คดี BMW ชนกระบะลุง-ป้า ทำสะเทือนทั้ง ตร.-การเมือง สะท้านถึง ‘เลือกตั้งท้องถิ่น’ คลิปหน้ารถมัดเจอ 4 ข้อหา

อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

 

คดี BMW ชนกระบะลุง-ป้า

ทำสะเทือนทั้ง ตร.-การเมือง

สะท้านถึง ‘เลือกตั้งท้องถิ่น’

คลิปหน้ารถมัดเจอ 4 ข้อหา

 

วลีที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” สะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคม จึงไม่แปลกที่คดีของนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช จะถูกจับจ้องจากสังคมเป็นพิเศษ

ประการหนึ่งนายสมิทธิพัฒน์เป็นลูกชายคนเล็กของนายกฤษดา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี บ้านใหญ่ธัญบุรี ที่เพิ่งหมดวาระไป

โดยรอบนี้เจ้าตัวให้นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ ภรรยาลงชิงนายกแทน ในนามทีมธัญญก้าวหน้า ซึ่งนายสมิทธิพัฒน์ก็ลงชิง สท.ลำลูกกา ในทีมของแม่ด้วย

อีกประการคือ พฤติกรรมอวดอ้าง ด้วยประโยคเด็ดที่ว่า “ผมเป็นหลานน้าต่าย” ที่หมายถึง ‘บิ๊กต่าย’ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

คดีนี้จึงสะเทือนไปทั้งวงการตำรวจและการเมือง ก่อนจะโดนโต้กลับอย่างหนัก

ย้อนไปเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 เมษายน พ.ต.ท.จำเริญ หนูรัก สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันบริเวณถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน หลัก กม.ที่ 23+400 มุ่งหน้าบางปะอิน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าที่กู้ภัยทางหลวง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ท-6523 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนกับรถกระบะ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บว-2775 ลำปาง โดยพบผู้บาดเจ็บเป็นผู้ขับขี่และโดยสารมากับรถกระบะคันดังกล่าว

ทราบชื่อต่อมาคือ นายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี สองสามีภรรยา เจ้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2

ส่วนคู่กรณีที่ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูคือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช ลูกชายคนเล็กของนายกฤษดา หลีนวรัตน์ หรือ ‘นายกเบี้ยว’ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเดินทางไปที่โรงพักก่อนให้การในเบื้องต้นว่า มีการขับรถปาดหน้ากันมาก่อน มาถึงจุดเกิดเหตุแล้วเกิดชนกัน

พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ตรวจรถBMW

ขณะที่นางสมศรีให้การว่า ป้ากับลุงมาจากบ้านลูกสาวที่พัทยากำลังกลับลำปาง จู่ๆ คนขับบีเอ็มดับเบิลยูขับรถมาเทียบตะโกนโวยวายบอกว่าลุงขับเบียดรถเขา เลยบอกว่าจอดได้ไหม ลุงบอกว่าไม่ต้องจอดเพราะกลัวเขามีอาวุธ ดูมีอาการดุ และมีการตะโกนใส่ ตนและสามียกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่คนขับไม่ยอมยังปาดหน้าซ้ายขวาไปมา ก่อนจะขับรถกระแทกจนเกิดชนกัน ป้ากระแทกกับสายเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนลุงกระดูกซี่โครงร้าวและจุกหน้าอกยังอยู่ในห้องไอซียู

ด้าน พ.ต.ท.จำเริญให้สัมภาษณ์ว่า ตรวจวัดแอลกอฮอร์ในร่างกายของคนขับรถบีเอ็มดับเบิลยู ป้ายแดง พบแอลกอฮอร์เป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนอาการของคนเจ็บต้องรอผลแพทย์ก่อน

แต่คดีที่ควรจะจบลงด้วยข้อหา “ขับรถโดยประมาท” กลับลุกลามบานปลายกลายเป็นคดีอาญา เพราะพฤติกรรมของนายพีช ทั้งลงมาโวยวายใส่ลุง-ป้าคู่กรณีด้วยความโมโห โดยไม่สนว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ทั้งคู่บาดเจ็บ ทั้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลการจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุ ว่าเป็นลูกหลานตำรวจเหมือนกัน “ผมเป็นหลานน้าต่าย”

จนสุดท้ายถูกแฉด้วยคลิปจากกล้องหน้ารถของผู้ที่ขับตามมาว่าจริงๆ แล้วเป็นการจงใจขับเบียดรถของลุง-ป้าจนเกิดอุบัติเหตุ

ด้านลูกของลุง-ป้าร้องขอให้ ‘กัน จอมพลัง’ ช่วยเหลือ ทั้งเรื่องคดีและความปลอดภัย

หลังถูกแฉด้วยคลิปชัดเจนจนโดนสังคมกดดันอย่างหนัก ‘นายพีช’ ที่หลังเกิดเหตุเก็บตัวเงียบ ปล่อยให้ ‘นายกเบี้ยว’ ผู้เป็นบิดา ออกหน้าขอเคลียร์กับฝ่ายผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเพราะโมโหที่ถูกลุงขับปาดหน้าบริเวณหลังด่านเก็บเงิน จนรถไปชนขอบทาง เลยขับตามมาเรียกให้จอด แต่ลุงไม่ยอมจอด เลยพยายามขับปาดจนเกิดชนกัน

ทั้งพยายามแสดงความสำนึกผิดด้วยการคุกเข่าขอโทษลูกของลุงในวันที่มาให้การที่ สภ.ลำลูกกา และนำเงินมาช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ฝ่ายคู่กรณีไม่ยอมรับ โดย ‘กัน จอมพลัง’ ให้เหตุผลว่า เจ้าตัวไม่ได้จริงใจ แต่ต้องการสร้างภาพเพื่อนำไปใช้ขอลดโทษในชั้นศาลเท่านั้น

นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช สวมเสือทีมหาเสียงลงมาดู ก่อนไปเปลี่ยน

เพราะพฤติกรรมของ ‘นายพีช’ คนแรกที่โดนกระทบเต็มๆ คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ต้องรีบออกมาโต้ทันควันว่า ไม่มีญาติเช่นนี้ ฟังแล้วรู้สึกไม่รื่นหู เหตุใดจึงกระทำผิดแล้วมาแสดงออกแบบนี้ ไม่เข้าใจ พร้อมย้ำว่ามีลูกคนเดียว และสั่งสอนว่าอย่าทำตัวเป็นขยะสังคม แต่ถ้าทำอะไรผิดขึ้นมา แม้จะเป็นลูกของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็จะไม่ช่วยเหลือ

ขณะนี้ได้เน้นย้ำไปยังตำรวจทางหลวง และตำรวจพื้นที่ สภ.ลำลูกกา ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ ‘นายกเบี้ยว’ รวมทั้งนโยบายที่สั่งให้ตำรวจทั่วประเทศวางตัวเป็นมิตรกับประชาชนดุจญาติ การเรียกว่าเป็นน้า เป็นอา เป็นเรื่องที่พึงพอใจ ดีกว่าใช้สรรพนามเรียกว่าท่าน แต่ขอให้สังคมแยกแยะเรื่องของการรู้จักกัน กับเรื่องการที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ในส่วนของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกสังคมจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะออกมาเช่นไร

นายพีช คุกเข่าขอโทษลูกลุง-ป้าที่หน้าโรงพักลำลูกกา

วันที่ 19 เมษายน พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.8 บก.ทล. เปิดเผยว่า การทำคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยตำรวจทางหลวงจะรับผิดชอบในส่วนแรก คือช่วงที่รถทั้งสองคันได้ขับออกจากช่องทางจ่ายเงิน M-Flow จากนั้นรถกระบะได้เบี่ยงจากเลนซ้ายไปขวา โดยไม่เปิดสัญญาณไฟจราจร ส่วนรถบีเอ็มดับเบิลยูอยู่ในเลนขวาไม่ได้มีการชะลอความเร็ว ทำให้เกิดเหตุปาดกันขึ้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก กับทั้งสองฝ่าย มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท

นอกจากนี้ ในส่วนของนายพีชก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มอีกคือ ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต เพราะตรวจสอบแล้วพบว่าใบขับขี่หมดอายุไปตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2564 และในเรื่องความเร็วที่ใช้ระหว่างเข้าด่านเก็บเงิน M-Flow ที่จะเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากในวันดังกล่าวเป็นวันหยุดสงกรานต์ ไม่เสียค่าบริการ นอกจากนี้จะตรวจสอบทะเบียนป้ายแดงของรถบีเอ็มดับเบิลยูว่าใช้ที่ป้ายที่ขนส่งออกให้หรือไม่

ส่วน พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สภ.ลำลูกกา เผยในส่วนของคดีอาญาว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายพีช 4 ข้อหา ฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส (ลุง), ทำร้ายร่างกายผู้ให้ได้รับบาดเจ็บ (ป้า) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์”

นายกเบี้ยว พานายพีช มาเยี่ยมลุงที่โรงพยาบาล แต่ถูกปฏิเสธ

คดีของนายพีชยังลุกลามไปได้อีก เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘สป.สายไหม’ ที่ออกตัวว่ามีความสนิทสนมนับถือ ‘นายกเบี้ยว’ ออกมาโพสต์ต่อว่า ‘กัน จอมพลัง’ ก่อนจะโดนสวนกลับเรื่องที่เจ้าตัวมีพฤติกรรมโปรโมตเว็บพนัน ซึ่งเจ้าตัวก็รับเองว่ามีอาชีพเป็นนักพนัน แต่ไม่ใช่เจ้าของเว็บพนัน พร้อมยินดีให้ตำรวจตรวจสอบ แต่เรียกร้องให้ตรวจสอบทั้งสองฝ่าย ก่อนที่ต่อมา ‘กัน จอมพลัง’ นำหลักฐานเข้าแจ้งให้ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบ

กระทั่ง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เผยว่า เบื้องต้นพบเข้าข่ายการโฆษณาเล่นการพนันออนไลน์ในส่วนนี้ จะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนอัตราโทษในข้อหา “ชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์” ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

‘เต้ พระราม 7’ หรือนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ก็เป็นอีกคนที่กระโดดเข้ามาร่วมวงด้วย โดยได้โพสต์ว่า “ฝากถึงน้องกัน จอมพลัง ถอยเถอะน้อง นายใหญ่ สั่งพี่ชายนายมาแล้ว นายไม่ถอย มัวแต่เชื่อเอฟซีมาก จำบทเรียนของทนายตั้มไว้ เคยดังขีดสุด เอฟซีช่วยไม่ได้นะ คดีจะมาเพียบ”

ไม่จบแค่นั้น เต้ยังปูดข้อมูลด้วยว่า ได้รับข้อมูลว่ามีการจ้างมือปืน โดยวางมัดจำค่าจ้างไปแล้วถึง 500,000 บาท ทำให้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ล่าสุดเพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้ โพสต์ข้อความถึง ‘เต้ พระราม 7’ ว่า “ตอนนี้ตามีอาการหลอนผวาหนักในห้องไอซียู กลัวคนมาทำร้ายหลังที่เต้ออกมาพูดว่ามีคนตั้งค่าหัวผม เต้หุบปากเหอะ ไม่ต้องมายุ่ง หัดคิดถึงความรู้สึกตายายบ้าง แม่งมั่วตั้งแต่ละครเรื่องนายใหญ่ละ”

คดีของนายพีชสะท้อนสายตาของคนในสังคม ต่อกระบวนการยุติธรรมที่ถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับคนรวย คนมีอำนาจ ส่วนจะจบลงเช่นไรคงต้องแล้วแต่ศาลเป็นผู้ตัดสิน

แต่ที่สังคมจับตาดูอีกส่วนหนึ่งคือ คดีนี้จะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งนายกและสมาชิกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ที่งวดเข้ามาทุกทีหรือไม่

นาทีBMWป้ายแดงปาดชน
ตำรวจลำลูกกาชี้แจงประเด็นรถBMWจอดในที่เก็บของกลาง
ชาวปทุมธานีส่วนหนึ่งออกมาแสดงความไม่พอใจพฤติกรรมของนายพีช