คอลัมน์ประจำ

ส่องเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครฯ วัดพลังพรรคร่วมรัฐบาล ภท.-กล้าธรรม-ปชป. ประชันกำลัง

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2568
คอลัมน์ในประเทศ
เผยแพร่

ส่องเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครฯ

วัดพลังพรรคร่วมรัฐบาล

ภท.-กล้าธรรม-ปชป. ประชันกำลัง

ภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง “นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นระยะเวลา 10 ปี พร้อมให้ชดใช้ค่าจัดการเลือกตั้ง ประมาณ 8 ล้านบาท ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฐานกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

คดีนี้ กกต.ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล เนื่องจากปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า สนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง

ซึ่งผลจากคำพิพากษาครั้งนี้ ส่งผลให้ กกต.ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง

โดย กกต.ได้มีประกาศกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 เป็นวันเลือกตั้ง และได้เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 2-6 เมษายนที่ผ่านมา

สนามการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ครั้งนี้ แม้จะเหลือวาระแค่ประมาณ 2 ปี แต่ก็ต้องยอมรับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ค่อนข้างเนื้อหอม เนื่องจากมีหลายพรรคการเมืองต้องการ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรคใหญ่ ซึ่งส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ทำให้การแข่งขันสนามเลือกซ่อมครั้งนี้มีความเข้มข้นและดุเดือดพอสมควร

ทั้งนี้ การเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง ประกอบด้วย 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฉวาง อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง และอำเภอนาบอน การเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ได้รับคะแนนเสียง 23,393 คะแนน เอาชนะคู่แข่งจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ภายหลังการปิดรับสมัคร พบว่า มีผู้สมัครลงท้าชิงเก้าอี้ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 ด้วยกันจำนวน 6 คน

ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคประชาชน (ปชน.) พรรคกล้าธรรม (กธ.) พรรคพร้อม และพรรคทางเลือกใหม่

การแข่งขันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราชในครั้งนี้ พบว่า บรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ต่างตัดสินใจส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ คือ พรรคภูมิใจไทยในฐานะแชมป์เก่าเจ้าของเก้าอี้เดิม ตัดสินใจส่งนายไสว เลื่องสีนิล สามีของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ลงสมัครเพื่อรักษาเก้าอี้ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย

พรรคได้มอบหมายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะแกนนําพรรคภูมิใจไทย ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้ เป็นแม่ทัพนำทีมสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพื่อหวังคว้าชัยชนะนำเก้าอี้ ส.ส.ที่เสียไปกลับคืนมาให้ได้

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ส่งนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย ลงท้าชิงเก้าอี้

โดยมีความมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ เนื่องจากนายชินวรณ์เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ รวมทั้งมีประสบการณ์ทางการเมือง เข้าใจปัญหาในพื้นที่เป็นอย่างดี

ไฮไลต์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ชูยุทธศาสตร์การหาเสียง โดยยึดหลักการและกติกาอย่างเคร่งครัด แข่งขันการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส และยุติธรรม เดินเท้าเคาะประตูบ้าน

มีแกนนำพรรคและ ส.ส.มาลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งและซัพพอร์ตกันเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้งนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ โพสต์ข้อความเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่เหลือร่วมสร้างอุดมการณ์ในการหาเสียง เนื่องจากพบข้อมูลเรื่องทุจริตการเลือกตั้งซ่อมในเขต 8 นครศรีธรรมราช ของ 2 พรรคการเมืองอีกแล้ว

นอกจากนี้ นายชินวรณ์มีการระบุด้วยว่า “จ่ายหัวคะแนนใหญ่คนละ 30,000 บาท หัวคะแนนระดับหมู่บ้านคนละ 20,000 บาท หัวคะแนนที่ทำบัญชีรายชื่อคนละ 10,000 บาท เพื่อให้ไปจ่ายซื้อเสียง 50 คน คนละ 1,000 บาท มีหลักฐานระดับหนึ่งแล้ว ผมขอให้นักการเมืองที่เป็นผู้สมัครทุกคนสู้กันด้วยอุดมการณ์ ไม่อยากเห็น กกต.ให้ใบแดงรอบสองครับ”

ส่วนพรรคกล้าธรรม (กธ.) ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็นอีกหนึ่งพรรคร่วมรัฐบาล ที่ประกาศขอท้าชิงเก้าอี้ ส.ส.

โดยได้ส่งนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ ส.จ.โอ ลงสมัครเลือกตั้งสนามการเมืองระดับชาติ พร้อมกับประกาศปักธงคว้าชัยชนะ

เป้าหมายสำคัญคือ การพา ส.ส.คนที่ 25 เข้าสภาในฐานะตัวแทนชาวบ้าน เขตเลือกตั้งที่ 8 จ.นครศรีธรรมราช จากพรรคกล้าธรรมให้ได้

ทว่า การที่พรรคกล้าธรรมส่งผู้สมัครลงท้าชิงเก้าอี้ ส.ส. สนามเลือกตั้งเมืองคอน เขตเลือกตั้งที่ 8 ซึ่งเจ้าของพื้นที่เดิมเป็นของพรรคภูมิใจไทยนั้น แน่นอนว่าทุกสายตาต่างพุ่งเป้าโฟกัสและจับจ้องเป็นพิเศษ อีกทั้งแกนนำพรรคทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เตรียมลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายเต็มที่

ต้องรอดูกันว่า พรรคกล้าธรรมจะสามารถคว้าชัยชนะเหนืออดีตเจ้าของพื้นที่เดิมมาได้หรือไม่

ฟากพรรคประชาชน (ปชน.) แม้ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ก็ประกาศสู้เต็มที่ ส่งนายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อต้องการมาปักธงส้มในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 8 โดยพรรควางยุทธศาสตร์ให้นายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง พิสูจน์ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความรู้ความสามารถหลังจากตลอด 1 ปีที่ผ่านมาได้ทำงานพื้นที่ในฐานะประชาชนคนธรรมดา

นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครอีก 2 คน ที่ลงท้าชิงเก้าอี้ คือ ว่าที่ พ.ต.กวี ไกรทอง จากพรรคพร้อม และนายพิษณุ รสมาลี จากพรรคทางเลือกใหม่

อย่างไรก็ดี ยิ่งเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้าย บรรยากาศการแข่งขันยิ่งเข้มข้น เพราะแต่ละพรรคต่างระดมสรรพกำลังลงพื้นที่หาเสียงอย่างเต็มที่

อีกทั้งการที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 3 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคกล้าธรรม ส่งผู้สมัครลงแข่งขันสู้กันเอง ตัดคะแนนกันเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้สนามเลือกตั้งเมืองคอน เขตเลือกตั้งที่ 8 มีความเข้มข้นเพิ่มเป็นทวีคูณ

แม้ว่าจะเป็นการได้ ส.ส.แค่ 1 ที่นั่ง แต่ผลลัพธ์เชื่อว่าจะสะท้อนภาพรวมการเลือกตั้งในอนาคตได้พอสมควร

ฉะนั้น การเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งจะเปิดคูหาให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน

ต้องรอดูว่าหลังปิดหีบ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จะเทคะแนนให้ผู้สมัครรายใดและจากพรรคการเมืองใด คว้าชัยชนะพา ส.ส.เข้าสู่สภาได้สำเร็จ