ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 พฤษภาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | เขย่าสนาม |
เผยแพร่ |
พลันสิ้นเสียงนกหวีดที่ แอนฟิลด์ ซึ่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 5-1 เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2024/2025 ไปครองได้สำเร็จ
จากทีมที่ถูกกาชื่อว่าไม่น่ามีสิทธิเบียดแย่งแชมป์ได้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กลับหักทุกปากกาเซียนคว้าแชมป์ได้แม้จะยังเหลือเกมให้เล่นอีก 4 เกมด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเครดิตทั้งหมดควรยกให้กับ อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือชาวดัตช์ พร้อมนักเตะและทีมงานทุกภาคส่วน ที่มีส่วนช่วยให้ลิเวอร์พูลผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20
อย่างไรก็ตาม มันมีเรื่องราวเบื้องหลังที่ถูกเปิดเผยออกมา กับส่วนหนึ่งของความสำเร็จหงส์แดงในครั้งนี้
แฟนๆ “หงส์แดง” หลายคนอาจจะทราบ หรือบางคนไม่เคยทราบกันมาก่อนกับเรื่องราวความขัดแย้งของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ 2 ผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยช่วยกันพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 30 ปี เมื่อฤดูกาล 2019/2020
ทั้งสองคนขัดแย้งในเรื่องของแนวทางการทำงาน สุดท้ายเอ็ดเวิร์ดส์อำลาทีมไปในช่วงซัมเมอร์ 2022 จากนั้นภาระหน้าที่ของคล็อปป์ดูจะหนักขึ้น จนสุดท้ายเขาเอ่ยว่า “เขาหมดพลังในการไปต่อ” ในวันที่เขาประกาศว่าจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลเมื่อเดือนมกราคม 2024
หลังจากนั้นไม่นาน เอ็ดเวิร์ดส์ก็ได้รับการแต่งตั้งกลับมานั่งซีอีโอฟุตบอล ให้กับ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG) เจ้าของทีมลิเวอร์พูล
ทว่า เรื่องราวความลับที่เพิ่งมีการเปิดเผยออกมา ก็คือคล็อปป์กับเอ็ดเวิร์ดส์ กลับมาจับมือทำงานร่วมกัน นำมาซึ่งความสำเร็จของลิเวอร์พูลในวันนี้อีกครั้ง

เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยในคอลัมน์ของ คริส บาสคอมบ์ นักข่าวสายลิเวอร์พูลจาก เทเลกราฟ
ทั้งสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้งที่บ้านของคล็อปป์เมื่อเดือนมีนาคม 2024 เพื่อลบลืมเรื่องราวที่เคยบาดหมางกัน และร่วมกันพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมกับใช้เวลาช่วงสุดท้ายของคล็อปป์กับลิเวอร์พูลช่วยกันสร้างอนาคตที่สดใส
สำหรับคล็อปป์ เขาคือตำนานที่กำลังจะจากทีม ส่วนเอ็ดเวิร์ดส์กลับมานั่งตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมเมื่อตอนเขาออกไป ทั้งสองยอมหันหน้าคุยกันโดยมีความท้าทายที่จะต้องหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาทีมไป หรือการอำลา อาร์เซนอล ของ อาแซน เวนเกอร์
ย้อนกลับไปตอนเดือนพฤศจิกายน เมื่อคล็อปป์ตัดสินใจแจ้งกับ FSG ว่าเขาจะอำลาทีมไป ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงตื่นตระหนก เหมือนวันที่คล็อปป์ออกมาประกาศต่อสาธารณชนครั้งแรก แต่ทว่า บ้านใหญ่ที่บอสตันดูจะสงบนิ่งกว่าที่คาดกันเอาไว้
สาเหตุก็เพราะ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ กับ ทอม เวอร์เนอร์ เชื่อมั่นในกระบวนการสรรหาที่ตั้งเอาไว้ในแอนฟิลด์ ว่าจะทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
แม้ว่าชื่อแรกที่โผล่เข้ามาเป็นตัวแทนของคล็อปป์ คนจะพุ่งเป้าไปที่ ชาบี อลอนโซ่ ทำให้ทีมเร่งการประกาศอำลาของคล็อปป์ เพื่อให้เดินหน้าคุยกับอลอนโซ่ได้อย่างเต็มตัว
ทว่า ผู้บริหารกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะ ไมก์ กอร์ดอน ซีอีโอฟุตบอลของ FSG ในเวลานั้น (ก่อนเอ็ดเวิร์ดส์จะกลับมา) มองว่าเขาต้องวางโครงสร้างฟุตบอลแบบใหม่ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานชั้นยอด ให้คนที่มารับช่วงต่อไม่ต้องเจองานหนักเกินไป

สิ่งที่กอร์ดอนคิด คือการดึงเอ็ดเวิร์ดส์กลับมา เมื่อนำเรื่องนี้ไปบอกกลับคล็อปป์ ปฏิกิริยาของกุนซือชาวเยอรมัน กลายเป็นว่า “Michael Edwards? A f—ing great idea,” หรือภาษาไทยก็คือ “เ-ดเ-้ นี่มันไอเดียที่โคตรจึ้ง”
ก่อนหน้านี้กอร์ดอนอยากดึงเอ็ดเวิร์ดส์กลับมาอยู่กับเขาเสมอ ส่วนตัวเอ็ดเวิร์ดส์เองก็ได้รับความสนใจจากหลายที่ ทั้งแมนฯ ยู หรือแม้แต่เชลซีเอง ทว่า เจ้าตัวเลือกการกลับมาอยู่กับ FSG มารับตำแหน่งของกอร์ดอน เป็นอะไรที่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า
จากนั้นเอ็ดเวิร์ดส์ก็ไปหาคล็อปป์ที่บ้าน เพื่อวางแผนร่วมกัน
ลอร์ดเอ็ดของชาวหงส์แดง ทำการแต่งตั้ง ริชาร์ด ฮิวจ์ส จาก บอร์นมัธ มานั่งตำแหน่งของเขาตอนที่อำลาทีมไป (ผอ.กีฬา) ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้รับความไว้วางใจจากบ้านใหญ่ที่บอสตัน ในการสรรหาผู้จัดการทีมที่เหมาะสมกับตัวเอง
ในขณะที่ชาบี อลอนโซ่ แจ้งว่าจะอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ต่ออีกปี ขณะที่เป้าหมายรองอย่าง รูเบน อโมริม แม้จะได้รับคำชื่นชมค่อนข้างเยอะ แต่ปัญหาคือระบบการเล่นที่ไม่เอื้ออำนวยกับผู้เล่นที่มีอยู่
ลิเวอร์พูลมีระบบสถิติที่ยอดเยี่ยมในการจำลองแบบวิเคราะห์ต่างๆ
และผลออกมาว่า อาร์เน่อ ชล็อต มีคะแนนเป็นลำดับต้นๆ เมื่อการสัมภาษณ์ครั้งแรกของเขากับฮิวจ์สออกมาได้ดี ทำให้เขาถูกเลือกให้เป็นโค้ชคนใหม่ของลิเวอร์พูล
จากนั้นเมื่อเอาไปบอกคล็อปป์ว่าได้เลือกชล็อตเป็นผู้สืบทอดของเขา เขาก็ตอบเลยว่านี่คือการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม
มันทำให้นี่เป็นการเปลี่ยนถ่ายผู้จัดการทีมที่ราบรื่นที่สุดครั้งหนึ่งของลิเวอร์พูล นับตั้งแต่การที่ บิล แชงคลีย์ เลือก บ๊อบ เพสลีย์ ผู้ช่วยของเขาขึ้นมาทำหน้าที่ต่อเมื่อปี 1974 และถูกขนานนามเลยว่าเป็น “การส่งมอบที่ไร้ที่ติ”
ต้องขอบคุณอดีต 2 ผู้ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูล ที่ช่วยกันให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก
ยอมวางทิฐิที่เคยมีต่อกันมา กลับมาทำเพื่อสโมสรที่เขาทั้งสองคนรักไม่แพ้กัน
จนเป็นส่วนสำคัญให้การผลัดใบออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
และทีมคว้าแชมป์ลีกหนที่ 2 ในรอบ 5 ปีได้สำเร็จ •
เขย่าสนาม | Stivie Toon
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022