึงโฮ แสดงได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และแอลซึ่งเป็นพระราชาตัวปลอม แสดงได้ดีมากเช่นกัน แสดงอารมณ์ที่ทั้งรู้สึกสำนึกเสียใจ หรือทรยศหักหลังอย่างบ้าคลั่ง

นักแสดงมือเก๋าฮอจอนโฮเป็นแดมกได้เลวสมจริงมาก มีอำนาจแต่ใช้ในทางที่ผิด อยากเป็นนักปกครองที่คนยอมรับแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็คงเหมือนใครอีกหลายคน…