ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 พฤษภาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | เรื่องสั้น |
เผยแพร่ |
เรื่องสั้น | วาริส วารินทร์กวี
วันหาปลาเฟสติวัล
1.
ท่าเทียบเรือ
ดวงตะวันกลมโตคล้อยต่ำ แต่มันยังคงค้างอยู่ตรงปลายกิ่งต้นโกงกางริมคลองน้ำเค็มสายเล็ก ซากสัตว์ทะเลตายลอยล่องส่งกลิ่นเหม็นแห้งๆ คละคลุ้งไปตามช่วงจังหวะของสายลมพัด
เขาเลี้ยวรถเก๋งสีขาวมุก เข้าจอดหน้าบันไดคอนกรีตทางขึ้นท่าเทียบเรือเจ๊ะปาดัง พร้อมเปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถ มือขวาคีบบุหรี่มาร์ลโบโร ส่วนมือซ้ายถือไฟแช็กไทโย เขากวาดสายตามองไปยังจุดขึ้นเรือโดยสาร มันทั้งเงียบและสงบ จนได้ยินเสียงคลื่นเซาะเสาปูนเบื้องล่าง
ตามปกติเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน เขาจะมารับภรรยาที่ท่าเรือแห่งนี้ หล่อนขึ้นเรือมาจากเกาะกำปงรายา เวลาห้าโมงตรง ผู้คนจอแจเนื่องจากมารับคนรัก ญาติ หรือมิตรสหาย วันนี้กลับผิดวิสัย นั่นทำให้เขาเกิดความรู้สึกสงสัย ผู้คนหายไปไหนกันหมด พื้นที่กลับเวิ้งว้างสงัดเงียบราวกับยืนอยู่บนสุสานริมทะเล
พลันความคิดกำลังจะเดินทาง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มกดรับทันที “อัสลามูอาลัยกุมน้อง” เขารอฟัง “วาอาลัยกุมมุสลามบัง บังมารอน้องแล้วใช่ม้าย” นิด้าถามผู้เป็นสามี “ใช่ ตอนนี้บังรออยู่ที่ท่าเรือ” เขาเริ่มสงสัย
“วันนี้บังกลับไปก่อนเลยนะ น้องไม่ได้กลับแล้วขอมาอัฟด้วย ชาวประมงบ้านกำปงรายากับชาวเกาะแถบนี้เขาออกทะเลกันหมดเลย ไปหาปลาแลกเบี้ย” เขาได้ยินเช่นนั้นก็ฉงนหนัก
“คนขับเรือโดยสารงดรับคน เขาออกเลกันหมดแล้ว ให้มารับวันไหนเดี๋ยวน้องค่อยบอกอีกทีนะ” ไม่ทันบอกลา หล่อนกดวางสายสามี เหมือนมีเด็กมือซนกดปิดสวิตช์ไฟ
เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของชายหนุ่ม หลุดลอยไปพร้อมกับมวลสายลมระลอกหนึ่ง ซึ่งพัดพากลิ่นซากสัตว์ทะเลให้ปกคลุมทั่วบริเวณท่าเรือ
2.
ชายพิการ
เขากำลังก้าวเท้าลงบันไดขั้นสุดท้าย ทันใดนั้น มีชายอีกคนเดินเข้ามาทักทาย
“จะไปไหนน้องบ่าว”
เขาพิจารณาชายอีกคนชั่วครู่ อายุอานามประมาณสามสิบห้าถึงสี่สิบปี แขนข้างซ้ายด้วนกุดถึงข้อศอก ชายพิการเดินเข้ามาโซซัดโซเซราวกับคนที่โดนฤทธิ์สุรากล่อมเพลงให้ฟัง “มารับเมีย แต่วันนี้ไม่มีเรือมาส่ง” ชายพิการยิ้ม “วันนี้เขาไปหาปลาน้องไม่รู้เห้อ” แม้เสียงจะอู้อี้เหมือนคนเคี้ยวลิ้น แต่ยังพอฟังเข้าใจ
“ปลาอะไรครับ”
“ปลาใบนุ่น”
ชายพิการเล่าว่าเดิมทีเขาไม่ใช่คนสตูล บ้านเกิดอยู่อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช แต่ด้วยความฝันของวัยหนุ่ม พลังชีวิตซัดพัดพา เขาเริ่มทำงานเป็นคนล้างผักล้างจานในร้านภัตตาคารแห่งหนึ่งในเกาะลังกาวี “ตอนนั้นชีวิตดี มีเงินใช้ บังขึ้นบกเมื่อไหร่ต้องเที่ยวร้านธาม ในตัวเมืองสตูลทุกที ตอนนี้ร้านนั้นปิดไปแล้ว อยู่ข้างๆ ร้านพริกไทยนั่นล่ะ” เขาพยายามอธิบายรายละเอียด
“อ้อ ตอนนั้นร่างกายบังยังไม่เป็นพรรค์นี้” เขายกแขนข้างด้วนกุดและบิดงอให้ผมดูเพื่อเป็นการยืนยัน
จากการยืนคุยกับแก จึงรู้ว่าชื่อเด๊ะ คำว่า ‘เด๊ะ’ ในภาษามลายูนั้นแปลว่าน้อง ส่วนคำว่าบังหรืออาบัง แปลว่าพี่ชาย เมื่อชายหนุ่มต้องเรียกแกว่าบังเด๊ะ ช่างรู้สึกแปลกพิกล
อุบัติเหตุจากการซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ชนกับสิบล้อที่วงเวียนหอนาฬิกา ใกล้ๆ กับมัสยิดมำบัง ในขณะที่พี่น้องมุสลิมกำลังละหมาดยุมอัตวันศุกร์ “บังเป็นมุสลิมจาหลากา ถูกแล้วที่อัลเลาะห์ลงโทษบัง”
ถึงตอนนี้ดูเหมือนบังเด๊ะจะพล่ามไปเรื่อยไม่สิ้นสุด โดยลืมเหตุการณ์ประหลาดวันนี้ ระหว่างที่คุยกัน แกยังไม่เล่าถึงเหตุการณ์ประหลาดประจำวัน การออกเรือไปหาปลาแต่กลับควักกระปุกน้ำมันโอสถทิพย์ออกมาจากย่าม
“นวดเท้าไหมน้อง เดี๋ยวบังนวดให้ฟรี” แน่นอนชายหนุ่มตอบรับ และปฏิเสธการนวดฟรี แสงแดดอมส้มแสดสาดส่องสู่ผืนน้ำเค็มเบื้องล่างราวกับว่ามันเป็นทะเลน้ำส้ม เขากำลังครุ่นคิดถึงผู้คนที่หายไปตามหาฝูงปลา
“ปากพนังสายน้ำดังเป็นสายเลือด
บัดนี้แห้งเหือดสายเลือดไม่เหลือสัมพันธ์
ผู้คนเงียบเหงาความเศร้าครอบครองดินแดน
ไร้สิ่งที่เคยหวงแหนนากุ้งทดแทนแผ่นผืนดินแดน
สายน้ำสายนี้หรือคนเขาชัง
ลุ่มน้ำปากนังแหล่งรวมอารยธรรม
ปู่ย่าตายยายสอนไว้เราไม่เคยจำ
สายน้ำสายเลือดชอกช้ำ ลูกหลานกระทำเหมือนเนรคุณ”
ด้วยบรรยากาศและอารมณ์ใดนั้นไม่อาจทราบได้ บังเด๊ะจึงพรั่งพรูเพลงสายน้ำ…สายเลือด
ของวงมาลีฮวนน่า ให้ฟัง
“เอาะ คนปากพนังจริง ผมเชื่อแล้ว” ชายหนุ่มยอมรับ
บังเด๊ะกวาดสายตาไปสู่ขอบฟ้ากว้างเบื้องหน้าที่มีน้ำทะเลเป็นกระเบื้อง ชายหนุ่มว่าปลาในทะเลเจ๊ะปาดัง ไม่หวานมันเท่ากับทะเลปากพนังบ้านเขา ผมได้ยินเช่นนั้นราวกับว่ามีคลื่นลูกหนึ่งมาซัดหัวใจให้พินิจพิเคราะห์ถึงชายผู้พลัดถิ่นคนนี้ คำพูดของเขาวนเวียนอยู่ในความคิดของผม ปลามันกว่า เนื้อหวานกว่า บังเด๊ะเน้นย้ำ
ดวงไฟนีออนที่ท่าเทียบเรือกะพริบขึ้น จากนั้นมันก็สว่างจ้า ผมยื่นบุหรี่ให้บังเด๊ะหนึ่งมวนพร้อมเงินอีกห้าสิบบาท ขณะก้าวเดินลงไปที่รถ ชายพิการตะโกนบอก “ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน”
คราวนี้ชายหนุ่มยิ้มเป็นการรับรู้ เสียงอะซานดังขึ้นจากลำโพงเก่าๆ จากสุเหร่าประจำหมู่บ้านชายทะเล ฝูงนกนางนวลเหนือฟ้าเบื้องบนและฝูงค้างคาว เรียงขบวนกลับโถงถ้ำ
3.
เลือดประมง
ซอบัสถูกพี่ชายอย่างกาหรีมเขย่าปลุกจากการหลับใหล “ตื่นบัสตื่น ป๊ะว่าไปออกเลจับปลา ตามล่าริสกี”
สองพี่น้องออกจากระบบการศึกษามาตั้งแต่ปีก่อน คนพี่อายุสิบแปดปี ส่วนคนน้องอายุสิบหกปี ผู้เป็นพ่อกำลังกุลีกุจอกับจัดอวนตาข่ายให้เข้าที่ ส่วนแม่เจียวไข่พร้อมจัดเสบียง
พ่อของพวกเขาบอกเสมอว่าในทะเลนั้นเป็นสนามชีวิตของลูกผู้ชายโดยแท้จริง ใครอ่อนแอก็พ่ายแพ้ไปในสนามน้ำเค็ม
“ซอบัสมาเอาของกินไปขึ้นเรือได้แล้ว” ผู้เป็นแม่สำทับจากในครัว ขณะที่พี่ชายกำลังเพ่งสายตาไปยังจุดตัดระหว่างผืนน้ำกับท้องฟ้า ชุมชนบ้านกายิงยังคงขึ้นชื่อเรื่องความแออัดคับแคบของการปลูกบ้านสร้างเรือน
ผู้เป็นพ่ออย่างฟุรกอนกำลังมองสถาปัตยกรรมของมลายูที่ยุ่งเหยิงอยู่นั่นเอง บ้านเรือนไหนมีลูกชายวัยฉกรรจ์ห้าวหาญชาญทะเลจะได้เปรียบ ในการจับปลาต้องมีทั้งมันสมองและพละกำลัง
คนชรา เด็ก และลูกสาวจะให้อยู่บ้านคอยดูแลบ้าน ดูแลครอบครัว สาเหตุที่ต้องเรียกลูกสาวคือผู้หญิงโดยเพศกำเนิด แต่ลูกสาวที่ว่าคือเพศกำเนิดผู้ชายแต่ใจเป็นหญิง แม้ร่างกายของพวกเธอจะเปลี่ยนไปเป็นหญิงสาวบอบบางคนหนึ่งแล้วก็ตาม
“ไป ฟาริสกูอายคน ไปเปลี่ยนชุดลงเลกับป๊ะ” เสียงตะโกนบอกลูกสาวเทียมของยูโซบชายชาวประมงละแวกบ้าน กำลังโหวกเหวกโวยวายตั้งแต่เช้าตรู่
บัดนี้ ทะเลมีคลื่นผู้คนชาวบ้านมากมายหลั่งไหลลงไป ราวกับฝูงแมลงวันตกน้ำที่ลอยเท้งเต้งในอ่างน้ำขนาดใหญ่ นายกเทศมนตรียังคงยืนยันว่าวันนี้อากาศดีเหมาะแก่การจัดงานวันหาปลาเฟสติวัล ครั้งที่หนึ่ง ท่านชุกกรี ตูวาปีนัง ดีใจออกหน้าออกตา ขนาดว่าเพิ่งรับตำแหน่งมาไม่ถึงปี มีเรื่องให้ชาวบ้านยิ้มอย่างหน้าชื่นตาบาน
“เราชาวเลแค่จับปลานั้นไม่กลัวหรอก นี่นายกแกยืนยันตัวละพัน ดีหวาขายปลาลังเทศโลยี่สิบบาท ป๊ะว่ามันไม่คุ้ม มึงทั้งสองคนต้องช่วยกัน” ฟุรกอนย้ำกับลูกชายทั้งสองคน
4.
ห้องเทศมนตรี
เลขาฯ คนสวยกำลังกดรีโมตเพื่อปรับอุณหภูมิความเย็นให้แก่ห้องประชุม ขณะที่ท่านนายกเทศมนตรีกำลังเคาะซองบุหรี่หนีภาษีจากประเทศมาเลเซีย กำลังแบ่งกันสูบกับสมาชิกท่านอื่นๆ ในห้องรับแขกข้างล่าง
บนโต๊ะยาวทรงตัวยูถูกจัดไว้อย่างสมเกียรติให้น้องๆ บัณฑิตอาสากุลีกุจอกับการจับจีบผ้า วางป้ายชื่อและตำแหน่งของผู้เข้าร่วมการประชุม รวมไปถึงจัดเรียงข้าวเหนียวอัดอัญชันกินคู่กับสังขยาสูตรโบราณและกาแฟซอง
สิบนาทีผ่านไปท่านชุกกรี ตูวาปีนัง เดินขึ้นมาสู่ห้องประชุมชั้นสอง ท่านค่อยๆ เปิดประตูอย่างระมัดระวัง คล้ายท่านเคยมีประสบการณ์การย่องเบา ไอความเย็นทำให้เขาขนลุก คณะกรรมการทุกคนร่วมลุกขึ้นยืนต้อนรับเพื่อให้เกียรติ ผู้กล่าวรายงานกำลังพูดถึงลำดับรายการหัวข้อการประชุมตามวาระ
ท่านนายกสะบัดข้อมือเบาๆ ส่งสัญญาณว่าให้โฆษกหนุ่มหยุดพูดไว้แค่นั้น
“ฮาย…ไม่พักทางกงทางการนิ โบกันเองทั้งเพ” ผู้เข้าร่วมประชุมต่างหัวเราะและแย้มยิ้มปลื้มปีติในความเป็นสามัญชนคนธรรมดาของท่านนายกเทศมนตรีคนนี้ ท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตาและคุณธรรม
ท่านนายกเทศมนตรีเปิดประเด็นเริ่มคุยด้วยการอำสมาชิกว่ามีใครหนีการประชุมเพื่อออกไปหาปลาใบนุ่นบ้าง ซึ่งสมาชิกในที่ประชุมก็ช่วยกันหัวเราะเสียงคึกคักเฮฮาเอาอกเอาใจ
ชายคนหนึ่งยกแก้วกาแฟลายดอกกาหลงขึ้นมาจิบ “ผมว่าเรามาลู่ทางที่ถูกต้องนะครับ นี่เป็นการช่วยเหลือเยียวยาให้พวกเขารู้จักระบบการทำงานและการตอบแทน” ผู้ร่วมการประชุมช่วยกันพยักหน้าทันที
“เราไม่ได้แจกเงิน เราไม่ได้ยื่นเงินให้เปล่าๆ เราสอนให้เขาได้ทำมาหากิน สอนให้ทุกคนรู้จักคุณค่าของเงิน ทำให้สมาชิกครอบครัว รู้รักสามัคคี กลมเกลียว ชาวประมงต้องไม่ยากจน วันหาปลาเฟสติวัลของเราตอนนี้ เริ่มเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ ลูกหลานเราออกทะเลหาปลามาขาย พวกเขาถ่ายคลิปไว้ด้วยตอนรับเงิน ดูสิครับเขามีความสุขกันหนัดนิ”
ทันใดนั้นมีสายเรียกเข้า ท่านนายกเทศมนตรีป้ายแดงคลำหาโทรศัพท์ iPhone 16 Pro Max ในกระเป๋ากางเกง แสดงชื่อ ‘ผู้ใหญ่ราบูท’
เขารับโทรศัพท์ถอยออกจากไมโครโฟนสองก้าว คุยมุบมิบจนได้รู้เรื่องว่านายฮาซันลูกบ้านหมู่หก เป็นลมแดด ตายในทะเลแล้ว
“อินนาลิลลาฮิวะอินนาอิลัยฮิรอญิอูน” สมาชิกทุกคนกล่าวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ท่านนายกเทศมนตรีรีบประสานรถส่งน้ำดื่มของโกเต็ก ท่าน ส.ส.ในเขตพื้นที่ “เราเจียดเงินที่เหลือจากงบประมาณซ่อมถนนไปใส่ซองให้ครอบครัวผู้ตายด้วยน้อ” นายกเทศมนตรียกแก้วกาแฟดำใส่น้ำตาลทรายแดงขึ้นซดมีเสียงดัง “หวู้ด” ออกลำโพง
นอกหน้าต่างห้องประชุม คือคลองน้ำเค็ม เรือไม้ประมงลำหนึ่งแล่นตัดเกลียวคลื่น ผ่านเขตทิวป่าโกงกาง สายลมกระโชกแรง ทำให้ลำต้นแข็งแรงของมันโน้มตัวลงราวกับยักษ์กำลังโค้งคำนับ คล้ายนี่เป็นค่ำคืนลัยละตุลก็อดร์
นายกเทศมนตรีชุกกรี ตูวาปีนัง ลุกขึ้นพรวดแล้วตบโต๊ะแรงๆ หนึ่งที “เอ้า! ประชุมกันต่อ” ขณะนั้นเลขาฯ คนสวยเดินไปหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศ เพื่อเพิ่มความเย็นให้ห้องประชุมอีกสององศาเซลเซียส •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022