ทลายเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ บก.ทท.แกะรอย 30 ปีฝังรากลึก ฟันฟอกเงิน-สมาชิกอั้งยี่

AFP PHOTO / CHRISTOPHE ARCHAMBAULT

การลงดาบเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ด้วยการอายัดทรัพย์มูลค่า 13,200 ล้านบาท จัดเป็นมาตรการเด็ดขาดที่เจ้าหน้าที่เอาจริงในการปราบปราม เนื่องจากกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และทำให้ไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศมหาศาล

รวมทั้งมีการดำเนินคดีอาญากับ นางธวัล แจ่มโชคชัย นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี ประธานกรรมการ บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด และ นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กรรมการบริษัท ในความผิดฐานเป็นสมาชิกอั้งยี่ และร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนความผิดฐานฟอกเงิน

ที่ล่าสุด ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัวนางนิสาและนายวสุรัตน์ โดยศาลพิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องร้ายแรง มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก กระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

“ทัวร์ศูนย์เหรียญ” มีความเป็นมาอย่างไร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) หนึ่งในหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย อธิบายว่า เนื่องจากรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเสรี แน่นอนว่าเมื่อมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเสรีแล้ว จะทำให้อาชญากรรมหรืออาชญากรแฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆ

ที่ผ่านมาในเรื่องของบริษัททัวร์ประกอบกิจการนำเที่ยว โดยนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ในราคาต่ำกว่าทุน หรือเรียกว่าทัวร์ศูนย์เหรียญ นอมินีจีนหรือต่างชาติ การเอาสมบัติของคนไทยไปจดทะเบียนประกอบธุรกรรมตามที่ต่างๆ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมานานแล้ว มีมานานกว่า 30-40 ปี สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเป็นแสนล้าน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า วิวัฒนาการของทัวร์ศูนย์เหรียญ เริ่มต้นจากประเทศจีน ที่เข้ามาในประเทศไทย เพราะต้นทุนราคาถูก ต่อมามีรูปแบบการขายทัวร์ ส่งลูกทัวร์ 100-200 คน เข้ามายังประเทศไทย โดยไม่มีเงินมาให้ มีเฉพาะหัวของลูกทัวร์เข้ามาให้ กรณีนี้มองว่าหากบริษัททัวร์ในประเทศไทยไม่ยอมรับเงื่อนไขแบบนี้ ลูกทัวร์จีนจะไม่ถูกส่งเข้ามายังบริษัททัวร์ในประเทศไทย หลายๆ บริษัทถูกกดขี่ข่มเหง ขายทัวร์กำไรน้อย ลืมตาอ้าปากไม่ได้

ที่ผ่านมาบริษัททัวร์ในไทยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างนี้มาตลอด มีการผูกมัดการตลาดทัวร์จีนเอาไว้ในมือของกลุ่มบางกลุ่ม กลุ่มคนเหล่านี้จะได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล แต่รายได้จะไม่ได้เข้าประเทศไทยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และไม่มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เสียภาษีแค่ 1-2 แสน แต่รายได้ที่เข้าบริษัทเป็นพันล้าน ต่างกันราวฟ้ากับดิน

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป กิจการทัวร์ในประเทศไทยจะถูกกลืนโดยคนต่างชาติและรายได้ออกนอกประเทศทั้งหมด โครงสร้างธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องล้มทันที ถือเป็นหายนะสำคัญ

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการในการประกอบกิจการทัวร์แบบศูนย์เหรียญ

“เมื่อนักท่องเที่ยวมาแล้วต้องพาไปซื้อสินค้าในห้างร้านหรือบริษัท เครื่องหนัง ร้านเพชร จิวเวลรี ยาบำรุง ในร้านที่มีการกำหนดเอาไว้ จะพูดเบี่ยงเบนประเด็น เช่น อ้างว่าประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยก่อนใช้ยาประเภทนี้ บริษัททัวร์ที่รับลูกทัวร์เข้ามาจะได้รายได้ 35-40 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือรายได้เหล่านี้ไม่ได้เข้าประเทศ เพราะไม่มีใบเสร็จ ไม่มีสัญญา รายได้พวกนี้จะถูกผลักดันออกไปต่างประเทศหมด ไม่มีเงินได้เข้ามาเพื่อผลักดันเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินจีน รวมถึงรัฐบาลจีนมีมาตรการห้ามไม่ให้เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยแท้จริง” ผบก.ทท.เผย

ผบก.ทท. บอกด้วยว่า เชื่อไหมว่านักท่องเที่ยวจีนในทุกวันนี้หลายคนไม่เคยเห็นวัดพระแก้วมรกตเลย เห็นประเทศไทยเพียงด้านเดียว เห็นแต่โรงแรมนอกชานเมือง เพราะว่าที่พักถูกและผิดกฎหมาย เอาอพาร์ตเมนต์มาดัดแปลงทำโรงแรมบ้าง คนจีนเลยคิดว่าประเทศไทยทำไมกันดารแบบนี้

เขาจะไม่เคยเห็นศูนย์การค้าชั้นนำของเมืองไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานของกระทรวงการท่องเที่ยว ต้องประสานกับกระทรวงท่องเที่ยวของประเทศจีนและประเทศอื่นๆ เพื่อยกระดับทำสัญญาระหว่างทัวร์จีนกับทัวร์ไทย และมีการกำหนดราคา ขั้นต่ำ กลาง สูง เป็นแนวทางที่มีคุณภาพ

“ในการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญตอนนี้ ส่วนของผมมีความมั่นใจว่าการปราบปรามไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก แต่อยู่ที่ความตั้งใจจริงและความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคน จากการที่เราจับกุมอย่างจริงจัง คาดคะเนว่าจะต้องหมดไปในระยะเวลาอันสั้น เพราะบริษัททัวร์ ณ เวลานี้ ส่วนใหญ่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายแล้ว อีกส่วนหนึ่งทางการของประเทศจีนจะส่งผู้แทนจากประเทศจีนเข้ามาประชุมร่วมกับเราในวันที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ และยกระดับพัฒนาคุณภาพของทัวร์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ดูแล้วไม่ยากเลยในการกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป และจะหมดไปภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ด้วย” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว และว่า

ยอมรับว่าการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญต้องมีผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยวไทยแน่นอน แต่เราต้องยอมรับ แต่ผลกระทบนั้นจะทำให้วันหน้าจะมีการยกระดับมาตรฐานคุณภาพทัวร์

ทุกวันนี้สถิตินักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามายังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน คิดเป็น 35% จากปีที่แล้ว แต่ที่ขาดทุนคือกำไร เพราะจะเข้าไปกับพวกทัวร์ศูนย์เหรียญ

แต่หากเรายังปราบปรามเช่นนี้อยู่ มั่นใจว่าในอนาคตจะต้องดีขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า สมัยหนึ่งนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้ามาประเทศไทย วันละกว่า 15,000-20,000 คน ช่วงนั้นรถบัสมีคุณภาพของไทยมีจำนวนไม่เพียงพอ และบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เป็นเจ้าแรกที่สั่งรถบัสนำเข้ามา 3,000 คัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน เป็นรถบัสใหม่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับต้นๆ

และเมื่อมีผลกำไรเยอะ การประกอบธุรกิจอาจเปลี่ยนมุมมอง เน้นกำไรมากเกินไป จึงทำให้เกิดวิธีการหากำไรที่ผิด

เรารับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต ตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีก่อน ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เก็บข้อมูลของเครือข่ายนี้ ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่เข้าดำเนินการจับกุมหรือสืบสวนต่อ จนกระทั่งผมเข้ามารับตำแหน่งนี้ จึงแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถขอศาลออกหมายจับได้

ทั้งนี้ การดำเนินการไม่ได้ไปช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งใคร และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน