ขอแสดงความนับถือ

เรื่องตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม

สิ่งสำคัญสุด คงเป็นอย่างที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯ แพทองธาร”

ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ไปทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา

คือ ต้องหาเหตุผลที่แท้จริงว่า ตึกถล่มเกิดจากอะไร

“…ตึกถล่มทั้งตึกและมีคนเสียชีวิตมากมาย

(จะ) ไม่มีคำตอบได้อย่างไร

ดิฉันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งรับไม่ได้กับเรื่องนี้

และรับไม่ได้ว่าจะไม่มีคำตอบ…”

 

ข้อมูลจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันเดียวกันคือวันที่ 4 พฤษภาคม

ยอดผู้ประสบเหตุจากตึก สตง.ถล่มมีทั้งสิ้น 109 ราย

สถาบันนิติเวชสามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันเป็นผู้เสียชีวิตแล้ว 86 ราย

เป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 78 ราย

เป็นชิ้นส่วนที่มีการตรวจพิสูจน์แล้วตรงกันกับญาติ 8 ราย

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด สามารถพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลได้ จำนวน 63 ราย

เป็นสัญชาติไทย 46 ราย เมียนมา 15 ราย กัมพูชา 1 ราย และลาว 1 ราย

นายชัชชาติย้ำเช่นเดียวกับ น.ส.แพทองธาร ว่า

“อย่าปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล

ต้องหาผู้รับผิดชอบให้ได้”

 

ในขณะที่คนไทยและคงรวมถึงต่างประเทศ กำลังรอถึงเหตุผลที่ตึก สตง.ถล่ม

รวมถึงใครคือผู้ที่จะต้องรับผิดชอบแล้ว

คอลัมน์ “พื้นที่ระหว่างบรรทัด” ของ “ชาตรี ประกิตนนทการ”

ได้ร่วมนำเสนอแนวความคิด ให้สังคมได้ร่วมพิจารณา อีกแนวคิดหนึ่ง

นั่นคือ

“สตง. Ground Zero

ควรออกแบบเป็นอนุสรณ์สถาน

แห่งความน่าละอายของรัฐราชการไทย”

ถือเป็นข้อเสนออันแหลมคม

และแน่นอน คงยากที่จะเกิดขึ้นได้จริง

ซึ่งอาจารย์ชาตรีก็ทราบดี

จึงบอกว่าแนวคิดนี้ (คง) เป็นเพียงความฝันที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง

แต่กระนั้น อาจารย์ชาตรีก็แอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

“…เราไม่สามารถฟื้นชีวิตคนที่ตายไปแล้วขึ้นมาใหม่ได้

แต่เรามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะกำหนดว่าความผิดพลาดเหล่านั้นจะถูกลืม

หรือจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง…”

 

อาจารย์ชาตรีตั้งข้อสังเกตว่า วัฒนธรรมความรู้สึกละอาย รับผิดชอบ และเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตนั้น

รัฐราชการไทยกำลังมีสิ่งนี้ลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ

“…เราต่างรู้สึกอึดอัดคับข้องใจต่อพฤติกรรมไร้ยางอายที่มากขึ้นทุกทีของรัฐราชการไทย

จนเมื่อเกิดการถล่มลงมาของตึก สตง. ซึ่งสะท้อนความเหลวเละจนเกินทนของระบบนี้

จึงทำให้ผมเห็นถึงความจำเป็นยิ่งยวดเร่งด่วนของการสร้างอนุสรณ์สถานแห่งความน่าละอายขึ้น”

อาจารย์ชาตรีบอกว่า คนที่ทำงานในระบบราชการอาจรู้สึกว่าข้อเสนอนี้มีอคติต่อพวกเขามากจนเกินไป

หรือไปไกลจนกระทั่งมองข้อเสนอนี้ว่าเป็นความคิดของพวก “ชังชาติ”

ที่คอยจ้องแต่จะหาข้อโจมตีหน่วยงานภาครัฐที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ

แต่อาจารย์ชาตรีได้ยกคำพูดของ Benedict Anderson ที่ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี พ.ศ.2548 มาให้อ่าน

อาจารย์เบนกล่าวตอนหนึ่งว่า

“หากคุณไม่รู้สึกอับอายเมื่อชาติของคุณทำผิด คุณก็ไม่มีทางเป็นผู้รักชาติที่แท้จริงได้”

“ถ้าคุณมีความรู้สึกละอายในชาติของตนเองด้วย (เมื่อชาติทำในสิ่งที่ผิด)

ความรู้สึกนี้จะกลายเป็นพลังอีกด้านที่สร้างสมดุล คอยตรวจสอบชาติว่ากำลังเดินไปในร่องในรอยที่ถูกต้องหรือไม่

และคอยตะโกนตักเตือนชาติเมื่อกำลังเดินหลงทาง”

 

ดังนั้น

เพื่อไม่ให้ “ชาติและเรา” หลงทาง

ข้อเสนอ “อนุสรณ์สถาน สตง. Ground Zero” จึงน่าพิจารณาไม่น้อย!?! •