รักเขย่า-เขย่ารัก | สถานีคิดเลขที่12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

รักเขย่า-เขย่ารัก

 

แม้ทั้งน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายภูมิธรรม เวชยชัย และแกนนำในรัฐบาลอีกหลายคน

ยืนยัน ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี

แต่กระนั้น กระแสปรับคณะรัฐมนตรีก็ยังไม่ลดระดับลง

ตรงกันข้าม นับวัน กระแสนี้ยังขยายตัวโดยพิศดาร ยิ่งขึ้น

ล่าสุด นายภูมิธรรม ตกเป็นข่าวเสียเอง ว่าจะถูกสลับจากกระทรวงกลาโหม ไปนั่งเก้าอี้เดิมที่กระทรวงพาณิชย์

ซึ่งเจ้าตัวก็ดูงงๆ

แต่กระนั้นถามว่า พอมีโอกาส หรือมีเค้าไหม

ก็คงต้องตอบว่าพอมี

อย่างไรก็ตาม ก็คงต้อง”มโน”ต่อ กันให้มากๆหน่อยก็ดี

เพราะอย่างที่ทราบ”วิกฤตใหญ่”ของประเทศตอนนี้คือ “สงครามการค้า”ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก

ไทยเองนอกจากติดอันดับต้นๆที่ได้รับผลกระทบ

หนักยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังควานหา”ช่องทาง”ที่จะเข้าไปเจรจากับสหรัฐไม่เจอ

เลยต้อง”มโน”หรือ “ฟุ้งซ่าน”ไปล่วงหน้าหน่อยว่า หากข่าวลือนายภูมิธรรม ต้องโยกไปนั่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงที่ต้องเป็น”เสาหลัก”ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ

มิทำให้อุปสรรคขัดขวางที่เราต่อไม่ติดกับสหรัฐ เพิ่มยิ่งขึ้นหรือ

ต้องไม่ลืมว่า สหรัฐ แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงกับไทย กรณีส่งคนอุยกูร์กลับจีน

ถึงขนาดประกาศจะไม่ให้วีซ่าเข้าสหรัฐกับตัวแทนรัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

แม้ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง

แต่ก็สุ่มเสี่ยงสูงมากที่นายภูมิธรรม จะเป็น”เป้าหมาย”ถูกบอยคอต

ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ กองทัพภาคที่ 3 รวมถึง กอ.รมน.ภาค 3 กำลังเป็นคู่กรณีกับฝ่ายสหรัฐ

ในประเด็น”ละเอียดอ่อน”

โดยไปแจ้งข้อหา ม.112กับ ดร.พอล เวสลีย์ แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร

เรื่องนี้สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา จ้องตาเขม็ง

เพราะไปกระทบเรื่อง”สิทธิมนุษยชน” ที่สหรัฐแม้จะถูกกล่าวหาว่ามีหลายมาตรฐาน แต่เรื่องนี้มักถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นกับคู่กรณีเสมอ

ประกอบกับ กรณีดร.พอล นี้ จากการติดตามข่าว ฝ่ายกองทัพภายใต้การดูแลของนายภูมิธรรม ดูจะ”หลวมๆ”ไม่น้อย

ดังนั้น เมื่อประเด็นสิทธิมนุษชนจากอุยกูร์มาถึงดร.พอล ทำให้เรามี”ประเด็นไม่ราบรื่น”กับสหรัฐอยู่แล้ว

ก็เลย “มโม”ใน”มโน”ว่าเกิดนายภูมิธรรม กลับมาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

จะไม่ทำให้การคุยกับสหรัฐ ซึ่งยากอยู่แล้ว ไม่ยากขึ้นไปอีกหรือ

การปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้เป็นเรื่องภายในประเทศ แต่ก็อาจมีผลกระทบต่อประเด็นต่างประเทศ ซึ่งก็ต้องดูให้รอบคอบ

แต่ก็อย่างที่ว่า เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ยังอยู่ในระดับ “คาดหมาย”

จะเกิด หรือไม่เกิด ยังไม่มีใครตอบได้

แต่กระนั้นต้องยอมรับ ว่า ความคาดหมาย ก็ไปไกลแล้ว

ไกลจนแม้น.ส.แพทองธาร จะบอก(ยัง)ไม่ปรับๆ กระแสสังคมก็ยัง”ไม่เชื่อ”

ไม่เชื่อ เพราะ”มูลเชื้อ” หรือ “แรงเขย่า” มีให้เห็น ตลอดเวลา

ทั้งในพรรคเพื่อไทยเอง ที่ก็มีผู้หวังที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่

ทั้งในระหว่างพรรคร่วมโดยเฉพาะเพื่อไทยกับ ภูมิใจไทย ที่แม้แกนนำจะแสดงออกทั้งวาจา ทั้งการแสดงออกจากเดินกุมมือ ว่าไร้ปัญหากัน

แต่ สงครามตัวแทน โดยเฉพาะที่แสดงผ่านในสภาสูงเป็นไปอย่างเข้มข้น

ทั้งเรื่องที่อีกฝ่ายลุยเรื่อง”ฮั้วส.ว.”เต็มที่

อีกฝ่ายก็ลุยสะกัดนโยบายเรือธง”สถานบันเทิงครบวงจร”เต็มที่

ไม่มี”ประนีนอม”

เป็น”รัก”แบบมีแรง”เขย่า”อยู่ตลอดเวลา

เช่นนี้เองทำให้การจับตาหรือการคาดหมาย ถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างการปรับคณะรัฐมนตรี จึงถูกพูดถึงอย่างไม่สร่างซา

———————-